จ.ราชบุรี 13 มี.ค.66-นายกฯ บอกทำงานมา 8 ปี มีทั้งข้าราชการ –ครม.เป็นทีมงานสำคัญ ลั่นไม่เคยสั่งอะไรโง่ ๆ ไม่เคยทุจริต ถามพวก 3 นิ้ว อีก 2 นิ้วหายไปไหน ป่วยหรือไม่ ให้ไปหาหมอ ฝากผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่าให้เป็นแบบนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางจากวัดหุบกระทิงมาที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ตำบลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยพบปะประชาชนกว่าพันคน พร้อมกล่าวทักทายว่า สวัสดี มาตั้งแต่เช้าแล้ว ไปหลายที่ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัด ขอพรให้ชาวราชบุรี และมาด้วยความห่วงใย การมาวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเยี่ยมเยือน ดูความเรียบร้อยในจังหวัดราชบุรี ซึ่งประทับใจในความสะอาดเรียบร้อยทั้งทางบก ทางน้ำ
“ส่วนเรื่องของ PM 2.5 การเผาขยะ ต้องหาที่ทิ้งให้ดี และวันข้างหน้าจะหาวิธีการใช้ขยะให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ทำ ทำแล้ว โดยการนำมาเป็นพลังงานไฟฟ้าพลาสติกก็มีการรีไซเคิล พลาสติกอันตรายหลายร้อยปีไม่สลาย อยู่ในดิน ผมฝากด้วยเรื่องขยะที่เป็นพลาสติกทุกชนิด ฉะนั้นต้องกำจัดให้ได้ วันนี้มาฟังความเดือดร้อนฟังตั้งแต่เช้า มีน้ำมากไปก็น้ำท่วม สิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องพยายามแก้ไข ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลทำไปเยอะมากพอสมควร แต่ละพื้นที่ที่มีความแตกต่างกัน รัฐบาลอยู่มา 4 ปีหลายคนคงเห็นบ้างว่าอะไรเกิดขึ้นมาแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตัดสินใจคือการทำโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการขนส่ง ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่จะให้ทั้งหมดไม่ได้เราไม่มีงบประมาณพอ แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าสวัสดิการ เพราะมันผิดหลักการข้อกฎหมาย แต่ถ้าถามใจนายกฯ อยากให้ทุกคนอยู่ดี กินดีแต่วันนี้ต้องแข็งแรงกว่าเดิม ประเทศไทยเดินผ่านความยากลำบากมา 8 ปีเต็ม เจอทั้งโควิด-19 สงครามทางการค้าและการสงครามที่หนักสุดคือราคาพลังงาน แก๊ส และน้ำมัน ซึ่งหลายอย่างถ้าทำได้ ทำไมจะไม่ทำให้ ตนไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ใคร แต่วันนี้ต้องสงวนงบประมาณที่มีอย่างจำกัด เพื่อรองรับ เพราะไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น
“วันนี้หลายประเทศชื่นชมไทย สถานการณ์เงินเฟ้อ สถานการณ์การเงินการคลังของเรายังมั่นคง ต่างชาติยอมรับ ขอฝากใครพอจะมีความรู้ก็ขอให้ศึกษา เขาบอกว่าลุงไม่รู้เรื่อง แต่อยู่มาตั้ง 8 ปี จะโง่ไม่รู้เรื่องเหรอ ลุงไม่ได้โง่เกินไปนักหรอก คณะรัฐมนตรี มี 36 คน 20 กว่ากระทรวง ข้าราชการกี่หมื่น กี่แสนคน คณะทำงานร้อยกว่าคณะ แต่ละเรื่องไม่ใช่นายกฯ สั่งโง่ ๆ เขามีคณะทำงาน การแสดงความคิดเห็นอะไรไปก็ต้องฟัง ถ้าพูดไม่เข้าท่า เขาก็ด่าเอา ไม่ใช่เป็นนายกฯ แล้วจะสั่งได้หมด แต่ต้องสั่งในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นธรรมไม่ทุจริต เข้าใจคำว่าทุจริตไหม บางคนไม่เข้าใจหรอก ทุจริตคืออะไรไม่รู้ โกงเวลาราชการก็ถือว่าทุจริตแล้ว ไม่มาทำงาน นอนอยู่บ้าน ไม่ได้ป่วย แต่ขี้เกียจมา นี่ก็เบียดบังเขา ไม่ได้เข้าคิว แซงคิว เขาก็เรียกว่าโกงเวลาคนอื่น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ขอมารัฐบาลพยายามดูให้ อยากให้คนไทยมีสุขภาพดี แผนการดูแลโรงพยาบาลมีอยู่แล้ว โดยวางงบประมาณในระยะเวลา 3 ปีตั้งแต่ปี 2566-2568 ตอนนี้อยู่ในระยะเวลาของการจัดทำงบประมาณปี 2566 ถ้าใช้ปีเดียวล้มไปไม่ต้องพูดกัน สถานะทางการเงินประเทศไทยยังแข็งแกร่ง ต่างประเทศธนาคารล้ม เรามีล้มไหม ไม่มีล้ม ของเราแข็งแกร่งมกระทรวงคลังดูแลดี มีเพียงเรื่องเดียวจะทำอย่างไร พวกเราจะเข้าถึงแหล่งเงินให้ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อนำมาประกอบอาชีพและแก้ไขปัญหาหนี้สิน หนี้ครัวเรือน รัฐบาลต้องทำและเพิ่มรายได้ในสิ่งที่มีอยู่แล้วจากเดิม
“ใครมีที่ดินให้ปลูกต้นไม้ไว้ให้ลูกหลาน เพราะรัฐบาลสนับสนุนต้นไม้ 58 ชนิด วันหน้าขออนุญาตเพื่อขาย หรือเป็นมรดกลูกหลาน ซึ่งจะมีมูลค่าเป็นแสนเป็นล้านบาท เพื่อนำไปค้ำประกันธนาคารได้ คือสิ่งที่รัฐบาลคิดไว้ให้ รวมถึงป่าชุมชน คนอยู่ร่วมกับป่า ขอให้ฟังไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ในโลกนี้ ถ้าง่ายมันต้องมีอะไรที่ไม่ถูกสักอย่าง เหมือนกับในโซเชียล ลงทุน 1,000 บาทได้คืน 60,000 บาทมีที่ไหน ผมอยากจะรู้ นอกจากนี้ โทรศัพท์ถ้าไม่รู้จักเบอร์ อย่าไปรับ เพราะนายกฯ ไม่ได้เป็นคนรับโทรศัพท์แทนทุกคน แต่มีระบบคัดกรอง แต่ก่อนไม่ได้ยุ่งขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนี้โลกเจริญ คนขี้โกงเยอะด้วยการใช้โทรศัพท์ วันนี้มีกฎหมายสำคัญจำนวนมาก ถ้าเจอต้องแจ้ง อย่ารับโทรศัพท์ที่ไม่รู้จักเบอร์ จำคำพูดผมไว้ ถ้าไอ้บ้าไหนโทรมา ไม่มีชื่อ อย่ารับจำไว้ จะได้ไม่ถูกเขาโกง ถ้าจะเป็นตำรวจ หรือทหารโทรมาให้จดชื่อไว้ ไม่มีทั้งนั้น ผมเป็นห่วง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัมนตรี กล่าวว่า วันนี้เรากำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งตนไม่อยากเรียกว่าสูงวัย อยากเรียกว่าสสว. ซึ่งเรียกว่าสวยสมวัย ตั้งสังคมสวยสมวัย ซึ่งรัฐบาลกำลังคิด เพื่อให้สามารถดูแลได้ดี ถ้าทำได้ก็จะทำ ถ้าไม่ให้ทำก็ไปหาคนอื่นททำ
“ไม่รู้จะพูดอะไร พูดมากเดี๋ยวก็โดนด่าอีก ในนี้รับรองไม่มีใครด่าผมแน่นอน ข้างนอกไม่แน่หรอก เมื่อกี้ยังมีข้างนอก ไม่รู้เป็นอะไร มือมี 3 นิ้ว มันหายไปไหน 2 นิ้ว ไม่รู้เหมือนกัน นี่ต้องไปดูสุขภาพ ฝากหมอดูด้วยว่าอีก 2 นิ้วเป็นอะไร แต่ผมไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก แต่ขอให้ดูด้วยแล้วกันว่าต้องมีปัญหาอาการอะไรสักอย่าง ผมโกรธเขาไม่ได้หรอกเขาคือคนไทย แต่เขาคิดอะไรผมไม่รู้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพูดถึงเรื่องการทำงานของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันไม่มีความสุขนักหรอกที่ยืนตรงนี้ แต่ต้องทำ มันเป็นหน้าที่ ฉะนั้นใครจะทำก็เสนอมาให้ฟัง เป็นไปได้หรือไม่ ต้องพูดให้ได้ อย่างที่เราพูดจะเอาเงินมาจากที่ไหน ถ้าให้ทุกอย่างหมด แต่ถามว่าที่เหลือเจ๊งไหม เข้าใจนะจ๊ะ
“ยิ่งพูดมาก เดี๋ยวยิ่งเป็นเรื่อง ขอโทษ ถ้าพูดอะไรตรง ๆ ไปหน่อย เราก็เป็นคนแบบนี้ อยู่มาอายุจะ 70 ปีแล้วดูหน้าแก่ขนาดนี้ อยู่ตั้งแต่คนบอกหนุ่มฟ้อ แป๊บเดียวแก่แล้ว เขาบอกมีความสุขเหลือเกิน ก็ไม่เข้าใจ แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทั้งประเทศ ภายใต้แกนหลักของประเทศไทยคือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้นายกฯ ได้ยกมือสามนิ้ว พร้อมกล่าวด้วยว่า “ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันเหลืออย่างนี้ ฝากผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่าให้เป็นอย่างนี้ ตอนนี้มีใครไม่สบายไหม แต่น่าจะแข็งแรงกันดี ที่นั่งกันอยู่ตรงนี้” จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินพบปะประชาชนพร้อมกับกล่าวว่า เวลาโมโหใคร ไม่ชอบใครให้นึกถึงหน้านายกฯ ไว้.-สำนักข่าวไทย