“ประชาธิปัตย์” ยังเลือกหัวหน้า-กก.บห. ชุดใหม่ไม่ได้

โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ 6 ส.ค.- ล่ม! ไม่เป็นท่า “ประชาธิปัตย์” ยังเลือกหัวหน้า-กก.บห. ชุดใหม่ไม่ได้ ด้าน “เฉลิมชัย” แถลงประณามพฤติกรรมคนบางกลุ่ม วอนปลุกจิตสำนึก มององค์ประชุม “ล่มไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติแต่ล่มโดยเจตนา” สนองความต้องการทางการเมือง ตัดพ้อประชุมครั้งหน้า กลางเต็นท์-กินข้าวกล่อง ใช้งบประชุมครั้งละ 3-4 ล้านบาท ลั่นมี สส.ในมือ 21 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญวิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่2 ประจำปี 2566 โดยมีวาระเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นัดหมายสมาชิกเริ่มประชุมในเวลา 09.30 น. ซึ่งมีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน ทั้งนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งแกนนำพรรค สส. อดีต สส. และสาขาพรรค ที่เป็นองค์ประชุม โดยแต่ละคนได้กล่าวทักทายและพูดคุยกันอย่างปกติ และยังเชื่อว่าการประชุมน่าจะดำเนินไปได้อย่างปกติ

แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดเริ่มประชุม น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรคได้แจ้งว่าขณะนี้มีองค์ประชุม 210 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะตามข้อบังคับพรรคจะต้องมีองค์ประชุม 250 คนขึ้นไป จึงขอให้รอสมาชิกที่กำลังเดินทางมา จากนั้น นายเฉลิมชัย มีสีหน้าเคร่งเครียด และเดินเข้าออกห้องประชุมตลอดเวลา พร้อมกับแจ้งกับสื่อมวลชนว่าอย่าไปไหน เพราะจะมีแถลงข่าวใหญ่เร็วๆ นี้


ต่อมาเวลา 10.36 น. น.ต.สุธรรม ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเราได้รอสมาชิกมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว แต่มีสมาชิกมาร่วมประชุม 223 คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงขออนุญาตนำเรื่องนี้ไปหารือกับรักษาการกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาวันเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ต้องขออภัยสมาชิกทุกท่านด้วย ขณะที่สมาชิกส่วนหนึ่งได้แยกย้ายเดินทางกลับ บางส่วนยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประชุมล่มกันอย่างเคร่งเครียด

จากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที โดยนายเฉลิมชัย ระบุว่า ขอประณามพฤติกรรมซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน คำประกาศอุดมการณ์ของพรรคเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 ข้อที่ 1 คือพรรคจะดำเนินการทางการเมืองโดยวิถีธรรมอันบริสุทธิ์แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์วันนี้สร้างความเสียหายให้กับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นตนต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริงเป็นครั้งแรกว่าเกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการไม่ครบองค์ประชุม ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการประชุมใหญ่ของพรรคทั้ง 2 ครั้งได้ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.ค.66 และครั้งนี้ 6 ส.ค. ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เกิดโดยพฤติกรรมของกลุ่มคนบางกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์เอง ซึ่งตนต้องขอโทษสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ที่มีการให้องค์ประชุมออกจากห้องประชุม มีการให้องค์ประชุมไม่ลงชื่อในการประชุม มีการให้องค์ประชุมไปเที่ยว สปป ลาว เพื่อจะไม่ต้องมาร่วมประชุม ตนถือว่าพฤติกรรมเหล่านี้ เป็นพฤติกรรมที่เลวทรามมากมันไม่ควรจะเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมือง จึงอยากจะฝากอีกครั้งให้ช่วยปลุกจิตสำนึกของคนในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เชื่อว่าเขารู้ว่าเขากำลังทำพฤติกรรมอะไรกันอยู่ ขอให้มีจิตสำนึกรักพรรคประชาธิปัตย์สักนิด ตนเชื่อว่าถ้าจิตสำนึกกลับมาพรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปข้างหน้าได้ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีระเบียบมีข้อบังคับ เราไม่สามารถทำอะไรโดยลำพัง ทำอะไรโดยความคิดส่วนตัวได้ พรรคประชาธิปัตย์มีกฎข้อบังคับแต่วันนี้ทุกคนฉีกข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์เสียเอง ซึ่งจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมถอย ต้นในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์พร้อมด้วย สส. และอดีตกรรมการบริหาร รวมถึงสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเหล่านี้ วันนี้จึงขอแถลงประณามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้ทุกกลุ่มที่เล่นเกมการเมืองเพื่อหวังตอบสนองความต้องการของใครบางคน ถ้าคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของก็ต้องทำให้เหมือนกับคำพูดของท่าน

นายเฉลิมชัย ยืนยันว่าตนพร้อมจะวางมือทางการเมืองและเคยยื่นข้อเสนอไปว่าถ้าตนเองเป็นอุปสรรคของพรรคประชาธิปัตย์ก็ขอให้มีการเลือกตั้ง ขอให้ดำเนินการตามข้อบังคับพรรค ถ้าตนเป็นอุปสรรคจริงก็พร้อมที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้ทุกคนสบายใจ และใครที่ไม่มีหน้าที่กับพรรคประชาธิปัตย์ก็ขออย่าให้มาแสดงความคิดเห็น


นายเฉลิมชัยกล่าวว่าการประชุมพรรคประชาธิปัตย์แต่ละครั้งใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท เกือบ 4 ล้านบาท เป็นเงินที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจให้พรรคนำมาทำกิจกรรมทางการเมือง ไม่ใช่ให้นำเงินมาใช้ผลาญเล่นแบบนี้ วันนี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายต้องดูให้ดีว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่ คงไม่ต้องบอกว่าเป็นใครคงรู้ตัวกันหมด

นายเฉลิมชัย ยังกล่าวว่าหลังจากนี้ก็ต้องเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค ซึ่งต้องมีการนัดประชุมครั้งใหม่ เมื่อถามว่าหากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยเรื่อยจะมีวิธีการอย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่าที่จริงแล้วรักษาการก็มีอำนาจเต็มในการดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคก็อยากให้เดินหน้า

เมื่อถามว่าจะสามารถดำเนินการให้เด็ดขาดอย่างไรได้บ้าง นายเฉลิมชัย กล่าวว่าในข้อบังคับพรรคกำหนดชัดเจนในส่วนของการประชุมคงไม่สามารถไปทำอะไรได้ แต่จะให้ฝ่ายกฎหมายไปดูว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินไปข้างหน้าจะมารากถ่วงกันแบบนี้ตนว่าไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่าองค์ประชุมล่ม รายชื่อผู้ที่ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นรายชื่อเดิมหรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้สามารถดูที่นายทะเบียนของพรรคได้ตนยืนยันว่านี่ไม่ใช่การล่มโดยธรรมชาติแต่เป็นการล่มโดยเจตนา ซึ่งก่อนล่มทุกครั้งตนทราบก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันทุกครั้ง

เมื่อถามว่าครั้งนี้ก็ทราบล่วงหน้าใช่หรือไม่ว่าองค์ประชุมจะล่ม นายเฉลิมชัยกล่าวว่าทราบเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ส่วนภายในเดือนสิงหาคมนี้จะได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่หรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าถ้ามีจิตสำนึกกว่านี้ ขอฝากให้ช่วยกันปลุกจิตสำนึก

นายเฉลิมชัย ยังกล่าวว่า การประชุมครั้งหน้า ตนน่าจะต้องไปเช่าเต็นท์มา เพราะพรรคก็จะไม่มีตังค์อยู่แล้ว ครั้งหนึ่งก็ 3-4 ล้านบาท ไปเช่าเต็นท์มาก็ได้เหมือนกัน และอาจจะต้องกินข้าวผัดกระเพราไข่ดาว ไม่ได้กินข้าวกล่องดีๆ

เมื่อถามย้ำว่ามองเรื่ององค์ประชุมล่มเพื่อต้องการอะไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนจึงอยากฝากสื่อไปถามว่าอยากให้เกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่าฝากไปแล้วกันถ้ามีจิตสำนึกหรือสันดาน ที่ตนพูด ถ้ามีจิตสำนึกก็จบ ขณะที่วันนี้ สส. ก็มาเข้าร่วมประชุมเกือบครบ

นายเฉลิมชัย ยังบอกว่าตอนนี้มี สส. ที่ต้องการเดินแนวทางเดียวกับตน มีทั้งหมด 21 คน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]