เพื่อไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาลไม่มีก้าวไกล เสนอ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ

กทม. 2 ส.ค.- พรรคเพื่อไทย แถลงผลหารือก้าวไกล แยกจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล เสนอ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ ยันไม่แก้มาตรา 112 โดยจะแถลงอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการหารือกับพรรคก้าวไกล และอีก 7 พรรคทางโทรศัพท์ โดยมีข้อสรุปว่า เพื่อการเริ่มต้นใหม่หาทางออกให้ประเทศ หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และหาเสียงกับ สส. และ สว. แต่พบว่ามาตรา 112 ยังเป็นเงื่อนไขหลักที่จะไม่ทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล

ดังนั้นจากการหารือในวันนี้ พรรคเพื่อไทยขอถอนตัวจากการหารือและเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล และเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะไม่สนับสนุนการแก้มาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อไทยจะใช้ความพยายามรวบรวมเสียงให้เพียงพอกับการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้


โดยในพรุ่งนี้ช่วงบ่าย จะแถลงอย่างเป็นอย่างทางการ ถึงพรรคที่จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง 8 พรรคเดิม บางพรรคตอบรับมาแล้ว เชื่อว่าการโหวตนายเศรษฐา จบได้ในวันที่ 4 สิงหาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรค แถลงร่วมกัน ภายหลังจากการประชุม พรรคจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค

นายแพทย์ชลน่าน อ่านแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยในฐานะที่ได้รับมอบภารกิจว่า เริ่มต้นใหม่ร่วมผ่าทางการหาทางออกให้กับประเทศ เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ได้จับมือร่วมกับพรรคการเมืองอีก 6 พรรค รวมเสียงได้ 312 เสียง เพื่อจะตั้งรัฐบาล โดยมีพรรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประเมินกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่เมื่อแคนดิเดตนายรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลไม่ได้รับเสียงพอ เพราะเงื่อนไขของพรรคการเมืองอื่นๆ และสมาชิกวุฒิสภา ไม่ยอมรับประมวลแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพรรคก้าวไกล รับทราบท่าทีเหล่านี้ แต่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนนโยบาย


และเมื่อพรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้เชิญหลายพรรคการเมืองเข้าหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจากการส่งตัวแทนรับฟังความเห็นจากสมาชิกวุฒิสภาทั้งเป็นกลุ่มและรายบุคคล พบว่านโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยังคงเป็นเงื่อนไขหลัก ขณะที่บางพรรค บางคน แสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าไม่สนับสนุนถ้าพรรคก้าวไกลร่วมจัดตั้งรัฐบาลในทุกกรณี พรรคเพื่อไทยจึงหารือกับพรรคก้าวไกล เพื่อขอให้ถอนตัวจากการร่วมมือและจัดตั้งรัฐบาล โดยเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐาทวีสิน ขอยืนยันชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลเข้าไปอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยจะใช้ความพยายามรวบรวมเสียงให้เพียงพอกับการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ในภารกิจที่สำคัญดังนี้คือ จะผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอันเป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และก่อให้เกิดวิกฤติของประเทศ โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และให้ทำประชามติจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เข้ามายกร่างเพื่อเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นโยบายที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มีความเห็นชอบ เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นสมัครใจ ผลักดันการกระจายอำนาจ ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกโอกาส พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการนำรัฐบาลพร้อมที่จะผลักดัน เพื่อให้นโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนสามารถดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จ
พร้อมย้ำว่าพรรคเพื่อไทยขอแสดงความจริงใจต่อเพื่อนมิตรทุกพรรคการเมือง และสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งพี่น้องประชาชนว่านี่คือแนวทางที่จะรักษาสถาบันของชาติให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ และช่วยผลักดันความต้องการของประชาชน ภายใต้ข้อจำกัดและเส้นทางที่ยากลำบากนี้ไว้ให้ได้ เพื่อผลภารกิจนำพาประเทศฝ่าวิกฤตินี้ไปให้ได้ และจะใช้ความสามารถในบุคลากรของพรรคเพื่อไทยแก้วิกฤติให้พี่น้องประชาชนโดยเร็ว ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่

สำหรับการลงมติในวันที่ 4 สิงหาคมนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกลภายใต้ข้อตกลงว่าเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกลว่าจะลงคะแนนหรือไม่ แต่มั่นใจว่ามีเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเพียงพอ

