ให้แสดงวิสัยทัศน์ ก่อนเลือก หน.ประชาธิปัตย์

      ประชาธิปัตย์  7 ก.ค.- “โฆษก ราเมศ” เผย ประชาธิปัตย์ ให้แคนดิเดตหัวหน้าพรรค แสดงวิสัยทัศน์ คนละ 7 นาที ตอกย้ำความเป็นสถาบันทางการเมือง ยึดหลักของความถูกต้องเพื่อให้เป็นตัวอย่างในสังคม


       นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคได้กำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ว่าจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 8.30 น. สืบเนื่องจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคได้ลาออกจากตำแหน่ง และตามข้อบังคับของพรรค มีการกำหนดให้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อที่จะเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคภายใน 60 วัน ขณะนี้พรรคได้เตรียมขั้นตอนกระบวนการไว้ โดยมีคณะกรรมการ 2 ชุด ประกอบด้วยชุดคณะกรรมการจัดการประชุม ที่มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นประธาน และชุดที่ 2 มีคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ และตน เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ปชป.) เพื่อมาดูแลในส่วนของข้อบังคับ โดยทั้ง 2 คณะได้มีการประชุม และเตรียมการไว้แล้วอย่างครบถ้วน

      นายราเมศ ได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยอดขององค์ประชุมมีจำนวนลดลงเล็กน้อย ซึ่งเดิมมีการกำหนดองค์ประชุมไว้ 19 กลุ่ม จากเดิมที่ได้แถลงไปก่อนหน้าคือจำนวน 374 คน ปัจจุบันมียอดรวมทั้งหมด 367 คน เนื่องจากมีองค์ประชุมบางท่านไม่สะดวกเข้าร่วมประชุม จึงทำให้ยอดองค์ประชุมล่าสุดมีจำนวน 367 คน ซึ่งตามกฎหมายพรรคการเมือง มีการกำหนดองค์ประชุมที่จะต้องมาให้ครบจำนวน 250 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมการไว้ถึง 367 คน โดยระเบียบวาระที่สำคัญในการประชุมใหญ่วิสามัญมี 2 วาระ คือวาระของการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะมีทั้งสิ้น 11 ตำแหน่ง รวม 41 คน และในจำนวนนี้ได้รวมตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย


“พรรคประชาธิปัตย์เราเป็นสถาบันทางการเมือง ถ้าเกิดใครจะบอกว่าเรากีดกัน ไม่ให้มีใครมาลงสมัคร หรือว่ามีการบิดเบือนไม่กระทำการข้อบังคับ ผมในฐานะที่เป็นดูแลเรื่องกฎหมายอยู่ ขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เราเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่เป็นสมาชิกพรรคที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อบังคับพรรค”  นายราเมศกล่าว

           พร้อมกันนี้ ได้ให้รายละเอียดถึงบังคับข้อที่ 31 ที่ระบุถึงคุณสมบัติของสมาชิกที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็น กก.บห. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่สมาชิกที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค เช่นผมเคยเป็นโฆษกพรรค เป็น กก.บห. ก็สามารถสมัครเป็น กก.บห. ชุดใหม่ได้ (2) เป็นหรือเคยเป็น คกก.สาขาพรรค กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกมาครบ 5 ปี ก็สามารถใช้ข้อนี้สมัคร กก.บห.ได้ (3) เป็นหรือเคยเป็น ส.ส. ในนามพรรค (4) เป็นหรือเคยเป็น รมต. ในนามพรรค (5) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ที่ลงเลือกตั้งในนามพรรค (6) สมาชิกที่ที่ประชุมใหญ่มีมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุมใหญ่ 

        นายราเมศระบุว่า ตามที่เป็นข่าวว่าจะมีสมาชิกกลุ่มหนึ่งจะขอใช้สิทธิ์ในการงดเว้นข้อบังคับ ในส่วนของน้ำหนักคะแนน 70:30 ไปใช้น้ำหนักคะแนนแบบ 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ตนในฐานะ กกต. ปชป. มองว่า เมื่อเราเป็นพรรคที่มีระบบประชาธิปไตย หากมีการระบุไว้ในข้อบังคับ ก็สามารถที่จะใช้สิทธิ์ได้ แต่หากมีผู้ใดขอใช้สิทธิ์ในกรณีการงดเว้นการใช้ข้อบังคับพรรคข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายข้อ ตามข้อบังคับข้อ 137 ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ตนไม่ได้พูดเพื่อเอาใจฝ่ายไหน แต่พูดตามหลักเกณฑ์ของข้อบังคับพรรคที่ระบุไว้ แต่ต้องมาดูว่าเมื่อจะใช้ข้อ 137 เพื่องดเว้นข้อบังคับว่าจะไม่ใช้น้ำหนักคะแนนแบบ 70:30 แล้ว น้ำหนักคะแนน ส.ส. ควรจะเท่ากันกับองค์ประชุมในการเลือกตำแหน่งอื่นๆ ด้วย


“เรามีหลักมีเกณฑ์ ไม่ว่าจะมีการแข่งขัน ไม่ว่าจะมีการเสนอตัวมากี่ท่าน ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ภายใต้ข้อบังคับ ไม่มีใครที่จะได้เปรียบเสียเปรียบเพราะการเล่นตุกติกกับข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ เราเป็นสถาบันทางการเมือง ถ้าเราไม่อยู่บนหลักของความถูกต้องเพื่อให้เป็นตัวอย่างในสังคม เราคงอยู่มาถึงวันนี้ไม่ได้หรอก”  นายราเมศ กล่าว     

พร้อมกับเปิดเผยอีกว่า กกต. ปชป. ได้กำหนดให้ผู้สมัครในตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้แสดงวิสัยทัศน์ภายในกรอบเวลา 7 นาที เพื่อพูดถึงแนวนโยบายที่จะนำพาทุกองคาพยพของพรรคประชาธิปัตย์ให้ก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า นอกจากนี้นายราเมศ ยังได้แสดงหน้าตาของบัตรเลือกตั้ง ซึ่งในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่อยู่ในสัดส่วน 70% เป็นบัตรสีฟ้า ส่วนของบัตรสีชมพูจะเป็นบัตรขององค์ประชุมที่มีสัดส่วนคะแนนที่ 30%-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]