นายกฯ ย้ำ ถอดบทเรียนรับมือภัยพิบัติทุกประเภท

พิจิตร 24 พ.ค.-นายกฯ ลงพื้นที่ จ.พิจิตร ติดตามสถานการณ์สาธารณภัย กำชับทุกภาคส่วนเร่งสำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน ให้กำลังใจครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ย้ำถอดบทเรียนเตรียมรับมือภัยพิบัติทุกประเภท


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์สาธารณภัยวาตภัย ที่โรงเรียนวัดเนินปอ อ.สามง่าม จังหวัดพิจิตร พร้อมตรวจเยี่ยมบริเวณโดมของโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย พบปะให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนจากสถานการณ์วาตภัย โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนดูแลรักษาจิตใจให้สงบ ปรึกษาเจ้าหน้าที่ ดูแลซึ่งกันและกัน ขอให้ดำรงชีวิตอยู่ให้ได้และมีกำลังใจที่ดี



นายกรัฐมนตรี สอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย และกล่าวในนามของรัฐบาล ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัว ย้ำไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องนำมาทบทวนว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ด้วยความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของพายุ จึงมีผลต่อโครงสร้างของอาคาร สิ่งเหล่านี้ต้องเป็นบทเรียนให้กับทุกหน่วยงาน ทุกพื้นที่สำรวจความเข้มแข็งของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้ครบถ้วน กำหนดพื้นที่ความเสี่ยงที่อาจจะมีปัญหาในอนาคต รวมทั้งวิธีการจัดการกับเหตุการณ์รูปแบบเดียวกันนี้ในอนาคต คาดหวังเห็นการอำนวยการ การเตรียมพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเตรียมพร้อม มีคณะทำงานรับมือก่อนเกิดเหตุ ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทันทีผ่านช่องทางการสื่อสารที่สามารถทำได้ เช่น หอกระจายข่าวชุมชน ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แนะนำแนวทางการปฎิบัติตัวและการรับมือ สิ่งสำคัญที่สุดคือความพร้อมของศูนย์ฯ ต้องมีแผนมีขั้นตอนในการรับมือสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น น้ำท่วม ฝนแล้ง วาตภัยเป็นต้น ต้องมีแผนรองรับไว้ทั้งหมด แบ่งเป็นระดับการบริหารจัดการ ผู้รับผิดชอบและแนวทางการรับมือ การติดต่อสื่อสารและการกระจายข่าวสารสู่ประชาชน



นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือที่จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด การซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือน ระดมสรรพกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันซ่อมแซมฟื้นฟูเพื่อให้อยู่อาศัยได้ รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ต้องดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าเหตุการณ์จะกลับสู่สภาพปกติ ต้องติดตามขั้นตอนการช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย เน้นย้ำให้ทุกคนไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมือ มีคณะทำงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากนี้คือ after action review การถอดบทเรียน ทบทวน ตั้งสมมุติฐานภัยพิบัติทุกประเภท มีแนวทางการปฏิบัติทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ 1-2-3 การรับมือ การให้ความช่วยเหลือ มีการซักซ้อมเตรียมรับเหตุการณ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัยในทุก ๆ เรื่องครอบคลุมทุกมิติ ในส่วนของการดำเนินการด้านงบประมาณ และการให้ความช่วยเหลือต่างๆ หากได้รับแล้วต้องรีบดำเนินการโดยทันทีตามระเบียบของทางราชการอย่างถูกต้องและเหมาะสม


นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ต่าง ๆ สำรวจอาคารในลักษณะเดียวกัน โครงสร้าง ความแข็งแรง ประเมินความเสี่ยงทั้งในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อลดความสูญเสียและกระชับเวลาในการบริหารจัดการ และให้ความช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนโดยเร็วที่สุด รวมทั้งการดูแลด้านสุขภาพจิต ต้องติดตามประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประสบเหตุและครอบครัว ดูแลเยียวยาด้านจิตใจ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำความรักความสามัคคีของคนไทยทุกคนเพื่อผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปด้วยกัน


นายกรัฐมนตรี ยังกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เร่งประสานความร่วมมือ สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามระเบียบของทางราชการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องมือต่างๆ เข้าให้การช่วยเหลือฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุในช่วงฤดูฝน เตรียมแผนเผชิญเหตุพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลาก แจ้งเตือนผ่านสื่อทุกช่องทางอย่างต่อเนื่องและทันเหตุการณ์ แนะประชาชนติดตามข่าวสารสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิด เพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากพายุในช่วงฤดูฝนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด



จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปเยี่ยมบ้านครอบครัวของผู้เสียขีวิต ณ บ้านเลขที่ 5 และบ้านเลขที่ 116/5 หมู่ที่ 18 ตําบลเนินปอ อําเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร และได้เข้าเคารพศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีเยี่ยมบ้านเรือนและทักทายประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์วาตภัยในบริเวณใกล้เคียงด้วย


ต่อมา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยจากสถานการณ์วาตภัยที่ โรงพยาบาลพิจิตร จังหวัดพิจิตร โดยนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ยังพักรักษาตัวอยู่ ณ หอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง ชั้น 3 จำนวน 2 ราย และหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก ชั้น 2 จำนวน 2 ราย พร้อมให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นและหายป่วยในเร็ววัน ขอให้ญาติและครอบครัวมีกำลังใจที่ดี ในส่วนของการดูแลช่วยเหลือเยียวยาขอให้หน่วยงานประสานดูแลให้ครบถ้วนและดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบต่อไป


นายอนุชา ระบุว่า จากเหตุการณ์วาตภัยที่เกิดขึ้น ส่งผลให้อาคารโดม โรงเรียนวัดเนินปอถล่ม มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บรวม 18 ราย แบ่งเป็นผู้บาดเจ็บสาหัส 6 ราย และกลับบ้านได้แล้ว 12 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.00น.) และอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่ประสบภัย 3 ตำบล 16 หมู่บ้าน บ้านพักอาศัยได้รับความเสียหาย 408 หลัง โรงเรียน 2 แห่ง วัด 1 แห่ง ซึ่งจังหวัดพิจิตรได้ประกาศเขตพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแล้ว ประกอบด้วย ตำบลเนินปอ 7 หมู่บ้าน ตำบลรังนก 6 หมู่บ้าน และตำบลสามง่าม 3 หมู่บ้าน โดยรัฐบาลได้มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

  1. ค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท
    2. เงินทุนเลี้ยงชีพ สำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิต 30,000 บาท และครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ อีกครอบครัวละ 50,000 บาท
    สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สาธารณภัยทั่วไป จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 30,000 บาท และผู้บาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 15,000 บาท ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างรอข้อมูลสรุปรายละเอียดผู้บาดเจ็บจากทางจังหวัดพิจิตร เพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเงินกองทุนช่วยเหลือฯ พิจารณาจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บต่อไป
    ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท (จ่ายแล้ว) และเงินช่วยเหลือสำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 5,000 บาท ผู้บาดเจ็บ รายละ 3,000 บาท อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการจะมอบเงินช่วยเหลือเฉพาะนักเรียน โดยจะมีการพิจารณาทบทวนการมอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวอีกครั้ง
    พร้อมกันนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพิจิตร มอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ดังนี้
  2. ค่าสะเทือนใจ รายละ 2,300 บาท 2. ค่าทำศพ รายละ 29,700 บาท 3. ในกรณีที่ผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือเป็นผู้ที่ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวเป็นหลัก มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวเพิ่มให้อีก 29,700 บาท 4. ผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เกิน 3 วัน มอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมรายละ 4,000 บาท
    นอกจากนี้ ภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม องค์กรการกุศล มูลนิธิต่าง ๆ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยเพิ่มเติม ทั้งในเรื่องของสถานภาพความเป็นอยู่ การเยียวยาด้านจิตใจ รวมถึงการฟื้นฟูสถานที่เกิดเหตุเพื่อให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วด้วย.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย