เพื่อไทยจัดปราศรัยกรุงเทพฯ ตะวันออก

สวนสยาม 20 เม.ย.- พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ครั้งแรก “อุ๊งอิ๊ง” ย้ำต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ทั้งคนทั้งพรรคแบ่งใจไม่ได้ ด้าน “เศรษฐา” โว นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดนโจมตี เพราะกลัวคนเลือกเพื่อไทย อ้อนเลือก กทม. ทั้ง 33 เขต


พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพ” ที่ลานสวนสยาม เขตคันนายาว ซึ่งถือเวทีปราศรัยครั้งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กลับจากการเดินสายหาเสียงในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานเพื่อมาขึ้นเวทีปราศรัยที่ กทม.วันนี้ด้วยตัวเอง เดินทางกลับไปตรงพื้นที่ภาคอีสานต่อวันทีในวันเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียงกรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส. กทม. ของพรรคเพื่อไทย โซนตะวันออกทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัย โดย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชน มารับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่


โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ปราศรัยผ่านวิดีโอคอลว่า ตนดีใจที่ได้เจอพี่น้องผ่านเทนโนโลยี ตอนนี้ท้อง 9 เดือนแล้วใกล้คลอดเต็มทีแต่ใจยังสู่อยากเจอพี่น้องด้วยตัวเอง วันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะเข้ามาแก้ปัญหาคาราคาซังของประชาชน นโยบายของพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ จะทำให้กรุงเทพฯกลับมาหน้าอยู่ เป็นเมืองแห่งโอกาสของคนไทยทุกคน ทั้งเรื่องดิจิทัลวอเลต ค่าแรง เขตธุรกิจใหม่ ลดกฎเกณฑ์ข้อกฎหมาย เสริมด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และเรายังมีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ยืนยันเราทำได้แน่นอน นโยบายดีดีใครก็พูดได้แต่พูดแล้วทำได้คือเพื่อไทย แต่ถ้าเราไม่แลนด์สไลด์เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อาจได้นายกฯคนเดิม ถ้าอยากได้นายกฯคนเดิม เศรษฐกิจเหมือนเดิม เราไม่มาขอแลนด์สไลด์ แต่วันนี้เราขอให้เลือกอย่างมียุทธศาสตร์เพื่อแลนด์สไลด์ปิดสวิต ส.ว. ปิดสวิต 3 ป. และจะเกิดไม่ได้ถ้าพี่น้องแบ่งใจ แล้วนโยบายต่างๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้เราจะเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาลจะเป็นชุดเดิม ดังนั้น 14 พ.ค.นี้ขอให้เข้าคูหากาเพื่อไทย คนกรุงเทพฯต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง และเมื่อได้เป็นรัฐบาลเราจะลดรายจ่ายประชาชนทันทีที่เป็นรัฐบาล การเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์สำคัญมาก จะแผ่วไม่ได้ แบ่งใจไม่ได้ขอให้หนักแน่นในพรรคเพื่อไทย อีกอึกใจเดียวได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ชีวิตต้องดีขึ้นแน่นอน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล จะมีการลดภาระรายจ่ายของประชาชนทันที ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ลำบากอยู่ทุกวันนี้ เราจะลดเลยทันทีที่เป็นรัฐบาล ตนอยากให้ทุกคนเห็นว่าการเลือกตั้ง แบบมียุทธศาสตร์มีความสำคัญมาก ต่อประเทศชาติ ขอให้ทุกคนหนักแน่นในพรรคเพื่อไทย ในส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทย พร้อมขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ อากาศช่วงนี้ไม่ค่อยดีฝุ่นเยอะ รัฐบาลก็จัดการไม่ได้ แต่หากรัฐบาลเป็นเพื่อไทยต้องมีแผนไว้หมดแล้วว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง โดยเฉพาะกับประชาชนภาคเหนือในตอนนี้ หากได้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ชีวิตต้องดีขึ้นแน่นอน

