มั่นใจ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ตกลงกันได้

เพื่อไทย 28 มิ.ย. – “เศรษฐา” เชื่อตำแหน่งประธานสภาได้ข้อยุติก่อน 4 ก.ค. ขอก้าวไกล – เพื่อไทย ยึดมั่นธงฝ่ายประชาธิปไตย เชื่อไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง ย้ำ “พิธา” ได้เป็นนายกฯ


นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล แจ้งยกเลิกหารือกับคณะเจรจาเพื่อไทย วาระตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(28 มิ.ย.) ว่า การแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทย เมื่อช่วงเย็นวานนี้(27 มิ.ย.) เป็นการย้ำในจุดยืน ที่พรรคเพื่อไทย ได้เคยเสนอไปตั้งแต่การเจรจาครั้งแรก ซึ่งมีการระบุในเอ็มโอยู ที่ยังมีข้อคาใจ ว่า ต่างฝ่ายต่างได้เก้าอี้ 14+1 แต่ยังไม่ได้ตกลงกัน ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนเจรจา แต่มั่นใจว่า เรื่องนี่จะจบลงด้วยดี ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันและตั้งรัฐบาล ส่วนเรื่องประธานสภา ยังพอมีเวลา 3-4 วัน เชื่อว่าจะออดมาด้วยดี ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรหยุดยั่งการตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมได้

เมื่อถามว่า มีทัวร์ลงทุกครั้ง ไม่ว่าเพื่อไทย จะมีจุดยืนทางการเมืองแบบใด และกล่าวหาหนักไปจนขั้นว่า พรรคเพื่อไทย ทรยศ หักหลังประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา นายเศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ทรยศ และเราต้องเคารพเสียงของประชาชน รับฟังทุกเสียง แม้แต่เสียงความคิดเห็นของ ส.ส.ในพรรค และกรรมการบริหารพรรคทุกคน แต่คิดว่า เรื่องสำคัญที่สุด คือ ธงหลักต้องไม่เปลี่ยน ฝ่ายประขาธิปไตยจับมือกันเดินหน้าตั้งรัฐบาลให้ได้ จะได้มีรัฐบาลใหม่ เข้ามาร่วมกันบริหารประเทศ และแก้ปัญหาให้ประชาชน ยืนยันว่า การตกลงกันไม่ได้ ยืดเวลาช้าออกไป ไม่ใช่การแย่งตำแหน่งกันเอง เพราะการแข่งขันจบไปตั้งแต่การเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมแล้ว และเซ็นต์เอ็มโอยูกันแลัว ทุกอย่างต้องเดินหน้าเชื่อว่าทั้งสองพรรคจะคุยกันรู้เรื่อง


นายเศรษยฐา ยืนยันด้วยว่า ไม่มีพลิกขั้ว ตั้งรัฐบาลแน่นอน เพื่อไทยและก้าวไกล ก็จับมือกัน จนไปถึงปลายทางตั้งรัฐบาล แต่ระหว่างนี้ยังมีเวลาขอให้ใจเย็น เข้าใจว่าประชาชนและสื่อมวลชนก็มีความร้อนใจ ที่จะนำเสนอข่าว ข่าวก็มีแต่รายงานความคืบหน้า ซึ่งทุกอย่างยังไม่จบ แต่ข้อเท็จจริงยังไม่จบ คณะเจรจายังคุยกันอยู่ แม้ตนเองจะไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการเจรจา แต่เท่าที่ฟัง ก็ยังเห็นสองพรรคคุยกันด้วยดี

เมื่อถามว่า นายปดิพัทธ์ แคนดิเดตประธานสภาพรรคก้าวไกล ออกตัวแรง แสดงวิสัยทัศน์ ผ่านสื่อ หากก้าวไกลจะกลับลำ ได้ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าออกตัวแรง แต่เพราะพรรคก้าวไกล มีความชัดเจนมากกว่า เพราะมีการโหวตบุคคลที่เหมาะสมกันภายใน เป็นไปตามการบริหารของพรรค ไม่ได้ถือว่าเป็นการเสียหน้า ขอสื่ออย่ามองไปไกลขนาดนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะจัดตั้งรัฐบาล และอย่าคิดว่าจะเป็นการเสียสละ ยกให้ หรือถอย แต่เป็นการคุยของฝ่ายเดียวกัน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน เป้าหมายคือ จับมือตั้งรัฐบาลด้วยกัน จึงค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีอะไร และย้ำว่า เชื่อว่าจะคุยกันรู้เรื่อง ถ้าตกลงแล้วจะออกมาทางใดทางหนึ่งเป้าหมายหลักก็ไม่เสีย และไม่กระทบกับการรีแบนด์พรรคเพื่อไทย หน้าที่ของตนเอง คือทำงาน แก้ปัญหาเชิงนโยบาย วันนี้ก็มาประชุมติดตาม ปัญหาน้ำ และภัยแล้ง ที่เหลือเวลาในการบริหารจัดการน้ำอีก 90 วัน ก่อนจะหมดฝน จึงต้องดูแลเรื่องน้ำให้ดี

เมื่อถามย้ำว่า บทสรุปสุดท้าย พรรคก้าวไกลกับเพื่อไทยยังจับมือกันแน่น นายเศรษฐา ตอกย้ำอีกครั้งว่า มั่นใจ
ส่วนจะเปิดรายชื่อคนชิงประธานสภาตอนไหนนั้น นายเศรษฐา ระบุ ไม่สามารถออกความเห็นได้ เพราะไม่ได้อยู่คณะกรรมการบริหารพรรคที่เกี่ยวต้อง และในช่วงท้าย ทั้งนี้ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายเศรษฐา พร้อมเป็นนายกหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบไม่มีทาง และมั่นใจว่า นายพิธา จะได้รับฉันทามติ โหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]