“วราวุธ” บุก ม.อุบลฯ ชูนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” อ้อนเลือกทั้งคน-พรรค

อุบลราชธานี 22 เม.ย. – “วราวุธ” บุก ม.อุบลฯ ชูนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” แจกพันธุ์ข้าวดี-ขุดบ่อบาดาล อ้อนขอเลือกทั้งคนทั้งพรรค ย้ำอย่ากาบัตรเสีย “ประภัตร” ร้องขอให้ ชทพ.กลับมาใหม่ในอุบลฯ มีผู้แทนฯ ช่วยทำงานเหมือนในอดีต


เมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค ช่วยหาเสียงให้ น.ส.ใจยา วาจาดี ผู้สมัครเบอร์ 1 พรรคชาติไทยพัฒนา จ.อุบลราชธานี เขต 4 โดยพบปะทักทายพี่น้องประชาชน รณรงค์หาเสียง เปิดเวทีปราศรัย ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

นายประภัตร กล่าวว่า ตนได้กราบสักการะพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี ที่วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ สักการะศาลหลักเมืองอุบลราชธานี และอธิษฐานขอให้พรรคชาติไทยพัฒนาได้มาดูแลพี่น้องชาวอุบลราชธานี เหมือนที่พรรคชาติไทยในอดีตเคยมีผู้แทนราษฎรของ จ.อุบลราชธานี มาแล้วหลายคน ดังนั้น ขอให้เราได้มีผู้แทนราษฎรของพรรคชาติไทยพัฒนาที่นี่อีกคนหนึ่ง น.ส.ใจยา เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบทำบุญ มีความห่วงใย เข้าถึงปัญหาและเข้าใจ เคยเป็น ส.จ. รู้ดีว่าความเดือดร้อนเป็นอย่างไร มีความเสียสละ ทุ่มเททั้งกายและใจ ในการช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน มีความขยัน มีความสามารถเป็นผู้แทนราษฎรได้ วันนี้พี่น้องมากว่า 5,000 คน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่จะทำให้เห็นว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะสามารถปักธงที่อุบลราชธานีได้หรือไม่ พรรคชาติไทยพัฒนาขอกลับมามีผู้แทนราษฎรที่นี่อีกครั้ง ขอให้เลือกทั้งคนของเรา ใจยา เบอร์ 1 และพรรคของเรา ชาติไทยพัฒนา เบอร์ 18


นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเคยมาอุบลราชธานีกับพ่อบรรหาร สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือ ความอบอุ่น รอยยิ้ม ความเป็นกันเอง และความเมตตาที่พี่น้องชาวอุบลราชธานีมีให้กับพรรคชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และตระกูลศิลปอาชา มาตลอด ตนไม่เคยนึกไม่เคยฝันว่าจะต้องมานำพาพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าสู่สนามเลือกตั้ง พรรคชาติไทยพัฒนามานำเสนอบุคคลที่จะเป็นมือเป็นไม้ เป็นหูเป็นตา เพราะเมื่อก่อนเรามีหูตาที่อุบลราชธานีจำนวนมาก วันนี้เราต้องมาสร้างความเชื่อมั่นกันอีกครั้งให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยมานำเสนอนโยบาย “ว้าวไทยแลนด์” เราไม่มีมาแจกมาแถมเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น แต่เราจะไม่ก่อปัญหาให้กับลูกหลานในอนาคต

นายวราวุธ กล่าวว่า อุบลราชธานีเป็นพื้นที่ทำนามากที่สุด หัวใจสำคัญจะต้องมีพันธุ์ข้าวที่ดี ลดต้นทุนการผลิต ชาติไทยพัฒนาจึงบอกว่า เราจะนำพันธุ์ข้าวที่ดีมาให้กับเกษตรกรทั้ง 60 ล้านไร่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม เป็นปัญหาที่อุบลราชธานี เจอเหมือนกันกับที่สุพรรณบุรี ดังนั้น ปัญหาเรื่องน้ำจึงเป็นปัญหาสำคัญ ปีนี้ถึงจะแล้ง แต่ก็ยังพอมีน้ำใช้ แต่ปีหน้าฝนจะตกน้อย และปีต่อไปจะแล้งหนักขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นคือนโยบายสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เราจะเจาะบ่อบาดาลเพิ่มให้กับทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล เพราะถ้ามีน้ำก็จะช่วยให้ภาคการเกษตรดีขึ้น

นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะมาขยายเขตไฟฟ้าให้ทั่วถึง ทำไฟฟ้าให้ราคาถูกลง สูบน้ำเข้านาได้ เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ นโยบายเราจะดูแลผู้สูงอายุ เพราะเราไม่อยากเห็นคนไทยเจ็บไข้ได้ป่วย แต่อยากเห็นทุกคนสุขภาพแข็งแรง มีสุขภาพดี เพราะทุกคนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญในการทำงาน ถ้าสุขภาพดี เรามีเงินคืนให้ 3,000 บาท ส่วนนี้เป็นงบประมาณที่รัฐบาลมีอยู่แล้ว เราไม่ได้มาแจก นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้แจก แต่ทุกอย่างที่เรามอบให้จะสะท้อนเป็นผลผลิตกลับคืนมา


นายวราวุธ กล่าวว่า เราถือว่าผู้สูงอายุคือผู้หลักผู้ใหญ่ของทุกบ้านและของทุกคน เราจะมีศูนย์ผู้สูงอายุ และจัดหาอาชีพให้ผู้สูงอายุเข้าทำงานในบริษัท เหมือนที่ประเทศญี่ปุ่นให้โอกาสในการจ้างงานผู้สูงอายุ ทำงานง่ายๆ เป็นการสร้างรายได้และฝึกสมองให้กับผู้สูงอายุ จะไม่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงสร้างความลำบากให้ลูกหลาน ทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้น เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา “ว้าวไทยแลนด์” ได้มาจากการรับฟังปัญหา ตนเดินทางไปมาแล้วทั่วประเทศไทย ไปรับฟังปัญหาและดูว่ามีปัญหาอย่างไร แล้วนำมากลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา เรารับฟัง ทำจริง เหมือนที่พ่อบรรหารเคยใฝ่ฝันให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น ที่อุบลราชธานีแห่งนี้ เราขอมีหูมีตา มีมือมีไม้ น.ส.ใจยา ได้ขออาสามาเป็นหูเป็นตาให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา 14 พฤษภาคมนี้ ให้โอกาสพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีตัวแทนของพี่น้องประชาชน จะได้เข้ามารับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาใกล้ชิดพี่น้องประชาชน อยู่ที่ทุกคนจะเลือกเหมือนเดิมหรือเลือกใหม่ จะได้ไม่เจอปัญหาแบบเดิมๆ เราจึงมาขอโอกาสและมาขอคะแนน

นายวราวุธ กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 20 กว่าวันเท่านั้น พวกเราจะเข้าคูหาเลือกตั้ง บัตรสองใบ เลือกคนใบหนึ่ง เลือกพรรคใบหนึ่ง บัตรใบสีเขียวเลือกพรรค เปิดออกมามีสัญลักษณ์พรรค มีชื่อ มีเบอร์ ดังนั้น เปิดใบสีเขียวเห็นเลข 18 กาช่องว่างข้างๆ ทันที บัตรใบสีม่วง เอาไว้เลือกผู้แทนฯ เบอร์ 1 กาลงไปตรงช่องว่างข้างๆ เบอร์ อย่าไปกาทับตรงตัวเลข เพราะบัตรมันจะเสีย ไม่มีคะแนน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]