นายเศรษฐา ปราศรัยย้ำ นโยบายของพรรคเพื่อไทย มีเนื้อหาสรุปว่า มีคนออกมาพูดคนไม่อยากเกณฑ์ทหารเป็นคนชังชาติ การรักชาติไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นทหารอย่างเดียว พรรคเพื่อไทยมาเราสนับสนุนให้เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ เรื่องคอรัปชั่นก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเหตุผลการรัฐประหารตลอด แต่แปลกใจเมื่อทำรัฐประหารเสร็จ ดัชนีชีวิตทุจริตสูงขึ้นตลอด ใครกันแน่ทุจริตคอรัปชั่น พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการทุจริต เงินทุกบาทต้องตกที่ประชาชน อีกเรื่องคือยาเสพติดที่ระบาดไปทุกมุมเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้ง เราจะยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยนายกฯจากพรรคเพื่อไทยไม่ว่าเป็นใครจะนั่งหัวโต๊ะ จัดการอย่างเด็ดขาดหมดสิ้นไปภายใน 1 ปี และยึดทรัพได้อย่างรวดเร็ว และเราสนับสนุนให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยนโยบายรถไฟฟ้าต้อง 20 บาทตลอดทั้งสาย ต่อรถเมล์อีก 10 บาท รวมเป็น 30 บาทถึงเป้าหมายเรื่องสิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศภาพ เป็นอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เราต้องมีกฎหมายรองรับให้คนอยู่ร่วมกันได้ เรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่พรรคเพื่อไทยเปิดไป ทุกคนออกมาพูดเพราะรู้ว่าโดนใจประชาชน กลัวว่าคนจะชอบแล้วมาเลือกเพื่อไทย วันนี้เราส่งข้อมูลให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรียบร้อย หลายนโยบายที่ตนพูด ไปจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่กาทั้่งคนทั้งพรรค ขอวิงวอนว่าวันที่ 14 พ.ค. จะเป็นวันเปลี่ยนประวัติศาสตร์การเมืองไทย หวังส.ส.ทั้ง 33 เขตในกทม.ของพรรคเพื่อไทย จะได้รับการเลือกตั้งเข้าสภา วันที่ 14 พ.ค. กาทั้งคนทั้งพรรคให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์


ด้านนายดนุพร ปราศรัยระบุว่า เวลานี้พรรคเพื่อไทยโดนโจมตีสารพัด ทำให้มีการตั้งคำถามว่าพรรคจะต้องต่อสู้อย่างไร แต่ขอยืนยันว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย เพราะคู่ต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยคือ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

“เราจะสู้กับรัฐบาลทักษิณชินวัตรเมื่อปี48 ที่ได้ที่นั่ง 371 เสียง เราจะสู้กับรัฐบาล พลังประชาชน ของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2550 ได้ 233 เสียง และที่สำคัญคือเราต้องเอาชนะ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2554 ได้ 265 เสียง นี่คือคู่แข่งของเรา” นายดนุพร กล่าว

นายดนุพร ยังกล่าวอีกว่าอีกไม่ถึงเดือน จะถึงวันเลือกตั้ง อยากฝากบอกไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้อยู่มาหลายปีขอให้เตรียมรถกระบะ รถบรรทุก มาขนของออกจากทำเนียบในวันที่ 15 พ.ค. ส่วนทหารที่อยู่ในทำเนียบก็ขอให้กลับกรมกอง กลับไปอยู่ชายแดน ที่เกษียณแล้วก็ขอให้กลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ไม่ต้องมาอยู่เป็นรั้วของทำเนียบ เพราะรั้วของทำเนียบรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคือพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยโซนตะวันออก ประกอบด้วย

  1. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 19 กทม.
  2. นายโพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 18 กทม.
  3. นายไพฑูรย์ อิสระเสรีพงษ์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 17 กทม.
  4. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 20 กทม.
  5. นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 14 กทม.
  6. นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 22 กทม.
  7. นายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 21 กทม.
  8. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 15 กทม.
  9. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 16 กทม.
  10. น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัครส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 13 กทม. -สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]