คะแนนนิยม “พล.อ.ประยุทธ์” อย่างเดียวไม่พอ

นิด้า 7 มี.ค.-“ผอ.นิด้าโพล” ชี้รทสช.ต้องปรับกลยุทธ์ ดึงคะแนนนิยมพรรคให้ได้ม่กขึ้น แม้ชาวสงขลาจะอยากได้ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ  ด้าน “อ.วรรณธรรม” มั่นใจไม่มีพรรคไหนชนะแลนด์สไลด์สงขลา แม้ปชป.ยังครองใจ ขณะที่ “อ.พิชาย” มอง กลุ่มคนรุ่นใหม่แบ่งใจให้ “เพื่อไทย-ก้าวไกล”


นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “คนสงขลาเลือกพรรคไหน” พบว่าคนสงขลาสนับสนุนให้เป็น พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สูงสุด 26% แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่คนสงขลาจะลงคะแนนเลือก ส.ส.เขตมากที่สุด 23.46% ว่า จากผลสำรวจที่เคยทำไม่ว่าพรรคที่ชอบหรือคนที่ใช่ในจังหวัดภาคใต้จะพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้รับความนิยมหนาแน่นมากในภาคใต้ เรียกว่านำที่หนึ่งมาโดยตลอด

“แต่ถ้าไปดูคะแนนของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือก่อนหน้านี้ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐมีคะแนนสูสีกัน แต่พอพล.อ.ประยุทธ์มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติคนยังเกิดความสับสนว่าอยู่พรรคไหนกันแน่ แต่ก็มีส่วนหนึ่งยังคงชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์ และจากสัดส่วนมีความเป็นไปได้ที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีคะแนนนิยมของพรรคในพื้นที่ขึ้นมาใกล้เคียงกับพรรคประชาธิปปัตย์ ซึ่งจากผลโพล ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ในจังหวัดสงขลามี 26% แต่พรรครวมไทยสร้างชาติมีคะแนน 15.91% จึงยังมีความต่างกัน ซึ่งหากสามารถเพิ่มความนิยมของพรรครวมไทยสร้างชาติให้ขึ้นมาอยู่ที่ 23 ถึง 24% จะสามารถชนะพรรคประชาธิปัตย์ได้ทันที ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าระยะเวลาในการเลือกตั้งมีไม่มากในช่วงสองเดือน หากรวมไทยสร้างชาติไล่ไม่ทันพรรคประชาธิปัตย์ก็จะกวาดคะแนนขึ้นมาทั้งหมด แม้จะมีพรรคอื่นแซงขึ้นมาได้บ้างในบางเขต” นายสุวิชา กล่าว


เมื่อถามความเป็นไปได้ถึงการเจาะพื้นที่จังหวัดสงขลาและภาคใต้ของพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะมีอดีตขุนพลของพรรคประชาธิปัตย์สังกัดจำนวนมากจะมีความยากง่ายเพียงใด นายสุวิชา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติมีฐานเสียงเดียวกัน การเลือกตั้งปี 2562 มีพรรคพลังประชารัฐมาร่วมแชร์คะแนน ดังนั้น การที่มีพรรครวมไทยสร้างชาติเกิดขึ้นมาใหม่จึงเปรียบเสมือนการแย่งปลาในบ่อเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่ารอบนี้ใครจะตักปลาขึ้นมาได้มากกว่ากัน ซึ่งตนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบมากกว่า เพราะฐานเก่าฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติต้องใช้กลยุทธ์เพื่อหาทางไล่คะแนนขึ้นมาให้ทัน

ส่วนการประกาศว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัย ในฐานะพรรครวมไทยสร้างชาติที่จังหวัดสงขลาวันที่ 11 มีนาคมนี้ ถือเป็นการช่วงชิงจังหวะที่คะแนนนิยมจะช่วยดันคะแนนของพรรคได้หรือไม่ นายสุวิชา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะดันคะแนนขึ้นมาได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์คงต้องอ้อนประชาชนให้มากที่สุดว่าอยากได้พล.อ.ประยุทธ์ต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะจากคะแนนผลสำรวจพบว่าคนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ใน 4 อยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี และ1ใน 3 ของคนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐอยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ 1ใน 2 ของคนที่ยังไม่ตัดสินใจก็อยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีรวมแล้วอยู่ที่ 8% ถ้าสามารถดึง 8% นี้ได้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะปักเก้าอี้ในจังหวัดสงขลาได้จำนวนมาก ส่วนพรรคการเมืองอื่นที่คาดว่าจะแทรกเข้ามาในพื้นที่สงขลาได้ คาดว่าภูมิใจไทยจะได้ 1 ที่นั่ง

ด้านนายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดสงขลา จะมีพรรคการเมืองใดเจาะพื้นที่ได้บ้างนั้น จากผลสำรวจพบว่าไม่มีพรรคการเมืองใดจะแลนด์สไลด์ในพื้นที่สงขลาได้ ซึ่งคะแนนสามารถพลิกได้ตลอดเวลา อีกครั้งจากผลสำรวจที่น่าสนใจคือ ประชาชนยังต้องการส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ แต่อยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังมีความย้อนแย้งกัน จึงต้องมาดูว่าในการเลือกตั้งพล.อ.ประยุทธ์จะมีคะแนนจริงหรือไม่ เพราะโพลครั้งนี้เป็นเพียงความคาดหวัง แต่ยังไม่เห็นคะแนนชัดเจน และจากโพลพรรครวมไทยสร้างชาติยังอยู่อันดับ 3


“การที่เรามองว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ที่พรรคก้าวไกล พรรคไทยภักดีอย่างเดียว แต่คนรุ่นใหม่ยังเกิดในพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ได้เช่นกัน ซึ่งต้องไปดูฝีมือและกลยุทธ์การแข่งขันของแต่ละพรรคการเมือง อีกจุดที่พลาดไม่ได้คือคนที่เข้าไปทำพื้นที่คือพรรคภูมิใจไทยที่ได้พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตหัวหน้าทีมภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมงาน และช่วยพลังประชารัฐเจาะพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ได้มาแล้ว ดังนั้นรอบนี้ต้องจับตาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรักษาเก้าอี้หรือจะทำให้ครบทั้ง 9 เขตได้หรือไม่ เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติที่ชูพล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับความนิยม แต่ยังไม่เห็นคะแนนจริง และพรรคภูมิใจไทย ก้าวไกลหรือพลังประชารัฐก็น่าจับตา” นายวรรณธรรม กล่าว

ส่วนชั่วโมงนี้คนในพื้นที่จ.สงขลาให้ความนิยมกับตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองมากกว่ากัน นายวรรณธร กล่าวว่า คนในพื้นที่มีความชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ แม้ยังไม่รู้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะส่งใครเป็นผู้สมัคร และสิ่งที่น่าสนใจคือหากคนสงขลา เลือกตามผลโพลนี้ แต่ไม่ได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในความเป็นจริงต้องไปดูว่าพรรคการเมืองใดที่มีคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง ต้องส่งบุคคลนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี  อยู่ที่การตกลงทางการเมือง หรือจตามใจตามผลโพลคือต้องให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่แปลกที่วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และเพิ่มดีกรีความเข้มข้นในจังหวัดสงขลา เปรียบเสมือนการวัดศักดิ์ศรีและ การรักษาอำนาจฐานเดียวกัน

เมื่อถามว่าการขึ้นป้ายหาเสียงที่มีรูปคู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะช่วยเพิ่มคะแนนเสียงได้หรือไม่ นายวรรณธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความนิยมในพื้นที่ หากจำได้ในอดีตเคยมีวลีที่ว่า ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ติดภาพนายชวน หลีกภัย  อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้คะแนนเสียงแล้ว ดังนั้น ต้องดูว่าครั้งนี้จะศักดิ์สิทธิ์เหมือนนายชวนหรือไม่ สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ถือว่ามีความท้าทาย เพราะปัจจุบันคนเรียนรู้มากขึ้น คงไม่ใช่เฉพาะเสาไฟฟ้า เพราะต้องดูสายไฟด้วย ดูองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน

ขณะที่นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดสงขลามองข้ามพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งผลสำรวจพบว่าในเขตอำเภอเมืองและเขตหาดใหญ่ 2 พรรคนี้มีความนิยมสูง อีกทั้งคะแนนสูสีกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่ง2 เขตนี้น่าจะแข่งขันเข้มข้นมากและเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล หากใช้กลยุทธ์ที่ดี อาจประสบชัยชนะได้ สำหรับเงื่อนไขที่สำคัญคือสองเขตนี้เป็นพื้นที่ที่พัฒนาเศรษฐกิจสูงและยังมีมหาวิทยาลัย ดังนั้น จังหวัดสงขลาต้องไม่ประมาทพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล

นายพิชาย กล่าวว่า ช่วง 10 ปีมานี้พัฒนาการทางเศรษฐกิจและการศึกษามีมากขึ้น ดังนั้น มีคนที่คิดอยากจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นช่วงอายุ 18 ถึง 35 ปี จากผลสำรวจพบว่าคนในช่วงวัยนี้จะเลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่หากไปดูสัดส่วนจำนวนประชากรจะพบว่าคนในช่วงอายุ 18 ถึง 35 ปี ยังมีไม่มากแต่หากอยู่ในเขตเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในพื้นที่ใต้ จากการสำรวจของนิด้าโพล เมื่อตุลาคม 2565 พบว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีคะแนนในจังหวัดสงขลา 8% แต่จากการสำรวจครั้งนี้เพิ่มขึ้นมา 18% นี่คือการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับคะแนนของพรรคเพื่อไทยที่ขยับขึ้นเป็น20% จึงเป็นสิ่งที่ใครๆก็ประมาทไม่ได้ ดังนั้น จะบอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงแล้วนอนมา ก็แพ้ได้เหมือนกัน ถ้าประมาท ส่วนนโยบายจะมีส่วนช่วยเปลี่ยนใจประชาชนภายหลังหรือไม่

นายพิชาย กล่าวว่า คงมีส่วน โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นส่วนตัดสินใจของกลุ่มคนทำธุรกิจและคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าเป็นสัดส่วนกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความชื่นชอบกับนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะยึดติดกับพรรคที่คิดนโยบาย และพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนช่วงวัยกลางคนอายุตั้งแต่ 36 ปีไปจนถึง50ปีจะนิยมและเลือกพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 35 ปีจะเลือกพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]