โตเกียว 18 เม.ย.- นายจอร์จ กลาสส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นคนใหม่ย้ำว่า สหรัฐและญี่ปุ่นจำเป็นต้องปรับกองกำลังกลาโหมของแต่ละประเทศให้อยู่ในแนวทางเดียวกัน ในยามที่จีนมีท่าทีที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น นายกลาสส์ ซึ่งเกิดในปี 2503 ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นคนที่ 32 โดยเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำโปรตุเกสระหว่างปี 2560-2564 ในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวหรือท่าอากาศยานฮาเนดะในวันนี้ว่า รองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์กล่าวขณะทำพิธีสาบานตนให้เขาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาและภรรยากำลังจะไปรับหน้าที่ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของสหรัฐ ในภูมิภาคที่มีความสำคัญมากที่สุดในโลก และในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด นายกลาสส์กล่าวว่า สหรัฐอยู่เคียงข้างญี่ปุ่นซึ่งอยู่ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่แข็งกร้าวอย่างยิ่ง ทั้งรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ ทั้ง 2 ประเทศจึงต้องทำงานร่วมกันในการปรับกองกำลังกลาโหมให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และจำเป็นต้องผลักดันประเทศอย่างจีนให้ถอยกลับไป เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของพลเรือนอเมริกันและญี่ปุ่น และเรื่องการสร้างหลักประกันว่ากองทัพมีสิ่งสนับสนุนทุกอย่างในการรับมือกับภัยคุกคามจากจีน นายกลาสส์เคยกล่าวในการซักถามเพื่อรับรองการดำรงตำแหน่งโดยวุฒิสภาสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคมว่า เขาจะกดดันให้ญี่ปุ่นออกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นให้แก่กำลังพลสหรัฐที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกำลังพลในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้รวมเรื่องนี้ไว้ในการเจรจาการค้าเรื่องภาษีกับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นต้องการให้แยกประเด็นนี้ออกจากเรื่องการค้า.-814.สำนักข่าวไทย