แห่กรี๊ด “พิธา” ลั่นศูนย์ราชการ เจ้าตัวข้องใจท่าที กกต.

ศูนย์ราชการ 11 ก.ค.- แห่กรี๊ด “พิธา” อยากให้เป็นนายกเร็วๆ ขณะ “พิธา” มั่นใจคำคัดค้านของพรรคที่ยื่นต่อ กกต. พร้อมตั้งข้อสังเกตท่าทีการเร่งวินิจฉัย ส่วน กกต.เริ่มประชุมส่งศาลรัฐธรรมนูญต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี พร้อมสมาชิกพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ( องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เมื่อนายพิธา เดินทางมาถึงได้มีกลุ่มแฟนคลับ พนักงาน ข้าราชการ และประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ทำงานและมาติดต่อหน่วยงานภายในอาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มารอให้กำลังใจ ส่งเสียงเชียร์ พร้อมระบุว่าตัวจริงหล่อมาก  นายกฯ หล่อมาก อยากให้เป็นนายกฯ ไวๆ  และต้องการถ่ายภาพร่วมกับนายพิธา  


ขณะที่ประชาชนบางส่วนเมื่อทราบว่านายพิธาเดินทางมาถึง ก็รีบออกมาและเดินไปส่งนายพิธาถึงลิฟต์ทางขึ้นสำนักงาน GISTDA นายพิธาโบกมือทักทาย พร้อมเดินผ่านสำนักงาน กกต. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องที่ กกต.กำลังมีการประชุมพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ แต่นายพิธาปฏิเสธที่จะตอบ ระบุเพียงว่า วันนี้ได้รับเชิญจาก GISTDA ให้มาพูดคุย แต่เมื่อสื่อถามว่า นายเรืองไกร อยากขอลายเซ็น นายพิธา กล่าวว่า เอาไปทำอะไรครับ ผมไม่ทราบเรื่อง ปกติลายเซ็นไม่ให้พร่ำเพรื่อ ปกติก็ให้พี่น้องประชาชน ก็จะไม่เหมือนกับที่เซ็นเป็นหลักฐานทางเอกสาร  ฉะนั้นถ้าจะเอาไปตรวจคงไม่มีประโยชน์ ให้เดานะ เมื่อผู้สื่อข่าวอธิบายว่า นายเรืองไกรอยากให้เซ็นหนังสือวิถีก้าวไกล นายพิธา กล่าวว่า อ๋อ ไม่ล่ะครับ วันนี้ผมตั้งใจมาประชุมกับ GISTDA ซึ่งน่าจะติดต่อมาหลังเลือกตั้งแต่ก็ยังไม่โอกาสมา เป็นเรื่องเกี่ยวกับภัยแล้งที่เกิดขึ้น ก็จะคุยว่าจะสามารถใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาภัยแล้งได้หรือเปล่า

เมื่อถามว่า นายเรืองไกรบอกว่าเอกสารที่พรรคยื่นคัดค้าน กกต.เป็นการใช้กฎหมายผิดมาตรา นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าฝ่ายกฎหมายของเราเช็กมาอย่างดีแล้ว อย่างไรก็ตาม คงต้องให้ กกต. วินิจฉัยว่าถูกหรือไม่ โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายได้เตรียมมาพอสมควร ไม่ได้เร่งรีบทำอย่างแน่นอน ซึ่งคาดเดากันมาในหลายเรื่องอย่างที่สื่อหลายสำนักสัมภาษณ์ว่ามีความคล้ายกันกับคดีวีลัค มีเดีย ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฉะนั้นฝ่ายกฎหมายของเราได้เตรียมตัวและเตรียมพร้อมไว้แล้ว ถ้ามีกรณีเร่งรัดผิดขั้นตอนใกล้วันเลือกนายกฯ ก็เป็นเรื่องที่เราคาดเดาไว้เรียบร้อยแล้ว


อย่างไรก็ตาม เมื่อนายพิธาขึ้นไปถึงห้องประชุมของสำนักงาน GISTDA เจ้าหน้าที่ GISTDA ต่างผละจากโต๊ะทำงานมาส่งเสียงเชียร์ต้อนรับนายพิธากันอย่างคึกคัก ซึ่งทางสำนักงาน GISTDA แจ้งว่า การหารือระหว่างผู้บริหารสำนักงานกับนายพิธาจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ และจะมีการแถลงข่าว

ทั้งนี้ ผู้สี่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายพิธากำลังเดินทางมาถึง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อคัดค้านหนังสือของนายพิธา ที่ส่งถึง กกต.เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา โต้แย้งกระบวนการพิจารณากรณีที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของนายพิธา ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยระบุว่า หนังสือที่นายพิธาส่งถึง กกต. อ้างมาตราข้อกฎหมายไม่ถูกต้อง และเห็นว่าการดำเนินการของ กกต.ชอบด้วยกฎหมายแล้ว โดย กกต.ดำเนินการสอบสวนในลักษณะเดียวกับที่ดำเนินการกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือหุ้นวีลัค และศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำววินิจฉัยในคดีดังกล่าวไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่ากระบวนการพิจารณา กกต.ชอบด้วยกฎหมาย 

นอกจากนี้ นายเรืองไกร ยังเห็นว่า ก่อนที่ กกต.จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีของนายพิธา ไม่จำเป็นต้องต้องเชิญนายพิธามาชี้แจงก่อน เพราะเป็นกรณีการยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ไม่ใช่การดำเนินการตามมาตรา 151 พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ตนก็เห็นว่าถ้าเป็นกรณีนี้จำเป็นต้องเชิญผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงก่อน และการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคแรกที่ให้สิทธิ ส.ส.เข้าชื่อยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่ได้มีการให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงก่อน ซึ่ง  ส.ส.พรรคก้าวไกลก็เคยใช้ขั้นตอนนี้ในการยื่นเรื่องผ่านประธานสภาฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาแล้ว และการพิจารณาของ กกต. ก็ไม่เร่งรีบ เพราะตนยื่นเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 พ.ค. และถ้าเทียบกับกรณียุบไทยรักชาติ ใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์เอง


นายเรืองไกร ยังกล่าวด้วยว่า ที่ครั้งนี้มายื่นหนังสือด้วยตนเอง ต่างจากที่ผ่านมาจะยื่นทางไปรษณีย์ ไม่ใช่เป็นเพราะทราบว่านายพิธาจะเดินทางมายังอาคารศูนย์ราชการ แต่ทราบว่า กกต.จะมีประชุมพิจารณาเรื่องนี้ต่อในวันนี้ จึงเกรงว่าหากส่งหนังสือทางไปรษณีย์จะมาถึงสำนักงาน กกต.ไม่ทัน จึงต้องเดินทางมายื่นเอง

“เมื่อนายพิธาจะเดินทางมาก็อยากจะพบ อยากจะขอลายเซ็นให้เซ็นหนังสือวิถีก้าวไกลที่ตนซื้อมา และได้อ่านแล้ว ซึ่งนายพิธาก็เขียนดี เหมือนกับที่นายธนาธร และนายปิยบุตร เขียน” นายเรืองไกร กล่าวพร้อมกับยกหนังสือวิถีก้าวไกลที่ซื้อมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู

 ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการเลือกตั้งได้เริ่มประชุมในเวลา 10.00 น. เป็นการประชุมต่อ เนื่องจากเมื่อวานนี้กรณีนายพิธา ถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งเมื่อวานนี้ในการประชุมครั้งแรก กกต.ยังไม่ได้ได้ลงมติว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ ดังนั้น กกต.จึงได้นัดประชุมในวันนี้ แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันว่าจะมีการลงมติหรือไม่ เนื่องจาก การที่ กกต.ได้มีการนัดประชุมล่วงหน้าในวันนี้และวันที่ 13 ก.ค. ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่า กกต.จะใช้เวลาในการพิจารณาประกอบกับการที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของคำร้องที่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื้อหาและข้อกฎหมาย โดยการพิจารณาของ กกต.ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จเมื่อใด             

ทั้งนี้ ในการพิจารณาของ กกต.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เป็นแนวทางในการพิจารณาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนการพิจารณาตามมาตรา 151 ที่ กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนไปก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องของการดำเนินคดีทางอาญา แต่ทั้งสองกรณีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการถือครองหุ้นสื่อที่จะต้องพิสูจน์ข้อมูลและหลักฐานว่านายพิธา ถือหุ้นจริงหรือไม่ และหุ้นนั้นเป็นกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชลหรือไม่ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย