พร้อมทำงานหนักนำปท.มั่นคง

ทำเนียบรัฐบาล 5 ก.ย.-นายกฯ นำครม.ชุดใหม่ แถลงน้อมนำกระแสพระราชดำรัสเป็นแนวทางปฏิบัติงาน ย้ำ เป็นรัฐบาลที่เป็นความหวังของปชช. พร้อมทำงานหนักนำปท.สู่ความมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง   นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่  34 คน ถ่ายภาพร่วมกันหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้น นายกรัฐมนตรีแถลง ว่า วันนี้(5 ก.ย.) ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน และทุกคนที่มาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน รัฐบาลนี้มีความตั้งใจ ปัญหามีมากมาย เราจะทำงานลืมความเหน็ดเหนื่อย ทุกวัน ทุกนาที เราจะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง

“วันศุกร์ที่ 8 และวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้จะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของประชาชน เพื่อนำมาเป็นเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และวันจันทร์ที่ 11 ก.ย.จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา รัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการที่ประชาชนมีส่วนร่วม รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต ส่วนการประชุมครม.นัดพิเศษพรุ่งนี้จะคุยเรื่องเดียว คือ การเตรียมตัวแถลงนโยบายต่อรัฐสภา” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนนายกรัฐมนตรีจะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลชุดนี้ทุกคนให้ความสำคัญ แต่ขอไปพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เพราะทุกคนน่าจะมีความคิดที่ดี แล้วจะแจ้งให้ทราบ เช่นเดียวกับการแบ่งงานด้านความมั่นคงจะต้องจะพูดคุยกันก่อน เพราะบางคนเพิ่งพบกันครั้งแรก

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ยังล่าช้าที่จะมีผลบังคับใช้เดือนพฤษภาคม 2567 ว่า รัฐมนตรีทุกคนทราบถึงปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม คิดว่าคงมีไม่มีอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน อะไรที่ทำได้ก่อนก็จะทำทันที

เมื่อถามว่าจะใช้เวลาประเมินผลงานครม.กี่เดือน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงแล้วแต่เรื่องเพราะบางเรื่องอาจต้องใช้เวลานาน และขอความเป็นธรรมให้กับรัฐมนตรีทุกคน แต่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจในปัญหาของประชาชน ดังนั้น เรื่องการเร่งทำงาน เรื่องการทำงานจนลืมความเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่ประเด็น ขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานก่อน


ส่วนนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะทำใน 100 วันแรกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยบอกว่าจะทำภายใน 100 วัน แต่จะพยามทำให้เร็วที่สุด คิดว่าสามารถทำได้ในไตรมาสที่ 1 ของปีหน้า และยืนยันว่าจะจ่ายงวดเดียว

เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรคการเมืองจะมีความเป็นเอกภาพหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาที่เผชิญ คงไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แต่จะเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ จะทำอย่างไรให้ต่างชาติหันกลับมาสนใจประเทศไทย ว่า ยังมีหลายเรื่อง ต้องไปพูดคุยกัน แล้วแต่เรื่องที่จะไปเจอกับผู้นำในแต่ละประเทศ และอาจจะเจอนักธุรกิจด้วย แต่ขณะนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน ขอเตรียมงานก่อน

ส่วนการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ขอให้รอหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาก่อน ส่วนการวางตัวรองนายกรัฐมนตรีที่จะดูแลด้านกฎหมาย ขณะนี้วางตัวไว้แล้ว แต่ขอให้รอหลังแถลงรัฐบาลก่อน ทุกอย่างต้องพูดคุยกัน เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน เราตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องถามความคิดเห็นของรัฐมนตรีทุกคน

เมื่อถามว่าการที่ระบุว่ารัฐบาลนี้คือความหวังของประชาชนจะบอกได้หรือไม่ว่าต้องใช้เวลาเท่าใดที่ประชาชนจะมีเงินมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นคำถามที่เชื่อว่าประชาชนทุกคนก็อยากจะทราบ วันนี้ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่สำคัญที่สุดที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ทุกวัน มั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนจะทำงานอย่างหนัก พยายามเข็นนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน บางอย่างอาจทำได้เร็ว บางอย่างทำได้ช้า แต่จะไม่เอามาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำทั้งหมด

เมื่อถามถึง การพูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในวงรับประทานอาหารเที่ยงวานนี้ ที่ช่วงหนึ่งระบุว่า “งานไหนทำไม่ได้ ให้เปลี่ยนคน” นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่หมายความว่า อะไรที่ทำได้ ทำไปก่อน อะไรที่ติดขัดอยู่บ้างก็ทำต่อไป แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย

“ไม่มีช่วงฮันนีมูน เพราะตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาล ก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูล รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน แต่ยังไม่สามารถสั่งการได้ ต้องรอให้แถลงนโยบายรัฐบาลก่อนจึงจะสั่งการได้ และในวันศุกร์นี้จะลงพื้นทีาภาคอีสานเก็บข้อมูลอีก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนจะนอนทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พร้อมระบุว่า ขอดูก่อน

เมื่อถามว่า หากจะให้นายกรัฐมนตรีพูดให้ดังที่สุดหนึ่งประโยคไปถึงประชาชนอยากพูดอะไรที่สุด นายกรัฐมนตรี นิ่งคิด ก่อนกล่าวว่า เป็นอะไรที่ยากถ้าให้พูดประโยคเดียว โดยขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง พวกเราตระหนักถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางความคิด รัฐบาลจะให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียม และพยายามเดินไปข้างหน้าจัดการกับปัญหานี้ให้เร็วที่สุด และมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไป เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]