กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – “ปริญญา” เชิญชวนประชาชนโหวตผ่านลิงก์ 1 เบอร์ 1 เสียง ส่งสัญญาณถึง ส.ว. ฟังเสียงประชาชนโหวตเลือกนายกฯ ตาม ส.ส. เสียงข้างมาก เปรยโหวตมา 2.5 ล้านคนแล้ว เตรียมแถลงพรุ่งนี้ (18 พ.ค.)
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เปิดเผยว่าได้ทำโครงการเสียงโหวตของประชาชน โดยโทรศัพท์ 1 เครื่องโหวตได้ 1 ครั้ง ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค. โดยเชิญชวนประชาชนส่งเสียงไปยังสมาชิกวุฒิสภา ว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ ส.ว. ควรฟังเสียงของประชาชนโดยการโหวตตามเสียงข้างมากของ ส.ส. ซึ่งสามารถสแกน QR Code ทางหน้าจอทีวี หรือกดลิงก์ https://peoplevoiceth.survey.fm/เสียงประชาชน-3 ซึ่งสิ่งที่ทำเพื่อให้ประชาชนได้ส่งเสียงตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างสันติ ในวิธีการสมัยใหม่คือทางโซเชียลและทางออนไลน์ และจะมีการแถลงผลโหวตในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งผ่านไป 2 วัน มีคนร่วมโหวตแล้ว 2.5 ล้านคน และเชื่อว่าน่าจะทะลุถึง 3 ล้านคน ถือว่ามากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะครั้งที่แล้วสูงสุด คือ 540,000 คน
สำหรับการโหวตดังกล่าวจะถือเป็นการกดดัน ส.ว. หรือไม่นั้น นายปริญญา กล่าวว่า เป็นการแสดงออกของประชาชนในวิถีทางอย่างสันติ เป็นการเสนอความเห็นของประชาชนให้ ส.ว. ได้พิจารณา ไม่ใช่การชุมนุมหรือเป็นม็อบ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราเรียกว่าประชาธิปไตยโดยตรง โดยประชาชนเป็นเจ้าของประเทศสามารถที่จะแสดงออกได้ เพื่อเสนอต่อ ส.ว. อย่างสันติ
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่เมื่อกติกาเป็นเช่นนี้ แล้วการที่ ส.ว. จะงดออกเสียงจะเป็นการเท่ากับ ส.ว. ไม่รับรองเสียงข้างมากที่มาจากเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะตามกติกาเขียนเอาไว้ให้ ส.ว. มีส่วนร่วมเลือกนายกฯ กับ ส.ส. แต่การงดออกเสียงจะทำให้ ส.ส. เสียงข้างมากยังตั้งรัฐบาลไม่ได้โดยจะต้องรวบรวมเสียงถึง 376 เสียง
โดยปกติรัฐบาลที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งไป 20-30 เสียง ก็สามารถตั้งได้แล้ว และเข้มแข็งพอสมควร สามารถผ่านกฎหมายเพื่อผลักดันนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ได้ และเห็นว่าจำนวนเสียง 310 ถือว่ามากเกินไปด้วยซ้ำ การที่ฝ่ายค้านมีเสียงไม่ถึง 200 เสียง ถือว่าฝ่ายค้านเริ่มอ่อนแอแล้ว และการที่เรียกร้องให้รัฐบาลมีเสียงไปถึง 376 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.นั้น ตนเกรงว่าจะได้รัฐบาลที่เข้มแข็งเกินไป และฝ่ายค้านอ่อนแอเกินไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการถ่วงดุลในระบอบรัฐสภา เพราะการเลือกตั้งรัฐบาลไม่ใช่การแบ่งกระทรวง แต่เป็นการเอานโยบายที่หาเสียงไว้มาทำงาน ซึ่งขณะนี้ยังขาดอยู่อีก 66 เสียง จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไป และหวังว่าเสียงของประชาชนจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทำให้ ส.ว. ช่วยกันฟังเสียงของประชาชน.-สำนักข่าวไทย