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลใหม่นั้น อันไหนบ้างนั้น จะมีข่าวให้กับประชาชนในพรุ่งนี้ ส่วน สว. จะโหวตให้เราหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข่าวที่เราแถลงในวันนี้และแนวทางที่ชัดเจน ในการที่เราแสดงเจตนารมณ์ต่อข้อกังวลของ สว. และพรรคการเมือง มั่นใจว่าภายใต้เงื่อนไขที่แถลงไปน่าจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของ สว. ที่เคยมีเงื่อนไขเดิมๆ ไว้ ซึ่งเราพยายามลดเงื่อนไขเหล่านั้นทั้งหมดก็น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้ สว. ให้ความเห็นชอบได้

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด่วยว่า บรรยากาศพูดคุยกับแกนนำพรรคก้าวไกลวันนี้เป็นไปด้วยดี พรรคก้าวไกลรับฟังด้วยดี ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าต้องการความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจจะมีความคลาดเคลื่อนจากการนัดหมายก็ทำความเข้าใจกัน และสรุปว่าไม่ได้เป็นการบอกเลิก แต่เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องชี้ถึงเหตุและผลในการที่จะต้องแยกมาจากตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกล

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะสามารถนำพาประเทศชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นได้หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องแรกในการหมวดเลือกนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงสนับสนุน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่าจะพยายามหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด โดยรัฐบาลที่เข้มแข็งต้องมีเสียงมากกว่า 300 เสียงขึ้นไป แต่ว่าถ้าได้ 320 เสียงก็จะทำให้รัฐบาลมั่นคง ซึ่งเชื่อว่านโยบายที่พรรคนำเสนอ ประกอบกับพรรคร่วมเชื่อว่าจะสามารถทำงานให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองและแก้ปัญหาวิกฤติต่างๆ ได้

นายประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้มีการหารือพบปะกับพรรคก้าวไกลร่วม 2 ชั่วโมง จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งไปยังแกนนำพรรคการเมือง 8 พรรค ถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทย โดยได้แจ้งแต่ละพรรคที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเดิมว่าพรรคเพื่อไทยได้แจ้งถึงเหตุผลและความจำเป็นในการจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดตั้งครั้งนี้ ส่วนพรรคร่วมอื่นจะตัดสินใจอย่างไร ขอให้เป็นดุลยพินิจของแต่ละพรรคหากเห็นว่าแนวทางที่พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอไปสามารถเข้าร่วมได้พรรคเพื่อไทยก็ยินดี ที่จะร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนการโหวตของพรรคก้าวไกลนั้นได้แจ้งไปแล้วว่าเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกลเอง และในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งบางพรรคตอบรับมา แต่บางพรรคยังไม่มีท่าที

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวถึงเสียงที่พอเหมาะในการตั้งรัฐบาลว่า สามารถบริหารประเทศได้ ขณะนี้กำลังทำงานอยู่ คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะสามารถแถลงผลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพยายามชี้แจง จนถึงนาทีสุดท้าย ซึ่งที่ช้าทั้งหมดไม่ได้ดึงเวลา แต่ได้รับการร้องขอจากพรรคก้าวไกล ซึ่งรอจนถึงเที่ยงคืนไม่มีการติดต่อมา ดังนั้น วันที่ 1 สิงหาคม จึงเริ่มกระบวนการของพรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้คุยกับพรรคก้าวไกลมาตลอด มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เกิดจากเราดึงเกมทั้งหมดการประชุม 8 พรรคร่วมที่ดีเลย์ไป เพราะก้าวไกลขอให้รอจนถึงเวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม แต่รอจนกระทั่ง 24.00 น. ก็ไม่มีการติดต่อ แล้ววันนี้จึงเข้าสู่กระบวนการตามสิ่งที่ควรจะเป็น และได้โทรศัพท์ชี้แจงกลับอีก 6 พรรคร่วมว่าต้องเลือกทางเดินที่จะเสนอจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อให้สามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่ออกมา

“ขอยืนยันว่าตกลงกันครั้งนี้ของก้าวไกลกับเพื่อไทย ไม่ใช่การเกี๊ยเซี๊ยทางการเมือง ยืนยันการตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล แต่นโยบายอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ทางเราพร้อมจะผลักดัน” นายภูมิธรรม กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย