ไทย-สวิสขยายความร่วมมือการค้า-สิ่งแวดล้อม

ทำเนียบรัฐบาล 1 มี.ค.-นายกฯ หารือทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ย้ำเดินหน้าขยายสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือ โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน และสิ่งแวดล้อม


นายเปโดร สวาห์เลน(H.E. Mr. Pedro Zwahlen) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิส ที่ทั้งสองฝ่ายได้ฉลองโอกาสครบรอบ 90 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ไปเมื่อปี 2564 พร้อมยินดีที่ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันทุกระดับมาโดยตลอด แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมยืนยันกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับประชาชนทั้งสองประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยินดีที่สมาพันธรัฐสวิสเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในยุโรป และมีบริษัทชั้นนำกว่า 150 บริษัท เข้ามาลงทุนในไทย และยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน พร้อมเชิญชวนเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และคาดหวังความสำเร็จใสการฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) มาโดยตลอด


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมดำเนินโครงการรถขนส่งมวลชนไฟฟ้าในประเทศไทย (e-bus) ซึ่งจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาและถ่ายทอดทางเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน ที่มุ่งสู่การขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สะท้อนความร่วมมือด้านถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศคู่แรกของโลกภายใต้ความตกลงปารีส

นายกรัฐมนตรี หยิบยกประเด็นที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Expo 2028 – Phuket, Thailand ภายใต้หัวข้อ “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity” มุ่งนำเสนอแนวทางการจัดการปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยขอให้สมาพันธรัฐสวิสพิจารณาให้การสนับสนุนด้วย

ด้านเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ชื่นชมบทบาทนายกรัฐมนตรีในการบริหารจัดการการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี และเป็นเวทีที่สามารถผลักดันโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้เป็นเป้าหมายสำคัญที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจร่วมกันรับรอง และชื่นชมความสัมพันธ์สองประเทศที่มีความใกล้ชิดกันในทุกระดับ และพร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นในทุกมิติ.-สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว