สำนักงาน ป.ป.ช. 14 มิ.ย.-“วีระ” ทวงถาม ป.ป.ช.สอบ “เรืองไกร” ปมรถหรู เกือบ 2 ปีไม่คืบ ไม่เชื่อภรรยาซื้อให้ พร้อมจี้เปิดข้อมูลคดีนาฬิกาหรู “พล.อ.ประวิตร” ตามคำสั่งศาลปกครอง ฉุน จนท.เอาเอกสารมาถือไว้แทนจะเข้าระบบ ย้ำไม่ไว้ใจการทำงานของ ป.ป.ช.
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือ ทวงถามความคืบหน้าต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีเคยยื่นร้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ปมรับแคชเชียร์เช็ค จำนวน 25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 และกรณีโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่ามีผู้ใหญ่ใจดีซื้อรถเบนซ์ รุ่น S 560 ให้เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 โดยนายวีระ กล่าวว่า เกือบสองปีที่ตนยื่นกล่าวหาคดีนี้ ไม่เคยได้รับการติดต่อจากป.ป.ช. เพื่อเรียกไปให้ปากคำและให้ข้อมูลเลย ขณะที่นายเรืองไกร ในฐานะผู้ถูกร้องก็ไม่เคยถูกเรียกเช่นเดียวกัน
นายวีระ ตั้งข้อสังเกตว่าเอกสารที่ยื่นไปยังอยู่ครบทั้งหมดหรือไม่ เพราะเคยมีคนมาให้ข้อมูลกับตนว่าเคยยื่นเรื่องกับป.ป.ช. แต่มีเอกสารสำคัญบางส่วนไม่นำเข้าต่อที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. จึงกังวลว่าเอกสารของตนหายหรือไม่ เพราะหลักฐานที่ยื่นไปบางส่วนนายเรืองไกรลบออกจากเฟสบุ๊ซ ส่วนตัว ซึ่งหลักฐานนั้นคือข้อความที่โพสต์ว่า “ได้ของขวัญจากผู้ใหญ่ใจดีเป็นรถหรู”
“วันนี้จึงมายื่นเรื่องร้องเรียน ขอให้ป.ป.ช. เรียกผมเข้าไปให้ข้อมูลและผมจะเข้าไปตรวจสอบว่าเอกสารดังกล่าวยังอยู่ครบหรือไม่ หากอยู่ไม่ครบ ผมได้ทำสำเนาไว้ ซึ่งและหากเอกสารหายไป ป.ป.ช.ต้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีที่นายเรืองไกรชี้แจงว่า ผู้ใหญ่ใจดีที่ซื้อรถหรูให้คือภรรยานั้น นายวีระ กล่าวว่า ไม่เชื่อเพราะว่าการโพสต์กำกวมและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ วกไปวนมา หากภรรยาซื้อให้จริง ทำไมไม่บอกตรง ๆ” นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ยื่นตรวจสอบหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ว่า นายเรืองไกร สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก็มักจะตรวจสอบพรรคการเมืองที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน และไม่เคยตรวจสอบในประเด็นอื่น จึงมองว่าเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน และวันนี้ชัดเจนแล้วว่ามีขบวนการสกัดกั้นการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล และสกัดกั้นนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนติดตาม ถ้าจบเรื่องนี้แล้วจะมีเรื่องอื่นเข้ามาสกัดกั้นอีกหรือไม่ ขอให้จับตาวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่าสรุปแล้วส.ว.จะยกมือให้นายพิธาหรือไม่
นายวีระ กล่าวว่า นอกจากมายื่นเรื่องทวงถามความคืบหน้า กรณีนายเรืองไกรแล้ว ยังมายื่นขอให้ ป.ป.ช.ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดมอบเอกสารรายการที่ 1 และ 3 กรณีคดีนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ตนด้วย แม้ป.ป.ช.มีมติไม่ให้เอกสาร แต่นายวีระมองว่าเป็นมติที่ไม่ชอบ เพราะ มติ ป.ป.ช.มีศักดิ์ต่ำกว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด การที่ไม่ปฏิบัติตามถือว่ากระทำความผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสัมภาษณ์ ได้มีเจ้าหน้าที่มาขอเอกสารจากนายวีระ แต่นายวีระ สังเกตเห็นว่าเอกสารที่เจ้าหน้าที่ถืออยู่เป็นสำเนาของหนังสือที่นายวีระร้องเรียน นายวีระจึงไม่พอใจและต่อว่าพฤติกรรมที่ถือเอกสารโดยเปิดเผย ทั้งที่เป็นหนังสือที่ลงเลขรับแล้ว ควรจะยื่นเข้าไปตามระบบ ไม่ใช่มาถือโชว์เปิดเผยแบบนี้ พร้อมถามว่าจะนำหนังสือไปให้ใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าจะนำไปให้ผู้ใหญ่ นายวีระจึงถามต่อว่าผู้ใหญ่ชื่ออะไร เพราะตามขั้นตอนแล้วคุณต้องเอาไปให้ผู้อำนวยการที่รับเรื่อง สิ่งนี้ทำให้ตนไม่สบายใจ ป.ป.ช.ทำงานกันแบบนี้ จะให้ตนไว้ใจได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ยอมเรื่องนี้ ซึ่งเลขาป.ป.ช.ต้องมีคำตอบ.-สำนักข่าวไทย