“บิ๊กป้อม” นำ พปชร.ปราศรัยฉะเชิงเทรา ลั่นลดราคาพลังงานทันทีที่เป็น รบ.

ฉะเชิงเทรา 19 เม.ย. – “พล.อ.ประวิตร” นำทัพ พปชร.ปราศรัย จ.ฉะเชิงเทรา ส่งผู้สมัคร 4 เขต คนดี คนเก่ง รับใช้ประชาชน ลั่นลดราคาพลังงานทุกชนิดทันทีที่เป็นรัฐบาล ชวนคนไทยก้าวข้ามความยากจนและความขัดแย้ง


เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 เวลา 17.50 น. พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณลานจอดรถ วัดสมานรัตนาราม ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ดร.รัฐสภา นพเกตุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เบอร์ 3, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เบอร์ 4, นายสายัณห์ นิราช ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เบอร์ 4 และ พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 เบอร์ 7 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวน 12,000 คน รอเข้าร่วมรับฟังการปราศรัย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นที่มาพบปะพี่น้องประชาชนในวันนี้ ผมและพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแล้วที่จะทำงานรับใช้พี่น้องชาว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้ จ.ฉะเชิงเทรา เจริญรุ่งเรือง ฝากพรรคพลังประชารัฐด้วย พรรคได้เลือกคนดี คนเก่ง มาเป็นผู้แทนของพี่น้องชาว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้ง 4 เขต โปรดเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 4 เขต และการเลือกพรรคพลังประชารัฐ ขอให้เลือกเบอร์ 37 ด้วย ทั้งนี้ อยากจะสื่อสารให้พี่น้องทราบว่า พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทำนโยบายบัตรประชารัฐเพิ่มเป็น 700 บาท/เดือน ลดราคาน้ำมัน แก๊สหุงต้ม และค่าไฟฟ้า ลงในทันที เมื่อได้เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยน้ำมันเบนซิน ลดลง 18 บาท/ลิตร ดีเซล ลดลง 6.30 บาท/ลิตร ในทันที หากพรรคได้มาเป็นรัฐบาล รวมทั้งมีมาตรการลดราคาแก๊สหุงต้มเหลือ 250 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ที่สำคัญคือ ลดราคาค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย เหลือ 2.50 บาท/หน่วย ภาคอุตสาหกรรม เหลือ 2.70 บาท/หน่วย


อย่างไรก็ตาม พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้น ขอฝากพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 และเลือกผู้สมัครทั้ง 4 เขตของพรรคด้วย ทั้งนี้ เพื่อมอบความสุขให้กับประชาชนด้วยความจริงใจ นอกจากจะดูแลคนไทยทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ โดยอายุ 60 ปี ได้รับการดูแล เดือนละ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป ได้รับการดูแล 4,000 บาท อายุ 80 ปีขึ้นไป จะได้รับการดูแล 5,000 บาท ช่วยดูแลผู้สูงอายุให้สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังมีนโยบายดูแลสุขภาพสตรีตั้งครรภ์ ตั้งแต่ 5 เดือนเป็นต้นไป เดือนละ 10,000 บาท จนถึงคลอด และเมื่อคลอดออกมาแล้วจะดูแลไปจนถึง 6 ขวบ เดือนละ 3,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายมีเราไม่มีแล้ง ได้ลงพื้นที่ดูแลเรื่องน้ำหลายครั้ง เพื่อดูแลแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องน้ำเค็ม น้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร และได้ทำโครงการต่างๆ ให้กับพี่น้องชาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นจำนวนมาก เรื่องที่ทำกินได้มอบหนังสืออนุญาตทำประโยชน์หลายครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่เขาตะเกียบ

พรรคพลังประชารัฐจะแก้ปัญหาความยากจน และก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน ด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างงาน สร้างรายได้ ยกระดับการศึกษา ยกระดับภาคอุตสาหกรรม และจะพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยการขยายเส้นทางถนนหมายเลข 304 ให้สะดวกในการคมนาคม ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


“ผมพูดไม่เก่ง แต่ทำงานและประสานประโยชน์ได้ทุกฝ่าย จะนำคนเก่งๆ มาร่วมมือกันทำงาน ก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความรุ่งเรืองให้ประเทศ ก้าวข้ามความยากจน เราจะก้าวข้ามความยากจนและความขัดแย้งไปด้วยกัน ทำให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศมีความเป็นหนึ่งเดียว รักใคร่สามัคคีกัน ขอให้เชื่อมั่นใน พปชร. ผมขอประกาศกับพี่น้องว่าเราทำได้ พร้อมจะรับใช้ประชาชนให้มีความสุขต่อไป โดยการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ โปรดเลือก พปชร. เบอร์ 37 และเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ขอฝาก พปชร.ไว้กับชาวฉะเชิงเทราด้วย” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวปราศรัยว่า ขอให้ประชาชนศึกษาวิธีการกาบัตรให้ดี เพราะครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะการเลือกครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐยืนยันชัดเจนว่า ไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่จะเป็นกาวใจเชื่อมประสานทุกพรรค เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี หลังการเลือกตั้งจะต้องไม่ตีกันและไม่ขัดแย้ง ความคิดแตกต่างกันได้ แต่คนไทยต้องรักกัน วันนี้เรามาขอคะแนน โดยจะเป็นกาวใจเชื่อมทุกฝ่าย เพื่อดูแลประชาชน อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร สามารถประสานงานได้ทุกฝ่าย เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด และบุคลากรในพรรคของเราก็มีความรู้ ความสามารถ และเรายังมีมือเศรษฐกิจที่ดีที่สุด ตนจึงขอให้ประชาชนพิจารณาเลือกพรรคพลังประชารัฐด้วย

นายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรประชารัฐ เดือนละ 700 บาท เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางได้มีเงินยังชีพ ปัจจุบันที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 14.5 ล้านคน หรือประมาณ 25% ของคนไทยทั้งประเทศ โดยพรรคมีแนวคิดให้พี่น้องกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรฯ สามารถขึ้นทะเบียนเพื่อฝึกอบรมอาชีพ จำนวน 15 วัน และเมื่อผ่านการอบรมจะได้รับทุน จำนวน 30,000 บาท/คน เพื่อนำไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพ โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกจะผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้กลุ่มเหล่านี้มีอาชีพที่มั่นคง ก้าวพ้นจากความยากจน และเป็นผู้ประกอบการรายใหม่

นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐยังมีโครงการที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก โดยการสร้างทางรถไฟทางคู่ เริ่มจาก จ.บึงกาฬ มายัง จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.สุรินทร์ มา จ.ปราจีนบุรี มา จ.สระแก้ว มา จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ตามนโยบายที่จะพัฒนา “อีสานประชารัฐ”

ด้านนายอรรถกร หนึ่งในผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยว่า ต้องขอบคุณชาวฉะเชิงเทราที่ให้ความเอ็นดูมากว่า 10 ปี ตั้งแต่สมัยคุณพ่อของตน วันนี้ตนมาขอคะแนนและขอความเอ็นดูจากพี่น้องอีก 1 สมัย ตนขอโอกาสได้เข้าสภาฯ ไปผลักดันการแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้พี่น้องชาวฉะเชิงเทราทุกคน ทั้งนี้ ขอให้วันที่ 14 พ.ค. พี่น้องเข้าคูหากาเบอร์ 37 หากจำไม่ได้ให้คิดถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเพิ่มจำนวนเงินในบัตรประชารัฐ จาก 300 เป็น 700. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย