นายกฯ ยินดีความร่วมมือด้านการค้าไทย-อินเดีย ก้าวหน้า

กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ยินดีความร่วมมือด้านการค้าไทย-อินเดีย ก้าวหน้า รื้อฟื้นการจัดประชุม JTC ร่วมกันในรอบ 20 ปี ผลักดันการแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า เปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลักดันความร่วมมือด้านการค้าระหว่างไทยกับอินเดีย จนมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ไทย-อินเดีย ครั้งที่ 13 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 20 ปี นับจากการประชุมเมื่อปี 2546

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม JTC ถือเป็นกลไกสำคัญในการหารือแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุน และแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า รวมทั้งผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งในปี 2563 ไทยและอินเดียตกลงรื้อฟื้นการประชุม JTC ขึ้นใหม่ ภายหลังว่างเว้นมานานเกือบ 2 ทศวรรษ เนื่องจากทั้งสองประเทศเข้าสู่การเจรจา FTA ไทย-อินเดีย และ FTA อาเซียน-อินเดีย โดยการประชุม JTC ในครั้งนี้ มีวาระการหารือที่สำคัญเกี่ยวกับการลดอุปสรรคทางการค้า และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับอินเดีย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลลัพธ์การประชุมในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการที่จะใช้การลงนามและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ในหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า รวมทั้งผลักดันการใช้ QR Code ผ่านการเชื่อมโยงระบบ Unified Payments Interface (UPI) ของอินเดีย กับระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ของไทย เพื่อรองรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านการถ่ายทำภาพยนตร์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นอกจากนี้ไทยได้ขอให้อินเดียพิจารณาคำขอเปิดตลาดสินค้ามะพร้าวอ่อนของไทย พร้อมทั้งพิจารณายกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้ายางล้อและโทรทัศน์สี มาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่มีสารทำความเย็น และการจำกัดด่านนำเข้ายางพาราและไม้ตัดดอก ซึ่งอินเดียพร้อมพิจารณา

ทั้งนี้ ไทยและอินเดียถือเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน มีมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2565 รวมกว่า 17,702.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอินเดียถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ และถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก


“นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ผลักดันให้มีการประชุม JTC จนเห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมได้อีกครั้ง มุ่งหวังว่าการประชุมนี้จะสามารถหารือเพื่อทางออกสู่แนวทางแก้ไขอุปสรรคทางการค้า และเปิดตลาดในส่วนที่มีศักยภาพร่วมกันได้ และมั่นใจว่าการประชุมนี้จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับอินเดียให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น จะช่วยต่อยอดเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งสองประเทศ” นายอนุชา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