“นพ.ชลน่าน” ลั่นคุย “ก้าวไกล” ไม่ได้ชวนร่วมรัฐบาล

รัฐสภา 10 ส.ค. – “นพ.ชลน่าน ” ลั่นคุย “ก้าวไกล” ไม่มีประเด็นชวนร่วมรัฐบาล แค่ขอเสียงโหวตหนุนนายกฯ เท่านั้น ด้าน “ภูมิธรรม” เผยเดินสายคุยทุกพรรค แต่ไม่คาดคั้นคำตอบ มั่นใจโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ


ภายหลังนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมแถลงข่าวได้ตอบคำถามสื่อมวลชน

นายวราวุธ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีปัญหากรณีที่พรรคเพื่อไทยขอเสียงกับพรรคก้าวไกล เพื่อโหวตนายกฯ กังวลจะมีปัญหาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ว่า การที่แต่ละพรรคได้แสดงเจตจำนงที่จะทำงานร่วมกันแล้วก็เป็นหน้าที่ของแต่ละพรรคที่จะต้องช่วยกันหาคะแนนเสียง โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้ 376 เสียง เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย  ซึ่งการที่พรรคชาติไทยพัฒนาตอบรับเข้าร่วมการตั้งรัฐบาลแล้วก็จะพยายามหาคะแนนเสียงเพื่อที่จะช่วยกันโหวต ทำให้เกิดโอกาสแรกในการตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด


ส่วนกรณีส.ว.ระบุว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปขอเสียงสนับสนุนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล จะเป็นการหลอกเพื่อให้ถอยไปเป็นฝ่ายค้านปลอม ๆ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรากับพรรคก้าวไกล พยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ผลการทำหน้าที่ 312 เสียง ไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงในรัฐสภา และพรรคเพื่อไทยได้รับการส่งมอบจากพรรคก้าวไกลให้เป็นการนำจัดตั้งรัฐบาลภายใต้เงื่อนไข 8 พรรคร่วม ซึ่งเราได้พยายามอย่างถึงที่สุดในการขอคะแนนจากทุกฝ่าย เพราะใน 312 เสียง มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วถ้าเราเดินทางเดิมเราก็ได้แค่ 324 เสียง ก็คงไม่มากไปกว่านั้น จึงต้องหาความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย

“จากการที่เราไปสอบถามไม่ว่าจะเป็นรายบุคคลทั้งส.ส.และส.ว. และพรรคการเมืองที่เราทำอย่างเปิดเผย เพราะเราต้องการคำตอบที่เปิดเผยว่าทำไมเค้าถึงไม่ลงคะแนนให้ในกรณีที่เราจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล คำตอบชัดไม่ว่าจะมีมาตรา 112 แก้ไขหรือไม่แก้ไข ก็ไม่สามารถร่วมลงคะแนนได้มีเพียง 1 พรรคการเมืองเท่านั้นที่บอกว่าถ้ารวมปลดล็อคเงื่อนไขไม่แตะต้องมาตรา 112 เขาสามารถ ร่วมรัฐบาลได้เราจึงมีความจำเป็นในการหาเสียงร่วมจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขว่าถ้ามีพรรคก้าวไกลอยู่จะไม่ได้คะแนน การบริหารจัดการเรื่องนี้ เราจำยอมที่จะต้องทำ เราไม่เคยเกลียดพรรคก้าวไกล เราไม่เคยจะปฏิเสธเสียงพี่น้องประชาชนที่ให้มาแต่ในสถานการณ์อย่างนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าทำอะไรเลยปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้เท่ากับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อประชาชนต่อประเทศชาติบ้านเมือง ดังนั้นการที่เราจะแสวงหาเสียงเพิ่มเติมก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่เราได้รับมอบหมาย”นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนการที่ส.ว.มีข้อกังวลหลังพรรคเพื่อไทยเดินหาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมอื่นๆที่เราประกาศไปแล้วโดยไม่มีพรรคก้าวไกล การที่เราไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล หรือ พรรคใดๆ เพื่อขอคะแนนในการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่มาจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราติดล็อครัฐธรรมนูญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย อย่างกรณีที่เราไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) เพียงเพื่อไปสอบถามว่า เป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่เราจะมาปลดล็อกเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ  เราไม่ได้ ไปเชิญชวนพรรคก้าวไกลให้มาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีพันธะสัญญาว่าจะต้องเอาพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลหลังจากนี้ ผมเชื่อว่าความกังวลของส.ว. บางส่วนเราสามารถที่จะตอบคำถามได้โดยพฤติการณ์พฤติกรรมที่เราทำอยู่ และให้ความมั่นใจกับทุกภาคส่วน เชื่อว่าน่าจะได้รับการยอมรับ


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการ เพราะไปทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกคน ทั้ง ส.ส. และส.ว. เพราะต้องการสลายขั้วความขัดแย้งในทุกพรรคการเมือง และยืนยันไม่ใช่เชิญพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ดังนั้นไปเพื่อรับฟังความเห็น เพื่อสร้างการเมืองมิติใหม่ โดยพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล หรือพรรคฝ่ายรัฐบาล  ฝ่ายค้าน จะทำงานการเมืองสร้างสรรค์ ไม่คิดว่าต้องทำงานตรงข้ามกันเสมอ เพราะได้พูดคุยกันแล้วว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราทำได้ทุกเรื่อง ยกเว้น การแก้ไขม.112 และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศ ทั้งนี้ทุกพรรค ทุกกลุ่มเราไปขอเสียงโหวตนายกฯของพรรคแล้วทุกพรรคทุกกลุ่ม แต่หลังจากนี้จะให้เป็นไปตามกรอบและระยะเวลา

“ผมไม่เชื่อว่าส.ว.หรือส.ส.หรือองค์กรต่าง ๆจะขอความร่วมมือ จะมีปัญหา ประเด็นที่พูดชัดคือ ตั้งรัฐบาลมมิติใหม่ ไม่ใช่คำนึงถึงประโยชน์ว่าพรรคจะครองกระทรวงไหน เพราะต้องการแก้ไขวิกฤตประเทศ ขอให้ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ทุกพรรคที่เชิญเชื่อมั่นและมั่นใจในคุณภาพของพรรคเพื่อไทยที่จะนำไปสู่การแก้ไขวิกฤตประเทศ” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยประกาศสลายขั้วยังเหลืออีกสามพรรคการเมืองคือพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ทำไมถึงไม่พูดคุยเจรจาเพื่อให้ร่วมรัฐบาล ที่คาดว่าจะสามารถการันตีเสียงส.ว. ได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ได้ไปเรียนเชิญใครร่วมรัฐบาล แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอันดับแรก เชิญให้มาร่วมกันโหวตให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย พร้อมระบุว่าทุกพรรค ทุกกลุ่มเราได้พูดคุยมาหมดแล้ว แต่กระบวนการที่จะมาซึ่ง ข้อสรุปต้องไทยเป็นไปตามกระบวนการตามกรอบ

ส่วนหากพรรคก้าวไกล ไม่ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร จะดึงพรรค ประชาธิปปัตพลังประชารัฐรวมไทยสร้างชาติให้ โหวตให้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.)เราได้พูดถึง สถานการณ์พิเศษและเจตจำนงของพรรคเพื่อไทยและเราให้แต่ละฝ่ายไปไตร่ตรองและคิดหลังได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเราไม่ได้ หยุดสิ่งที่เราคิดและการดำเนินการเพราะเรายังไม่ได้ต้องการคำตอบให้ชัดเจนว่าต้องทำหรือไม่ทำ วันนี้ เราทำคู่ขนานกันไปพรรคไหนพร้อมจะเปิดตัวทีละพรรค ทุกพรรคคุยแล้วแต่ไม่ได้คาดคั้นคำตอบ หากไม่พร้อมขอให้แสดงให้เห็นในโหวตนายกฯ  “นายภูมิธรรม กล่าว

ส่วนจะมีพรรคใดเข้ามาร่วมรัฐบาลอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้รอดูวันที่ประธานรัฐสภานัดให้โหวตนายกฯ  วันนั้นจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่าใครร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็จะได้เห็น การจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีใครบ้าง และพรรคเพื่อไทยต้องทำให้จบในวันที่ 17 สิงหาคม พร้อมแสดงให้เห็นถึงเสียงว่าจะโหวตนายกฯ ให้ได้แบบม้วนเดียวจบ

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยต้องตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ โดยจะแสวงหาหนทางที่ทำให้ได้ บนประโยชน์ของประเทศและประชาชน เรายอมรับว่าพรรคเพื่อไทยใช้ต้นทุนสูงมาก ในการทำงานครั้งนี้ เพราะเรารณรงค์ให้ประชาชนเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แต่เราทำไม่สำเร็จ ก็ต้องยอมรับ เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ก็ต้องบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ภายใต้การพูดคุยกับทุกพรรคการเมือง คือแสดงความมั่นใจว่าเป็นเสียงข้างมาก ดังนั้นที่คุยเบื้องต้นมีเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง ส่วนจะถึง 280 -300 เสียงหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนการทำงาน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัดในทางเลือก หากทางนี้เป็นไปไม่ได้ ต้องหาทางเลือกเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง ผมมั่นใจว่าประเทศต้องกลับมาการแบ่งขั้ว แบ่งสี และต้องทำหน้าที่ให้ประเทศเดินหน้าได้โดยดึงความร่วมมือจากทุกฝ่ายมาร่วมมือกัน” นพ.ชลน่าน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย