เชื่อได้ข้อยุติประธานสภา เพื่อไทยจริงใจไม่พลิกขั้ว

พรรคก้าวไกล 30 มิ.ย.-“ชัยธวัช” ยันได้ข้อยุติประธานสภาก่อน 2 ก.ค.แน่ ย้ำหลักการตำแหน่งประธานเป็นของพรรคอันดับ 1 ไม่ใช่เรื่องความต้องการของพรรคใด เชื่อ ส.ส.-ส.ว. ร่วมมือกันทำประชาธิปไตยกลับเป็นปกติ มั่นใจเพื่อไทยจริงใจ ไม่พลิกขั้ว


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรยังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย  ซึ่งยังเป็นสัญญาณที่ดี แล้วจะต้องได้ข้อยุติที่ดีที่สุดก่อนที่จะมีการพูดคุยกัน อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กรกฎาคมเวลา 10.00 น. ที่พรรคก้าวไกล ซึ่งจะได้ข้อยุติแน่นอน

ทั้งนี้ โจทย์ของพรรคยังคงยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภา ควรเป็นของพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 ส่วนที่เริ่มมีสมการใหม่คือ 15+2 นั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกันที่ผ่านมาเป็นเพียงกระแสข่าว ที่ออกมาเท่านั้น จึงขอให้รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการก่อน


เมื่อถามว่าเพื่อไทยยอมถอยแนวโน้มเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการก่อนจะได้มีความชัดเจน และขอยืนยันว่าทั้ง 2 พรรคจะพยายามทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนไม่ผิดหวัง

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยอมตำแหน่งประธานสภาให้พรรก้าวไกล แต่ถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับเลือก นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากไหน แต่เรายังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น  และเรื่องนี้ ตนไม่ต้องสอนหนังสือสังฆราช เพราะผลการเลือกตั้งชัดเจน ว่าพี่น้อชาชนส่วนใหญ่เลือกทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เพราะมีความต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่ กลับมาฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้นเราต้องช่วยกันไม่ทำให้ความผิดปกติ ที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ ฉบับวันนี้กลายเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นตนยังเชื่อมั่น ว่าทางส.ส.และส.ว. จะช่วยกันคืนความปกติให้กับระบบรัฐสภา ในระบอบประชาธิปไตย ด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง ให้พรรคที่ได้รับชัยชนะอันดับ 1 จากการเลือกตั้งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าหลังการพูดคุยได้ข้อยุติแล้วการโหวตวันที่ 4 ซึ่งเป็นการโหวตลับจะเป็นไปตามนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้า 8 พรรคการเมืองเหนียวแน่นก็คงไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นในเรื่องตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เรื่องความต้องการส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องปกติในระบบประชาธิปไตย และ ตอนนี้ขอยืนยันว่าขอให้รอผลสรุปจากการพูดคุยซึ่ง เชื่อมั่นว่าจะออกมาด้วยดี เพราะทั้ง2พรรคทำงานภายใต้ผลประโยชน์ส่วนรวม และทั้งสองพรรคยังจับมือไปด้วยกันอย่างแน่นอน


เมื่อถามย้ำว่าหากอีกขั้วเสนอคนของขั่วฝั่งจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นในแกนนำและสมาชิกพรรค

เมื่อถามย้ำถึงที่บอกว่าไม่อยากสอนหนังสือให้สังฆราชหมายถึงการปล่อยตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีให้เพื่อไทยเป็นไปไม่ได้ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่ตนคิดว่า พวกเราที่ได้รับการเลือกตั้ง จากประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการให้มาฟื้นฟูประชาธิปไตย เราจะต้องช่วยกันไม่ทำให้ความผิดปกติที่อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเรื่องปกติ

สำหรับกรณีที่ส.ว.อาจจะไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงตรงนั้น เพราะเมื่อผ่านการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วก็จะมีความชัดเจนขึ้น และเรายังเชื่อมั่น ว่า ทั้งส.ส.และส.ว. จะช่วยกันคืนความปกติให้กับการเมืองไทย ด้วยหลักการที่ว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง และสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อปี 2562 แม้จะผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ส.ว.ก็ให้เหตุผลในการโหวตพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีว่า สามารถรวบรวมเสียงในสภาได้อย่างเป็นเอกภาพ

ส่วนที่ส.ว.ยังตั้งแง่เรื่องที่พรรคจะแก้ 112 เป็นข้ออ้างในการโหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะอธิบายกับส.ว. อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการโหวตนายก และกระบวนการ ไม่ว่าจะแก้ไขกฎหมายฉบับใด มีกระบวนการทางนิติบัญญัติอยู่แล้วในการตรวจสอบ ถ่วงดุล และ ใช้เสียงส่วนใหญ่หาข้อยุติในสภา และยังมีการตรวจสอบว่ากฎหมายที่ผ่านสภาไปแล้ว ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ดังนั้นขออย่ากังวลไปล่วงหน้าและตนคิดว่าการหลักการสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี คือหลักการที่อินกับการเลือกตั้ง

ส่วนที่มีข้อมูลว่าเอาเก้าอี้ประธานสภาไปแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยธวัช กล่าวว่าเป็นข่าวลือไปต่างๆนานา ขอให้รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เพราะบางทีมีการพูดไปโดยไม่มีข้อเท็จจริง ซึ่งกระบวนการเรื่องการแบ่งงานกันทำ ของรัฐบาลชุดใหม่จะดำเนินการหลังจากได้ตำแหน่งประธานสภาไปแล้ว

เมื่อถามว่ากรณีกระแสข่าวที่เพื่อไทยรอเสียบนายกรัฐมนตรี เป็นการแสดงว่าการดีลของ 8 พรรคมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายชัยธวัช ขออย่าเพิ่งไปมองเช่นนั้น เรายังเชื่อมั่นว่าเราจะทำงานร่วมกันด้วยความจริงใจ และเอาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง และสิ่งที่สัมผัสได้ อย่างจริงใจ คือพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยและอีก 6 พรรคที่เหลือเชื่อมั่นว่า การแต่งตั้งรัฐบาลร่วมกัน 8 พรรคเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ

ส่วนกรณีที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้วพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า “อยากออกก็ออกไม่ได้” เป็นการสะท้อนถึงการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่าไม่บังคับคงต้องไปถามนายแพทย์ชลน่าน แต่เท่าที่ทำงานร่วมกันเราจริงใจ และเห็นว่าสมการในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้แกนนำคนอื่นๆในพรรคก้าวไกลทั้งนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช เข้ามาที่พรรค และคาดว่าน่าจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย