นักวิชาการชี้ กกต.รับรอง ส.ส.ได้ก่อน 60 วัน

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – “ปริญญา” มอง กกต. ทำงานล่าช้า ประชาชนเคลือบแคลง ทำสงสัยเอื้อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหรือไม่ ชี้ควรประกาศรับรอง ส.ส.ให้ครบ 100% ไม่ต้องรอให้ครบ 60 วัน


นายปริญญา เทวานฤมิตกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชนและผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการรับรองผลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ปี 2560 ให้เวลา กกต. ทำงานถึง 60 วัน จากเดิมที่รัฐธรรมนูญปี 50 ให้เวลา กกต. เพียง 30 วัน ซึ่งหากเป็นรัฐธรรมนูญปี 50, 40 กกต. ใช้เวลาเพียง 10 กว่าวัน ไม่เกิน 20 วัน ก็ประกาศแล้ว แต่เมื่อรัฐธรรมนูญยืดเวลาให้ 60 วัน กกต. เลยไม่รีบ

“ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้เวลาจนครบ เพราะหากเลือกตั้งเสร็จแล้ว ไม่มีปัญหา ควรประกาศผลการเลือกตั้ง และถ้าพบว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนไหนมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซื้อเสียง ทุจริต สามารถส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ ระบบเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ควรต้องใช้เวลาเนิ่นนาน หวังว่าจะไม่ช้ากว่าการเลือกตั้งปี 2562” นายปริญญา กล่าว


ส่วนการประกาศช้าหรือเร็วมีนัยสำคัญอะไรหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ยิ่งช้าคนยิ่งสงสัยว่าเลือกตั้งเสร็จทำไมถึงไม่ประกาศรับรอง ส.ส. เพราะระบบของไทยมีปัญหาที่ให้เวลา 60 วัน แต่เมื่อระบบมีปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ อย่าใช้เวลาให้นาน หาก 20 วันเสร็จก็ประกาศได้ แต่ขณะนี้ล่วงเลยมา 26 วันแล้ว ถือว่าใช้เวลาพอสมควร เพราะยิ่งช้าคนยิ่งเคลือบแคลง ออกมาตั้งคำถามด้วยความสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเป็นระบบที่แปลกอยู่แล้ว นอกจากจะให้เวลา 60 วันแล้ว การประกาศยังประกาศไม่ครบให้ 95% ก็ประกาศได้ ให้สภาฯ ประชุมได้ในจำนวน 475 คน

“ตนมองว่าระบบรัฐสภาจัดตั้งรัฐบาลได้ จะต้องได้เสียงข้างมาก โดยกติกาคือพรรคการเมืองรวมเสียงได้เกินครึ่งในสภาฯ จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตั้งรัฐบาล แต่พอประกาศผลไม่ครบ ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาได้ เพราะหากประกาศไม่ครบจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงลำดับของพรรคการเมือง ซึ่งจะมีผลในสภาฯ ได้ ซึ่ง กกต. ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจของตนเองด้วย เพราะการประกาศจะมีผลต่อการใช้อำนาจการจัดตั้งรัฐบาลเ พราะสามารถเปลี่ยนอันดับจากอันดับ 1 เป็นอันดับ 2 ได้ กกต. จึงควรประกาศรับรองผลสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ครบ 100% ไปเลย นอกจากจะมี ส.ส.คนใดที่มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ให้เป็นข้อยกเว้น และหากใครที่มีข้อสงสัย ข้อร้องเรียน ก็ทำความเห็นส่งศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้ง วิธีการนี้จะเป็นธรรมที่สุดต่อ ส.ส.ทุกพรรคทุกคน และเป็นธรรมที่สุดต่อประชาชนด้วย ตอนนี้เลือกตั้งเสร็จไปแล้วแต่ยังไม่มี ส.ส. สักที กกต. ก็ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการแล้วว่า ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้จำนวนเท่าไร แต่ยังไม่ประกาศว่าเป็น ส.ส. สักที แบบนี้ถือว่าช้าเกินไป ” นายปริญญา กล่าว

ส่วนที่ กกต. ให้นับคะแนนใหม่จำนวน 47 หน่วย ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ จะทำให้การประกาศรับรองล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า ความจริงปัญหาเรื่องคะแนนเขย่งกับผู้ใช้สิทธิไม่ตรงกันเกิดขึ้นจาก กกต. เอง ไม่ใช่ความผิดของประชาชนที่ไปใช้สิทธิ ซึ่งความเป็นจริงควรที่จะนับใหม่ได้เร็วกว่านี้ ทำไมต้องรอถึงวันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งปล่อยล่วงเลยมาเกือบเดือน เพราะหากเกิดความผิดพลาดควรจะดำเนินการได้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่ล่าช้าแบบนี้ และทำให้ทุกอย่างช้าไปหมด 


“เวลานี้สังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการไม่ประกาศรับรอง ส.ส. เพราะอยู่ในช่วงเวลาของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ทั้งทหาร ตำรวจ ปลัดกระทรวง จะทำบัญชีกันในเดือนสิงหาคม และจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในเดือนกันยายน หากตามกรอบเวลาเลือกตั้งควรเป็นหน้าที่รัฐบาลใหม่ แต่หากยืดเยื้อไม่สามารถรับรอง ส.ส. ได้ คนที่จะทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายก็จะเป็นรัฐบาลรักษาการขณะนี้ จะกลายเป็นข้อสงสัยว่าที่ กกต. ไม่รีบเป็นเพราะประเด็นนี้หรือไม่ ต่อให้ไม่ใช่ความจริง แต่คนก็จะสงสัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ กกต. ควรจะคำนึงถึงด้วย ดังนั้น ควรจะประกาศผลรับรอง ส.ส. ให้เร็วที่สุด ไม่ควรจะช้า ยืดเยื้อไปถึง 60 วัน” นายปริญญา กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าท่ามกลางการกดดันจากภาคประชาชน กกต. จะรับรองผลภายในเมื่อใด นายปริญญา กล่าวว่า กกต. เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าภายในเดือนมิถุนายน หากเปรียบเทียบกับปี 2562 ก็ภายใน 30 วัน ขณะนี้ต้องรอดูว่าหลังจากการนับคะแนนใหม่วันที่ 11 มิถุนายน จะเป็นอย่างไร คาดว่าน่าจะรอหลังจากนั้นไปอีกสองสัปดาห์จึงจะประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เหตุผลที่จะล่าช้าไปกว่านี้ก็ไม่ควรแล้ว เพราะยิ่งช้า กกต. ยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่ง กกต. ตระหนักเรื่องนี้อยู่แล้ว

ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการที่ยังไม่รับรอง ส.ส. เป็นเพราะต้องการทอดเวลาให้กับอำนาจพิเศษดีลทางการเมืองให้ลงตัวหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นข้อสงสัยอีกข้อหนึ่ง และเป็นหนึ่งในอีกหลายประเด็นที่คนตั้งคำถามกับ กกต. และบ้านเมืองที่จะต้องเดินหน้าต่อไป ข้อสงสัยที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจะมากขึ้นเรื่อยๆ กกต. จึงควรรีบประกาศรับรอง ส.ส. โดยเร็ว

นายปริญญา ฝากไปถึงบทบาทการทำหน้าที่ของ กกต. ขณะนี้ว่า ขอให้ดำเนินการตามความเที่ยงธรรม ตามความจริง ในอำนาจความรับผิดชอบตามกฎหมาย เพราะคนไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ เข้าใจว่า กกต. ถูกกดดัน มีภาระหน้าที่มาก แต่ขอให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมย่อมอยากเห็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นไปตามกฎหมายอย่างเที่ยงธรรม ข้อสำคัญคือความรวดเร็ว เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องรู้สึก เพราะเลือกตั้งมานาน แต่ยังไม่ประกาศรับรอง ส.ส. แม้แต่คนเดียว ดังนั้น ดีที่สุดคือประกาศให้ครบให้หมด 500 คน เว้นแต่มีคนที่มีหลักฐานชัดเจนว่าโกงการเลือกตั้ง เมื่อประกาศแล้วพบข้อร้องเรียนที่มีมูลอันควรต่อการพิจารณาให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง จะรวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนที่ประธาน กกต. ระบุว่ายังไม่ได้รับพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายปริญญา กล่าวว่า ในแง่ข้อกฎหมายหากผู้สมัครคนไหนมีคุณลักษณะ คุณสมบัติต้องห้าม ก็ต้องรับเรื่อง ตั้งแต่ตอนสมัคร หากจะร้องควรจะไปร้องตั้งแต่เวลานั้น และไปร้องศาลฎีกาให้จบไป หากเลือกตั้งเสร็จแล้ว โดยหลักแล้วต้องเป็นเรื่องการทุจริตทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น 

“ยิ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดดูข้อกฎหมายยังไม่เจอว่า กกต. จะสั่งหรือไม่ประกาศเป็นส.ส. ด้วยข้อกฎหมายตัวไหน เพราะโดยหลักแล้วหากไม่ได้โกงการเลือกตั้งทุจริตเลือกตั้งต้องประกาศให้เป็น ส.ส. และหากเป็นคุณสมบัติต้องห้ามต้องไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 82 เหมือนกรณีนายธนาธร” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย