รทสช.เตรียมปราศรัยใหญ่ 2 เม.ย.นี้ พร้อมลงมือทำทุกนโยบายที่หาเสียงไว้

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – พรรครวมไทยสร้างชาติเตรียมปราศรัยใหญ่ 2 เม.ย.นี้ ขอเป็นรัฐบาล ยึดหลัก “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” พร้อมลงมือทำทุกนโยบายที่หาเสียงไว้


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในวันที่ 2 เมษายนนี้ จะมีการปราศรัยใหญ่ของพรรค หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภา มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา ส่วนจะเป็นวันไหนขอให้รอการประกาศตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แจ้งไว้

อย่างไรก็ตาม มองว่าหลังการยุบสภาฯ บรรยากาศการเลือกตั้งจะยิ่งคึกคักมากยิ่งขึ้น พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่ เพื่อส่งต่อนโยบายของพรรคทั้งหมดให้เข้าถึงประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำแล้วว่าการเลือกตั้งเป็นการกำหนดอนาคตประเทศ สุดแล้วแต่ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติมั่นใจว่า ตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำนโยบายที่มุ่งประโยชน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมจะสานงานต่อเพื่อให้ดียิ่งขึ้น “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ทั้งนโยบายบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาท เพิ่มเติมความช่วยเหลือในส่วนที่จำเป็นให้เพียงพอต่อการยังชีพ แก้กฎหมายที่ดิน เพื่อสร้างที่อยู่ที่ทำกินให้พี่น้องประชาชน ลดต้นทุนเกษตรกรรายย่อย ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เหลือกินเหลือใช้ คืนเงินสะสมชราภาพบางส่วน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระคนทำงาน และยังมีนโยบายอื่นๆ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะประกาศและอธิบายให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในวันปราศรัยใหญ่ของพรรค เพื่อสร้างความชัดเจน และตอกย้ำถึงความพร้อมในการลงมือทำ หากพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นรัฐบาล


นายธนกรยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต พร้อมประกาศแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาหนี้สิน ล้างรัฐธรรมนูญสืบทอดการรัฐประหาร สางปัญหาสะสม 8 ปี ให้เบาบางว่า ทิศทางประเทศได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว การที่พรรคเพื่อไทยหวังสร้างปาฏิหาริย์ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เพื่อเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวครองเสียงข้างมากในสภาฯ เป็นครั้งที่ 3 คงไม่เกิดขึ้น เพราะแต้มบุญหมดแล้ว เหลือแต่การชดใช้กรรมที่ทำทิ้งไว้กับประเทศชาติ การขอโอกาสเข้ามาบริหารประเทศเพื่อสะสางปัญหา 8 ปี ให้เบาบาง ต้องบอกว่าปัญหาเบาบางลงไปแล้ว หลังจากที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหารพลิกฟื้นประเทศให้หลุดพ้นชะตากรรมจากเศษซากที่อดีตรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทิ้งไว้ ตอนนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเรียกขวัญและกำลังใจสมาชิกพรรคและแฟนคลับ โดยพยายามดึงทั้งอดีตรัฐมนตรี ส.ส. และนักธุรกิจ เข้ามาเพื่อเพิ่มความหวังลมๆ แล้งๆ ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งทุกคนรู้ทันหมดแล้ว และไม่มีใครอยากหวนคืนอดีตที่ทำให้ประเทศบอบช้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง