ผบ.ตร.ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ทำเนียบรัฐบาล 14 มี.ค.- ผบ.ตร.พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่ายจนท.ตร.-ป้าราชบุรีที่ต้านนายกฯ ลงพื้นที่ราชบุรีเมื่อวาน ระบุแจ้งความดำเนินคดีตำรวจได้ ทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการกระทำของตัวเอง เตือนใกล้เลือกตั้ง ให้ไปใช้สิทธิเลือกคนที่ชอบ ไม่อยากให้ด่าทอกัน

พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกลุ่มผู้เห็นต่างปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่ที่จังหวัดราชบุรี วานนี้(13 มี.ค.) ว่า เป็นภาพที่ออกมาไม่ดี อยากให้เน้นการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน รักใครชอบใครให้ไปใช้สิทธิ์เลือกคนนั้น

เมื่อถามว่าภาพที่เกิดขึ้นตำรวจทำหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่  ขอตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนเพราะภาพที่เห็นเป็นเพียงส่วนเดียว จะต้องมีภาพตั้งแต่ต้นว่าทำอะไรไปก่อนหน้านั้นหรือไม่

ส่วนกรณีบ่ายวันนี้ผู้เสียหายจะไปร้องที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ทุกคนต้องรับผลการกระทำของตัวเองด้วย ช่วงนี้ใกล้ช่วงเลือกตั้ง อย่าใช้การด่าทอกัน ไม่อยากให้มีพฤติกรรมการเลียนแบบ

เมื่อถามว่ามีแผนป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะนี้หรือไม่ บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเจ้าหน้าที่ก็พยายามป้องกันการประทะกันทั้งฝ่ายเชียร์และฝ่ายเห็นต่าง เพราะจะทำให้เกิดปัญหา ตำรวจพยามจะทำให้เกิดความเรียบร้อยให้ได้

เมื่อถามย้ำว่าตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายใช่หรือไม่ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ความเห็นต่างมีได้ แต่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง การด่าทอด้วยคำไม่สุภาพไม่อยากให้เกิดขึ้น

“ตำรวจโดนด่าระหว่างปฎิบัติหน้าที่ มันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะถือว่าดูหมิ่นเจ้าพนักงาน นายกฯ ปฎิบัติหน้าที่ก็เกรงว่าอาจจะเข้าข่ายนี้ได้ เพราะนายกฯ ไปทำงานในหน้าที่ ถ้าเข้าข่ายนี้ก็ไม่ดี เพราะผิดกฎหมาย จึงอยากจะฝากตำรวจ หากตำรวจ ในฐานะเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ ออกคำสั่งให้ท่านทำอะไร แล้วท่านไม่ทำ ก็จะเข้าข่ายขัดคำสั่ง หากตำรวจไปจับกุมแล้วท่านขัดขวางการจับกุมต่อสู้ ก็จะเข้าข่ายต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ซึ่งก็จะมีข้อกฎหมายต่าง ๆ จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย”ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย