ก้าวไกลเชื่อเพื่อไทยไม่ทิ้งกัน

ตึกไทยซัมมิท 25 ก.ค.-“ชัยธวัช” ยังเชื่อใจเพื่อไทย ขออย่ารีบสรุป 8 พรรคแตกหรือถ้าไม่จับมือขั้วเก่าแล้วจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ค้านให้ศาลรธน.ตีความโหวต “พิธา” ซ้ำ เป็นเรื่องที่สภาฯ หาทางออกเอง


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ยกเลิกการประชุมร่วม 8 พรรคที่ร่วมการจัดตั้งรัฐบาล ในวันนี้ (25 ก.ค.) ว่า ได้รับแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ในการประสาน สส. และ สว. ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ขณะเดียวกันทราบว่าจะมีการยกเลิกการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค. ด้วย ส่วนท่าทีของพรรคไทยสร้างไทยที่บอกว่าไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ถือเป็นสัญญาณอะไรในการจับมือกันของ 8 พรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เพราะสิ่งที่คุยกันมาตลอด ตั้งแต่ตอนทำ MOU คือเรื่องของการแก้ไขมาตรา 112 ไม่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงในการร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว อย่าเพิ่งรีบสรุปว่า 8 พรรคเริ่มแตกกัน

ส่วนที่มีข้อเสนอให้พรรคเพื่อไทยทำ MOU ใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้รอฟังจากพรรคเพื่อไทยดีกว่า ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรมา และทั้งหมดจะต้องดูในรายละเอียด คิดว่าการที่พรรคเพื่อไทยขอเลื่อนการประชุม 8 พรรคไปก่อนเป็นการสะท้อนถึงความพยายามหาทางออกต่าง ๆ ให้ดีที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน การทำงานร่วมกันก็ต้องมีความไว้ใจกัน


สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกลประกาศไม่ร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งไปยังพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยน่าจะทราบจากข่าวแล้ว ตามมติของที่ประชุม สส.พรรคก้าวไกลเป็นอย่างไร วันนี้หากได้ประชุมร่วม 8 พรรคก็จะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ แล้วก็ตามพรรคก้าวไกลยังคงยึดมั่นในเป้าหมายสำคัญที่สุดคือความพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้พื้นฐานของ 8 พรรคการเมืองให้สำเร็จตามเจตจำนงที่ประชาชนได้แสดงออกไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง

“ส่วนร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่นั้น ขอให้รอฟังรายละเอียดจากพรรคเพื่อไทยก่อน แม้จะเชิญหลายพรรคการเมืองมาพูดคุยกัน แต่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่ได้เชิญมาร่วมตั้งรัฐบาล เพียงแต่รับฟังความคิดเห็น ดังนั้น หลังจากนี้คงจะได้พูดคุยกันเร็วที่สุด เพราะเวลามีจำกัด แต่เมื่อทางเพื่อไทยยังไม่พร้อม ก็อาจขยับเวลาไปอีกนิดหน่อย” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากการจัดตั้งรัฐบาลตกไปอยู่ในมือพรรคอันดับ 3 นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่ค่อยกังวล หากแต่พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจับมือกันแน่น ปั่นพลิกขั้วรัฐบาลจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ และเชื่อว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา ฉะนั้นวันนี้ยังต้องพยายามจับมือกันให้แน่น คิดว่าสิ่งที่ทำให้พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคจับมือกันแน่นคือประชาชน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ทราบว่ามีข้อเสนอ มากี่ Option บ้าง จากพรรคเพื่อไทยที่จะมาพูดคุยกัน


นายชัยธวัช กล่าวถึงการประสานขอเสียงสนับสนุนจาก สว. ว่าได้พูดคุยกับ สว. ที่ไม่ได้โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มีสัญญาณดี ๆ จากหลายคน ว่าพร้อมจะโหวตให้ แม้ว่าพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาลอยู่ 

สำหรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้วินิจฉัยกระบวนการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาโดยตลอดว่าอะไรที่เป็นอำนาจของสภาอยู่แล้ว ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมามีอำนาจเหนือสภา ยกเว้นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดชัดว่าให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การพยายามให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ สส.พรรคก้าวไกลไม่ไปยื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีคนยื่นไปแล้วก็ต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับพิจารณาหรือไม่ 

“ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่องไว้ ยังเชื่อว่าสภาฯ จะมีทางออกอื่น ซึ่งคงต้องหารือกับประธานรัฐสภาต่อไปเมื่อมีความเห็นชัดเจนมากจากนักกฎหมายทั่วประเทศว่ามติการตีความข้อบังคับ การประชุมรัฐสภา ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซ้ำ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ สามารถที่จะมีทางออก ที่สภาฯ จะจัดการกันเองได้ ผมเห็นด้วยที่จะปลดล็อกกับมติที่พรรคก้าวไกลเห็นว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นข้อจำกัดในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคก้าวไกล เพื่อไทยหรือมาจากพรรคอื่นก็ควรจะเสนอชื่อได้ ครั้งแรกเราอาจจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.ไม่พอ ครั้งต่อ ๆ ไปอาจจะมากขึ้นตามลำดับได้ เราเห็นด้วยที่จะปลดล็อกเรื่องนี้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางของศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ผมเชื่อว่าถ้าทางรัฐสภาปรึกษาหารือฝ่ายกฎหมายดี ๆ เราอาจจะมีทางออกอื่น คิดว่ากระบวนการประชาธิปไตยต้องมีทางออก จะตีความว่าทุกอย่างไปสู่ทางตันไม่ได้” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนข้อเสนอที่ให้เลื่อนเวลาโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรีออกไปจนกว่าวุฒิสภาจะหมดวาระนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่าข้อเสนอที่ให้รอ 10 เดือนนั้น เป็นการสะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่รู้สึกว่ารอได้ กับการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน แต่ระยะเวลา 10 เดือนก็อาจจะนานเกินไป ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือหากระบวนการเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้ ประเทศไม่ได้ถึงทางตันขนาดนั้น และหากปลดล็อกมติข้อบังคับการประชุมรัฐสภาจะช่วยได้มาก ซึ่งอาจจะไม่ได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยอาจจะใช้เวลามากสักหน่อย แต่สามารถจะตั้งรัฐบาลที่มีความชอบธรรมทางการเมืองได้ เป็นที่ยอมรับของประชาชน มีเสถียรภาพทางการเมือง ได้รัฐบาลที่มีศักยภาพที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยกลับมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อว่าประชาชนต้องการที่สุด

“ขออย่าสรุปว่าถ้าไม่รีบไปจับมือกับขั้วอำนาจเดิม จะไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ต้องรอไป 10 เดือน คนยังเชื่อว่าถ้า 8 พรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล ถ้าจับมือกันแน่น ไม่มีทางที่จะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ และยังเชื่อว่าสุดท้ายเมื่อถึงจังหวะหนึ่ง สว. น่าจะมีวิจารณญาณมากพอ ที่ไม่ต้องการฝืนความรู้สึกของสังคม ดังนั้น ต้องช่วยกันหาทางออกให้กับการเมือง พรรคก้าวไกลพยายามให้ดีที่สุดที่จะจัดตั้งรัฐบาลจากการเลือกตั้งให้ได้” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้วจะตัดสินใจเดินออกมาเองหรือรอให้พรรคเพื่อไทยปรับออก นายชับธวัช กล่าวว่า วันนี้ที่พรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ถ้าถึงสถานการณ์สุดท้ายจริง ๆ ไม่มีทางออกอื่นตนคิดว่า เป็นสิทธิ์ที่พรรคเพื่อไทยจะเลือก ว่าจะเลือกสมการจัดตั้งรัฐบาลแบบไหนแต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลเลือกคือจัดตั้งรัฐบาลให้ดีที่สุด ให้การจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชนเป็นไปได้ ฉะนั้นต้องรอฟังพรรคเพื่อไทย

สำหรับกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยระบุว่าพรรคก้าวไกลต้องเสียสละนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันใน 8 พรรค ไม่กังวลว่าจะมีปัญหาอะไรในอนาคต

นายชัยธวัชกล่าวถึงกระแสดราม่าเรื่องท่านั่งของ น.ส.รัชนก ศรีนอก สส.กทม. ระหว่างการประชุมรัฐสภาว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด แต่แน่นอนว่าหากมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่อความประพฤติ หรือการทำอะไรที่ไม่เหมาะสมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล เราก็จะสะท้อนให้สมาชิกฟังทุกครั้ง.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย