“เศรษฐา” นำทีมเศรษฐกิจ แจงเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท

พรรคเพื่อไทย 7 เม.ย.- “เศรษฐา” นำทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ร่ายยาวแจงเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท ช่วยปั๊มหัวใจคนไทย ไม่ใช่หยอดน้ำข้าวต้มไปวันๆ พร้อมประกาศหากเป็นรัฐบาลจะเริ่มโครงการได้ 1 ม.ค.67

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และนายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค และกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงถึงนโยบาย เติมเงิน10,000 บาท ในกระเป๋าตังดิจิทัล


นายเศรษฐา กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำรวมถึงด้านเศรษฐกิจซึมลึกซึมยาวซึมงาน รัฐบาลที่ผ่านมาหยอดน้ำข้าวต้มมาเรื่อยเป็นเงินเล็กน้อย ซึ่งตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจ ที่เหมาะสมและถูกต้อง

“พรรคเพื่อไทยจึงเติมเงินครั้งเดียว 10,000 บาท เป็นเงินสกุลดิจิทัล ผ่าน digital Wallet แทนเงินสด เพราะเงินสดอาจจะนำไปใช้ทางอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น การพนัน ยาเสพติดหรือ การใช้หนี้นอกระบบ เพราะเงินดิจิทัลสามารถติดตามได้ว่าจะใช้จ่ายอะไร ซึ่งเงิน จำนวนนี้ยังสามารถ นำไปใช้จ่ายขั้นพื้นฐานได้อย่าง เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าน้ำมัน เป็นต้น ยกเว้นเหล้าบุหรี่หรืออะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะสามารถเขียนโปรแกรมป้องกันได้ แต่หนี้จากสถาบันการเงิน พรรคกำลังจะมีการพิจารณาว่าอาจจะมีการหักส่วนหนึ่งจาก 10,000 บาทนั้นเพื่อนำไปใช้หนี้ในระบบ” นายเศรษฐา กล่าว


นายเศรษฐา กล่าวว่า ร้านสะดวกซื้อก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เพราะพรรคเพื่อไทยเล็งเห็นความเสมอภาคไม่ได้กีดกันใครคนใดคนนึง ขณะที่การกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนั้น เพื่อเป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่รัศมีในการใช้ตามบัตรประชาชน 4 กิโลเมตรนั้น อาจจะขยายระยะทางตามความเหมาะสม สำหรับพื้นที่อาจจะไม่มีร้านค้าที่สามารถใช้ได้ในรัศมี 4 กิโลเมตร เช่น พื้นที่ห่างไกล หรือบนเขา แต่จะไม่สามารถข้ามพื้นที่ได้ เช่น คนที่มาทำงานในกรุงเทพฯ จะไม่สามารถใช้ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการขยายความเจริญไปสู่ภูมิภาคไม่ใช่กระจุกตัวอยู่แต่หัวเมืองอย่างเดียว
สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการ หลังนักวิชาการบอกว่าเป็นประชานิยมสุดขั้วเกรงว่าจะกระกระทบหนี้สาธารณะของประเทศ

นายเศรษฐา กล่าวว่าจะนำมาจากการจัดสรรงบประมาณปี 2567 การจัดเก็บภาษี รวมถึง ภาษีนิติบุคคล ที่ห้างร้าน เอสเอ็มอี ภาคอุตสาหกรรม จะได้รายได้เพิ่มมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งมาจากสวัสดิการรัฐที่ลดน้อยลง

“จึงไม่อยากให้ใช้คำว่าประชานิยมสุดโต่งแต่เป็นความจำเป็นและความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการการช่วยเหลือเวลานี้” นายเศรษฐา กล่าว


เมื่อถามถึงงบประมาณปี 2567 ที่ตั้งไว้ 3.35 ล้านล้านบาท ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลจะมีการปรับลดจากส่วนไหน รวมถึงกระทรวงกลาโหมด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าการจัดเก็บภาษีจะได้เงินเพิ่มกว่า 200,000 ล้านบาทอยู่แล้ว ส่วนงบอื่นหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นรัฐบาล ก็ต้องดูส่วนอื่นๆด้วยไม่ใช่กระทรวงกลาโหมเพียงอย่างเดียว และต้องให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

นายเศรษฐา ย้ำว่าเงินในกระเป๋าดิจิทัล จะได้ทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพราะรัฐธรรมนูญระบุชัดห้ามกีดกัน ซึ่งจะใช้งบประมาณ 5 แสนกว่าล้านบาท และหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว คาดว่าภาย1 มกราคม 2567 จะสามารถเริ่มนโยบายได้เลย

ด้านนพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า เจตนารมณ์และจุดยืนของพรรคเพื่อไทย คือต้องการได้อำนาจรัฐ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเรื่องนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 มาตรการของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทยอยประกาศออกมา ตั้งแต่เรื่องรายได้ขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภาคการเกษตรซึ่งมีประชากร 40% ของประเทศ จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี

“ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ด้านภาคธุรกิจและภาคบริการ พรรคเพื่อไทยจะกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเปิดประตูรองรับการท่องเที่ยว เพื่อนำเม็ดเงินเข้าประเทศ เช่น โครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ตั้งเป้า 200,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และอื่นๆ อีกมากมาย” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยถูกทอดทิ้งจนถดถอย และล้าหลังในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลอ้างว่าเรื่องของโควิด แต่หลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปแล้ว เศรษฐกิจของประเทศไทย ยังอยู่อันดับท้ายของอาเซียน ค่าใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น แต่รายได้ไม่เพียงพอ เราไม่อยากหยอดน้ำข้าวต้ม เพื่อยื่นความตาย เราจึงต้องปั๊มหัวใจฟื้นมาอย่างรวดเร็วและแข็งแรง

สำหรับมาตรการดิจิทัล วอลเล็ต เป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อรีบปลุกพละกำลังของคนไทยให้ฟื้นขึ้น มีนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าเป็นการกระตุ้นการบริโภคอาจจะไม่ถูกทางดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในภาคการเกษตร ถือว่ามีความหมายมาก เพราะสามารถทำมาหากินในแปลงเกษตรกรรมได้ และในระหว่าง 6 เดือน จะมีมาตรการรองรับ มาตรการนี้เป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อปลุกเร้าให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแข่งขันกับต่างประเทศได้

นพ.พรหมมินทร์ เชื่อว่านโยบายนี้ไม่เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้เพราะเป็นนโยบายที่ดำเนินการให้กับทุกคน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ประเทศถอยหลังลงไปเยอะ ประชาชนมีค่าใช้จ่ายสูง และกำลังจะจมน้ำหายใจแทบไม่ออก กระเป๋าเงินดิจิทัล เปรียบเหมือนห่วงชูชีพเพื่อให้ประชาชนพักหายใจ แล้วว่ายน้ำต่อจากมาตรการที่พรรคเพื่อไทยจะส่งต่อไป นี่จึงเป็นเพียงบทที่หนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ” นพ. พรหมมินทร์กล่าว

เมื่อถามว่านโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะใช้เงินเท่าไหร่ นพ.พรหมมินทร์ ย้อนถามว่าถามอย่างกับเป็น กกต.เพื่อมาตรวจสอบ ยืนยันดำเนินการทุกอย่างอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมเปรียบว่าเป็นการบริหารสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ประเทศไทยมีรถเฟอร์รารีแต่ให้ คนขับเวียนไปขับ มันไปไม่ได้ ต่อไปนี้คนขับรถแข่งมาเอง

ขณะที่นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจพื้นฐาน และเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งด้านของเศรษฐกิจดิจิทัล เติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจพื้นฐาน 2.5 เท่า และในที่สุดจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจพื้นฐาน หากไม่วางโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล จะทำให้ประเทศไทยเดินไปสู่หายนะ
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล วันนี้พรรคเพื่อไทยไปไกลกว่า Free – WiFi อินเทอร์เน็ต 5G แต่เราจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินยุคใหม่ให้กับประเทศ เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล ระบบการเงินยุคใหม่ที่ไร้ตัวกลาง ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน

“ต่อจากนี้คนไทยอายุ 16 ปี ขึ้นไป จะมี 2 บัญชี คือ บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และบัญชีดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะผูกบัตรประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคนโดยอัตโนมัติ โดยจะมีกุญแจดิจิทัล ให้กับประชาชนเข้าถึงบัญชีนี้ ดึงดูดผู้ใช้ด้วยการใส่เงินก้นถุง 10,000 บาทให้กับประชาชนทุกคน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการสร้างแรงจูงใจระบบการเงินยุคใหม่นี้ ซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนที่สามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้เงินได้ เช่น ใช้ภายใน 6 เดือน ระยะ 4 กม.จากที่อยู่บัตรประชาชน และสามารถเขียนโค้ดได้ภายใน 5 นาทีว่าเงิน 10,000 บาท จะกลายเป็นเงิน 12,000 บาท หรือกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรอง จาก 10,000 บาทเป็น 13,000 บาทได้ ทั้งหมดคือความสามารถของบล็อคเชน” นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เมื่อจบโครงการนี้ประเทศจะก้าวสู่ระบบการเงินยุคใหม่ด้วย (CBDC) หรือ Central bank digital currency ซึ่งสามารถใช้ในระบบการจัดจ้าง การใช้จ่ายปกติทั่วไป ทั้งหมดจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศอันดับหนึ่งในภูมิภาค ที่ใช้เงินดิจิทัล กลายเป็นประเทศอันดับ 2 ในซีกโลกตะวันออกรองจากจีน และไทยจะอยู่ไม่เกินอันดับ 10 ของโลก และจะทำให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการระดมทุนผ่าน Dogital asset เป็นศูนย์กลางของ Fintech เป็นศูนย์กลางบล็อคเชน เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค รายได้มหาศาล การสร้างงาน การจ้างงานจะเกิดขึ้น ทั้งหมดคือการลงทุนที่ผลตอบแทนสูง

ส่วนงบประมาณที่ใช้เพื่อไทยไม่เน้นการแจกจ่าย เราจะไม่โอบอุ้มด้วยการให้สวัสดิการไปเรื่อยๆ เราเน้นการสร้างรายได้ให้กับประชาชน จึงมุ่งหมายคือการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ไม่ใช่การโอบอุ้มจุนเจือระยะยาวที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถลึกยืนด้วยขาของตัวเอง เราคือทุนนิยมที่เท่าเทียม และเป็นทุนนิยมที่มีหัวใจ หลักของเราคือการสร้างรายได้ และเราเป็นพรรคที่ใช้หลักการที่การรดน้ำที่ราก เราเห็นความสำคัญของแรงงาน เอสเอ็มอี ผู้มีรายได้น้อยเพราะเป็นฐานของเศรษฐกิจ ยืนยันพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีความรับผิดชอบสูงสุดต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ และความมั่นคงทางการคลังของประเทศ

“นี่คือจุดแตกต่างของเรากับแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ ซึ่งเป็นเงินในโลกยุคเก่า เราคือเงินยุคใหม่ ทั้งหมดคือวิสัยทัศน์ของเพื่อไทย เราคิดใหญ่ คิดใหม่ คิดทันสมัย” นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค และกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงทุนภาครัฐมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ เป็น 1 ใน 4 เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ หากการเลือกตั้งเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชน จะกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ในปี 2567 รัฐบาลจะมีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 260,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สำนักงบประมาณเคยคาดการณ์ไว้ และยังไม่รวมโครงการอื่นๆ ของรัฐบาลปัจจุบัน ที่สามารถลดโครงการที่ไม่จำเป็นลงได้

“พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกบัตรคนจน โดยจะดำเนินโครงการ ดิจิทัล สอลเล็ต 10,000 บาท กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป และคาดว่าทันทีที่เริ่มโครงการคนไทยจะไม่อยากใช้บัตรคนจนอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้สามารถลดงบประมาณส่วนของบัตรคนจนลงไปได้ 50,000 ล้านบาท รวมทั้งรีดไขมันจาก พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2567 จากโครงการที่ไม่จำเป็นอีกต่อไปได้” นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการบริหารงานในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันสามารถพิสูจน์ได้ว่า พรรคเพื่อไทยมีวินัยการเงิน การคลัง ตั้งแต่ที่ประเทศ

เมื่อถามว่าร้านค้าต่างๆ อาจจะไม่อยากมาลงทะเบียนเพราะกลัวเรื่องภาษี นพ.พรหมมินทร์ กล่าวว่านโยบายนี้ไม่ต่างจากโครงการคนละครึ่ง ที่ต้องมาลงทะเบียนเพียงแต่เพียงแต่เงื่อนไข คือไม่จำเป็นต้องเป็นเงินสด และเงื่อนไขยังผูกพันว่าจะต้องจัดเก็บภาษี เราสามารถเก็บคืนภาษีได้ในรูปแบบของ Vat ด้วยเทคโนโลยี blockchain
เมื่อถามว่า ระหว่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับ นโยบายเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล ประชาชนจะต้องเลือกหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ไม่ได้พูดว่าประชาชนจะต้องเลือกระหว่างสองนโยบายนี้ ประชาชนจะยังมีบัญชีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับ นโยบายเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล ยืนยันเราไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ เราจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น มีรายได้ดีขึ้นจนหลุดออกจากเกณฑ์ใช้บัตรคนจน

นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลตั้งเป้าว่าจีดีพีจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% ส่วนที่มีการมองว่านโยบายนี้ทำให้ประชาชนถูกมองว่าเป็น ส่วนตัวไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก เป้าหมายของ พรรคเพื่อไทยคือช่วยให้ประชาชนพ้นจากหลุมดำความยากจน หากกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นวิธีการจุดสตาร์ทให้ประชาชน ลุกขึ้นเดินได้อีกครั้ง ถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้มองว่าประชาชนเป็นยาจก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]

ดีเปรสชันทะเลจีนใต้ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ”

กรุงเทพฯ​ 23 ส.ค.​ – กรม​อุตุฯ ​เผยเช้า​นี้​ “ดีเปรสชัน” ทะเลจีนใต้ตอ​นบน ​ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ” แล้ว​ คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วง 25–26 ส.ค.นี้ ส่งผลกระทบไทยตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน​ “คาจิกิ” มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณ​วันที่​ 25​ -​26​ สิงหาคม​ ก่อนเข้าสู่สปปลาวและภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​ หลังจาก​ขึ้นฝั่ง​ที่​เวียดนาม​ คาดว่า​พายุ​โซน​ร้อน​จะอ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ภาคตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​จะเป็​นหย่อม​ความกดอากาศ​ต่ำ​ แต่ยังคงส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ โดยเส้นทางพายุใกล้เคียงกับพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24–27 สิงหาคม 2568 โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ครอบคลุมหลายภาค ได้แก่​ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน​ ภาคเหนือ​ ภาคกลางภาคตะวันออก​ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ คาดว่า​ […]