นักวิชาการชี้ กกต.รับรอง ส.ส.ได้ก่อน 60 วัน

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – “ปริญญา” มอง กกต. ทำงานล่าช้า ประชาชนเคลือบแคลง ทำสงสัยเอื้อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหรือไม่ ชี้ควรประกาศรับรอง ส.ส.ให้ครบ 100% ไม่ต้องรอให้ครบ 60 วัน


นายปริญญา เทวานฤมิตกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชนและผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการรับรองผลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ปี 2560 ให้เวลา กกต. ทำงานถึง 60 วัน จากเดิมที่รัฐธรรมนูญปี 50 ให้เวลา กกต. เพียง 30 วัน ซึ่งหากเป็นรัฐธรรมนูญปี 50, 40 กกต. ใช้เวลาเพียง 10 กว่าวัน ไม่เกิน 20 วัน ก็ประกาศแล้ว แต่เมื่อรัฐธรรมนูญยืดเวลาให้ 60 วัน กกต. เลยไม่รีบ

“ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้เวลาจนครบ เพราะหากเลือกตั้งเสร็จแล้ว ไม่มีปัญหา ควรประกาศผลการเลือกตั้ง และถ้าพบว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนไหนมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซื้อเสียง ทุจริต สามารถส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ ระบบเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ควรต้องใช้เวลาเนิ่นนาน หวังว่าจะไม่ช้ากว่าการเลือกตั้งปี 2562” นายปริญญา กล่าว


ส่วนการประกาศช้าหรือเร็วมีนัยสำคัญอะไรหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ยิ่งช้าคนยิ่งสงสัยว่าเลือกตั้งเสร็จทำไมถึงไม่ประกาศรับรอง ส.ส. เพราะระบบของไทยมีปัญหาที่ให้เวลา 60 วัน แต่เมื่อระบบมีปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ อย่าใช้เวลาให้นาน หาก 20 วันเสร็จก็ประกาศได้ แต่ขณะนี้ล่วงเลยมา 26 วันแล้ว ถือว่าใช้เวลาพอสมควร เพราะยิ่งช้าคนยิ่งเคลือบแคลง ออกมาตั้งคำถามด้วยความสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเป็นระบบที่แปลกอยู่แล้ว นอกจากจะให้เวลา 60 วันแล้ว การประกาศยังประกาศไม่ครบให้ 95% ก็ประกาศได้ ให้สภาฯ ประชุมได้ในจำนวน 475 คน

“ตนมองว่าระบบรัฐสภาจัดตั้งรัฐบาลได้ จะต้องได้เสียงข้างมาก โดยกติกาคือพรรคการเมืองรวมเสียงได้เกินครึ่งในสภาฯ จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตั้งรัฐบาล แต่พอประกาศผลไม่ครบ ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาได้ เพราะหากประกาศไม่ครบจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงลำดับของพรรคการเมือง ซึ่งจะมีผลในสภาฯ ได้ ซึ่ง กกต. ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจของตนเองด้วย เพราะการประกาศจะมีผลต่อการใช้อำนาจการจัดตั้งรัฐบาลเ พราะสามารถเปลี่ยนอันดับจากอันดับ 1 เป็นอันดับ 2 ได้ กกต. จึงควรประกาศรับรองผลสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ครบ 100% ไปเลย นอกจากจะมี ส.ส.คนใดที่มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ให้เป็นข้อยกเว้น และหากใครที่มีข้อสงสัย ข้อร้องเรียน ก็ทำความเห็นส่งศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้ง วิธีการนี้จะเป็นธรรมที่สุดต่อ ส.ส.ทุกพรรคทุกคน และเป็นธรรมที่สุดต่อประชาชนด้วย ตอนนี้เลือกตั้งเสร็จไปแล้วแต่ยังไม่มี ส.ส. สักที กกต. ก็ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการแล้วว่า ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้จำนวนเท่าไร แต่ยังไม่ประกาศว่าเป็น ส.ส. สักที แบบนี้ถือว่าช้าเกินไป ” นายปริญญา กล่าว

ส่วนที่ กกต. ให้นับคะแนนใหม่จำนวน 47 หน่วย ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ จะทำให้การประกาศรับรองล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ความจริงปัญหาเรื่องคะแนนเขย่งกับผู้ใช้สิทธิไม่ตรงกันเกิดขึ้นจาก กกต. เอง ไม่ใช่ความผิดของประชาชนที่ไปใช้สิทธิ ซึ่งความเป็นจริงควรที่จะนับใหม่ได้เร็วกว่านี้ ทำไมต้องรอถึงวันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งปล่อยล่วงเลยมาเกือบเดือน เพราะหากเกิดความผิดพลาดควรจะดำเนินการได้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่ล่าช้าแบบนี้ และทำให้ทุกอย่างช้าไปหมด 


“เวลานี้สังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการไม่ประกาศรับรอง ส.ส. เพราะอยู่ในช่วงเวลาของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ทั้งทหาร ตำรวจ ปลัดกระทรวง จะทำบัญชีกันในเดือนสิงหาคม และจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในเดือนกันยายน หากตามกรอบเวลาเลือกตั้งควรเป็นหน้าที่รัฐบาลใหม่ แต่หากยืดเยื้อไม่สามารถรับรอง ส.ส. ได้ คนที่จะทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายก็จะเป็นรัฐบาลรักษาการขณะนี้ จะกลายเป็นข้อสงสัยว่าที่ กกต. ไม่รีบเป็นเพราะประเด็นนี้หรือไม่ ต่อให้ไม่ใช่ความจริง แต่คนก็จะสงสัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ กกต. ควรจะคำนึงถึงด้วย ดังนั้น ควรจะประกาศผลรับรอง ส.ส. ให้เร็วที่สุด ไม่ควรจะช้า ยืดเยื้อไปถึง 60 วัน” นายปริญญา กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าท่ามกลางการกดดันจากภาคประชาชน กกต. จะรับรองผลภายในเมื่อใด นายปริญญา กล่าวว่า กกต. เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าภายในเดือนมิถุนายน หากเปรียบเทียบกับปี 2562 ก็ภายใน 30 วัน ขณะนี้ต้องรอดูว่าหลังจากการนับคะแนนใหม่วันที่ 11 มิถุนายน จะเป็นอย่างไร คาดว่าน่าจะรอหลังจากนั้นไปอีกสองสัปดาห์จึงจะประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เหตุผลที่จะล่าช้าไปกว่านี้ก็ไม่ควรแล้ว เพราะยิ่งช้า กกต. ยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่ง กกต. ตระหนักเรื่องนี้อยู่แล้ว

ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการที่ยังไม่รับรอง ส.ส. เป็นเพราะต้องการทอดเวลาให้กับอำนาจพิเศษดีลทางการเมืองให้ลงตัวหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นข้อสงสัยอีกข้อหนึ่ง และเป็นหนึ่งในอีกหลายประเด็นที่คนตั้งคำถามกับ กกต. และบ้านเมืองที่จะต้องเดินหน้าต่อไป ข้อสงสัยที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจะมากขึ้นเรื่อยๆ กกต. จึงควรรีบประกาศรับรอง ส.ส. โดยเร็ว

นายปริญญา ฝากไปถึงบทบาทการทำหน้าที่ของ กกต. ขณะนี้ว่า ขอให้ดำเนินการตามความเที่ยงธรรม ตามความจริง ในอำนาจความรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะคนไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ เข้าใจว่า กกต. ถูกกดดัน มีภาระหน้าที่มาก แต่ขอให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมย่อมอยากเห็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นไปตามกฎหมายอย่างเที่ยงธรรม ข้อสำคัญคือความรวดเร็ว เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องรู้สึก เพราะเลือกตั้งมานาน แต่ยังไม่ประกาศรับรอง ส.ส. แม้แต่คนเดียว ดังนั้น ดีที่สุดคือประกาศให้ครบให้หมด 500 คน เว้นแต่มีคนที่มีหลักฐานชัดเจนว่าโกงการเลือกตั้ง เมื่อประกาศแล้วพบข้อร้องเรียนที่มีมูลอันควรต่อการพิจารณาให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง จะรวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนที่ประธาน กกต. ระบุว่ายังไม่ได้รับพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายปริญญา กล่าวว่า ในแง่ข้อกฎหมายหากผู้สมัครคนไหนมีคุณลักษณะ คุณสมบัติต้องห้าม ก็ต้องรับเรื่อง ตั้งแต่ตอนสมัคร หากจะร้องควรจะไปร้องตั้งแต่เวลานั้น และไปร้องศาลฎีกาให้จบไป หากเลือกตั้งเสร็จแล้ว โดยหลักแล้วต้องเป็นเรื่องการทุจริตทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น 

“ยิ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดดูข้อกฎหมายยังไม่เจอว่า กกต. จะสั่งหรือไม่ประกาศเป็นส.ส. ด้วยข้อกฎหมายตัวไหน เพราะโดยหลักแล้วหากไม่ได้โกงการเลือกตั้งทุจริตเลือกตั้งต้องประกาศให้เป็น ส.ส. และหากเป็นคุณสมบัติต้องห้ามต้องไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 82 เหมือนกรณีนายธนาธร” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]