กรุงเทพฯ 19 เม.ย.-“องอาจ“ พร้อม “มาดามเดียร์” ลงพื้นที่ราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ ช่วย “ชยิน พึ่งสาย” หาเสียง ผลักดันนโยบายด้านชุมชน ดึงอัตลักษณ์สร้างรายได้พื้นที่ จี้รัฐบาลทบทวนโครงสร้างราคาค่าพลังงาน หลังประชาชนโอดค่าไฟพุ่ง บอกไม่ได้กระทบแค่ภาคธุรกิจ แต่กระทบปากท้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงสนับสนุนให้ นายชยิน พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ส. กทม เขตราษฎร์บูรณะ - ทุ่งครุ หมายเลข 7 โดยบรรยากาศขณะลงพื้นที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ เป็นไปอย่างคึกคักมีบรรดาแฟนคลับขอถ่ายภาพร่วมกันอย่างเป็นกันเอง ก่อนขึ้นขบวนรถแห่ ตามถนนพุทธบูชา ไปยังวัดพุทธบูชา เพื่อนั่งเรือจากวัดพุทธบูชาตามคลองบางมด เพื่อมาพบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งแต่เดิมปลูกส้ม(บางมด) แต่ได้รับผลกระทบจากการหนุนของน้ำเค็ม จึงต้องเปลี่ยนเป็นการปลูกมะพร้าวแทน รวมถึงได้ล่องเรือไปเยี่ยมชมการรวมกลุ่มของชุมชนกลุ่มกำปงในดงปรือ และดารุลอิบาดะห์ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชน แปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมแพะ
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายสำหรับชุมชน ตั้งแต่โครงการธนาคารชุมชน หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท ที่ตั้งใจให้คนไทยได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชนที่มีอัตลักษณ์ ได้นำอัตลักษณ์ความเป็นไทย ภูมิปัญญาชาวบ้านมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนหาแหล่งรายได้ ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ประสบกับปัญหา น้ำเค็มรุกล้ำ ทำให้ต้องเปลี่ยนอาชีพจากเกษตรกรชาวสวนส้มมาเป็นการปลูกมะพร้าวน้ำหอมแทน ทางประชาธิปัตย์มีนโยบายการสร้างเดลต้าเวิร์ดไทยแลนด์ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งน้ำท่วมน้ำแรงและน้ำเค็มหนุน
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึง กรณีการแก้ไขปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการรื้อระบบโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องค่า FT ซึ่งถือเป็นต้นทุนค่าพลังงานทำให้ประชาชนต้องแบกรับ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ขณะที่ราคาสินค้าต่างๆ ต่างขยับตัวสูงขึ้น แต่รายได้ไม่ได้ขยับขึ้นสูง จึงอยากวิงวอนไปยังรัฐบาลที่จะช่วยทบทวนเรื่องโครงสร้างราคาค่าพลังงานต่างๆ หรือสัญญา PPA ต่างๆ ที่เคยทำและผูกพัน ในปัจจุบันอาจจะไม่ได้มีความต้องการ อีกต่อไปในอนาคต ซึ่งล้วนแต่เป็นภาระของประชาชน ดังนั้นอยากจะย้ำว่ารัฐบาลมีส่วนในการช่วยเรื่องราคาต้นทุนค่าพลังงานสินค้าของประชาชนและเป็นจำนวนมาก พร้อมกับยามว่าภาระค่าไฟฟ้าหรือต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นไม่ได้เป็นปัญหาภาระที่เกิดขึ้นเฉพาะแค่ภาคธุรกิจ แต่ต้นทุนเหล่านี้ส่งผลต่อประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยสุดท้ายก็หนีไม่พ้นความเดือดร้อนของประชาชน.-สำนักข่าวไทย