“วราวุธ” บุก ม.อุบลฯ ชูนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” อ้อนเลือกทั้งคน-พรรค

อุบลราชธานี 22 เม.ย. – “วราวุธ” บุก ม.อุบลฯ ชูนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” แจกพันธุ์ข้าวดี-ขุดบ่อบาดาล อ้อนขอเลือกทั้งคนทั้งพรรค ย้ำอย่ากาบัตรเสีย “ประภัตร” ร้องขอให้ ชทพ.กลับมาใหม่ในอุบลฯ มีผู้แทนฯ ช่วยทำงานเหมือนในอดีต


เมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค ช่วยหาเสียงให้ น.ส.ใจยา วาจาดี ผู้สมัครเบอร์ 1 พรรคชาติไทยพัฒนา จ.อุบลราชธานี เขต 4 โดยพบปะทักทายพี่น้องประชาชน รณรงค์หาเสียง เปิดเวทีปราศรัย ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

นายประภัตร กล่าวว่า ตนได้กราบสักการะพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี ที่วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ สักการะศาลหลักเมืองอุบลราชธานี และอธิษฐานขอให้พรรคชาติไทยพัฒนาได้มาดูแลพี่น้องชาวอุบลราชธานี เหมือนที่พรรคชาติไทยในอดีตเคยมีผู้แทนราษฎรของ จ.อุบลราชธานี มาแล้วหลายคน ดังนั้น ขอให้เราได้มีผู้แทนราษฎรของพรรคชาติไทยพัฒนาที่นี่อีกคนหนึ่ง น.ส.ใจยา เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบทำบุญ มีความห่วงใย เข้าถึงปัญหาและเข้าใจ เคยเป็น ส.จ. รู้ดีว่าความเดือดร้อนเป็นอย่างไร มีความเสียสละ ทุ่มเททั้งกายและใจ ในการช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน มีความขยัน มีความสามารถเป็นผู้แทนราษฎรได้ วันนี้พี่น้องมากว่า 5,000 คน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่จะทำให้เห็นว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะสามารถปักธงที่อุบลราชธานีได้หรือไม่ พรรคชาติไทยพัฒนาขอกลับมามีผู้แทนราษฎรที่นี่อีกครั้ง ขอให้เลือกทั้งคนของเรา ใจยา เบอร์ 1 และพรรคของเรา ชาติไทยพัฒนา เบอร์ 18


นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเคยมาอุบลราชธานีกับพ่อบรรหาร สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือ ความอบอุ่น รอยยิ้ม ความเป็นกันเอง และความเมตตาที่พี่น้องชาวอุบลราชธานีมีให้กับพรรคชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และตระกูลศิลปอาชา มาตลอด ตนไม่เคยนึกไม่เคยฝันว่าจะต้องมานำพาพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าสู่สนามเลือกตั้ง พรรคชาติไทยพัฒนามานำเสนอบุคคลที่จะเป็นมือเป็นไม้ เป็นหูเป็นตา เพราะเมื่อก่อนเรามีหูตาที่อุบลราชธานีจำนวนมาก วันนี้เราต้องมาสร้างความเชื่อมั่นกันอีกครั้งให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยมานำเสนอนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” เราไม่มีมาแจกมาแถมเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น แต่เราจะไม่ก่อปัญหาให้กับลูกหลานในอนาคต

นายวราวุธ กล่าวว่า อุบลราชธานีเป็นพื้นที่ทำนามากที่สุด หัวใจสำคัญจะต้องมีพันธุ์ข้าวที่ดี ลดต้นทุนการผลิต ชาติไทยพัฒนาจึงบอกว่า เราจะนำพันธุ์ข้าวที่ดีมาให้กับเกษตรกรทั้ง 60 ล้านไร่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม เป็นปัญหาที่อุบลราชธานี เจอเหมือนกันกับที่สุพรรณบุรี ดังนั้น ปัญหาเรื่องน้ำจึงเป็นปัญหาสำคัญ ปีนี้ถึงจะแล้ง แต่ก็ยังพอมีน้ำใช้ แต่ปีหน้าฝนจะตกน้อย และปีต่อไปจะแล้งหนักขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นคือนโยบายสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เราจะเจาะบ่อบาดาลเพิ่มให้กับทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล เพราะถ้ามีน้ำก็จะช่วยให้ภาคการเกษตรดีขึ้น

นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะมาขยายเขตไฟฟ้าให้ทั่วถึง ทำไฟฟ้าให้ราคาถูกลง สูบน้ำเข้านาได้ เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ นโยบายเราจะดูแลผู้สูงอายุ เพราะเราไม่อยากเห็นคนไทยเจ็บไข้ได้ป่วย แต่อยากเห็นทุกคนสุขภาพแข็งแรง มีสุขภาพดี เพราะทุกคนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญในการทำงาน ถ้าสุขภาพดี เรามีเงินคืนให้ 3,000 บาท ส่วนนี้เป็นงบประมาณที่รัฐบาลมีอยู่แล้ว เราไม่ได้มาแจก นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้แจก แต่ทุกอย่างที่เรามอบให้จะสะท้อนเป็นผลผลิตกลับคืนมา


นายวราวุธ กล่าวว่า เราถือว่าผู้สูงอายุคือผู้หลักผู้ใหญ่ของทุกบ้านและของทุกคน เราจะมีศูนย์ผู้สูงอายุ และจัดหาอาชีพให้ผู้สูงอายุเข้าทำงานในบริษัท เหมือนที่ประเทศญี่ปุ่นให้โอกาสในการจ้างงานผู้สูงอายุ ทำงานง่ายๆ เป็นการสร้างรายได้และฝึกสมองให้กับผู้สูงอายุ จะไม่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงสร้างความลำบากให้ลูกหลาน ทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้น เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา “ว้าวไทยแลนด์” ได้มาจากการรับฟังปัญหา ตนเดินทางไปมาแล้วทั่วประเทศไทย ไปรับฟังปัญหาและดูว่ามีปัญหาอย่างไร แล้วนำมากลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา เรารับฟัง ทำจริง เหมือนที่พ่อบรรหารเคยใฝ่ฝันให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น ที่อุบลราชธานีแห่งนี้ เราขอมีหูมีตา มีมือมีไม้ น.ส.ใจยา ได้ขออาสามาเป็นหูเป็นตาให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา 14 พฤษภาคมนี้ ให้โอกาสพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีตัวแทนของพี่น้องประชาชน จะได้เข้ามารับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาใกล้ชิดพี่น้องประชาชน อยู่ที่ทุกคนจะเลือกเหมือนเดิมหรือเลือกใหม่ จะได้ไม่เจอปัญหาแบบเดิมๆ เราจึงมาขอโอกาสและมาขอคะแนน

นายวราวุธ กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 20 กว่าวันเท่านั้น พวกเราจะเข้าคูหาเลือกตั้ง บัตรสองใบ เลือกคนใบหนึ่ง เลือกพรรคใบหนึ่ง บัตรใบสีเขียวเลือกพรรค เปิดออกมามีสัญลักษณ์พรรค มีชื่อ มีเบอร์ ดังนั้น เปิดใบสีเขียวเห็นเลข 18 กาช่องว่างข้างๆ ทันที บัตรใบสีม่วง เอาไว้เลือกผู้แทนฯ เบอร์ 1 กาลงไปตรงช่องว่างข้างๆ เบอร์ อย่าไปกาทับตรงตัวเลข เพราะบัตรมันจะเสีย ไม่มีคะแนน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย

รวบ 2 นักพนันปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 22 มิ.ย.- รวบ 2 นักพนันชาวไทย อยากกลับภูมิลำเนา หลบจากบ่อนปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติ เหตุนำพาสปอร์ตจำนำไว้ที่บ่อน ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อคืนที่ผ่านมา กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ, ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12(ร้อย ชค.1201) เข้มงวดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะออกทำการลาดตระเวนแนวชายแดน ตรวจพบหญิง 2 คน กำลังปีนเครื่องกีดขวาง(ลวดหนามหีบเพลง) จากฝั่งกัมพูชา เข้ามาฝั่งประเทศไทย บริเวณแนวชายแดนคลองลึก บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากตรวจสอบเอกสารประจำตัวทราบชื่อต่อมา น.ส.จุฑาวรรณ ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ เดินทางไปเล่นการพนันช่วงเดือน เม.ย.68 ที่จุดผ่านแดนถาวร บ.คลองลึก และเสียการพนัน จึงได้จำนำหนังสือเดินทาง (passport) ไว้ที่บ่อน และ นางปนัดดา ภูมิลำเนา จ.ขอนแก่น เดินทางไปเล่นการพนัน ตั้งแต่ ส.ค.66 ทางช่องทางธรรมชาติ โดยทั้ง 2 คน ให้การเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ […]