พล.อ.ประยุทธ์ เข้าพรรค รทสช.ครั้งแรก

รวมไทยสร้างชาติ 27 ก.พ.-พล.อ.ประยุทธ์ เข้าพรรค รทสช.ครั้งแรก สวมเสื้อให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หวังทุกคนประสบความสำเร็จ ลั่นขอเป็นพรรคอันดับ 1 ใน 500 เสียง ยืนยันไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า วันนี้ เวลา 17.19 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางมาให้การต้อนรับอดีต ส.ส. ที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมสวมเสื้อทีมรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันแรกที่นายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมและเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นครั้งแรก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามว่า มาพรรคครั้งแรกตื่นเต้นหรือไม่ ว่า เลิกตื่นเต้นนานแล้ว ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นไปหารือ กับแกนนำพรรค ที่ชั้น 2 ของที่ทำการพรรค


จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงมาชั้นล่าง โดยนายเอกนัฎ กล่าวต้อนรับว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางมาพรรคเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ และเป็นวันดี อีกทั้งพรรคเคยประกาศไปแล้วว่า จะส่งผู้สมัครครบ 400 เขต และสามารถจัดตั้งสาขาพรรคครบพรรคแรก โดยมีสโลแกนการเลือกตั้งว่า ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ และในช่วงปิดสมัยประชุม จะมีส.ส. ย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติอีก โดยในวันที่ 1 มี.ค. พรรคจะถือฤกษ์ทำบุญตั้งแต่ 06.00 น. และจะมีอดีต ส.ส. จำนวนมากสมัครเข้าเป็นสมาชิก

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมเสื้อพรรคให้กับกลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง ที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง นำทีมมาประกอบด้วย 1.พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี 2.นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 3.นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี 4.นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี 5.นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง 6.น.ส.ไพรินทร์ เทียนสุวรรณ ส.ส. สมุทรปราการ 7.นายสมบัติ อำนาคะ ส.ส. สระบุรี 8.นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม 9.นายอรัญชัย ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี และ 10.นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร


ต่อมาเป็นกลุ่มส.ส.ภาคใต้ ที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง นำทีมมา ประกอบด้วย 11.นายสายัณต์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช 12.นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา 13.นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา และ 14.ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังสวมเสื้อพรรคให้นายสุชาติ นายธนกร นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองด้วย และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เข้าร่วมสมาชิกพรรคก่อนหน้านี้

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่มากันอย่างพร้อมเพียง เราได้ให้คำมั่นสัญญาไว้แล้วจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อประเทศชาติของเรา ประชาชนของเรา ทำให้บ้านเมืองไปข้างหน้านั่นคือคำมั่นสัญญาของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีของพวกเราทุกคน ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณหัวหน้าพรรคและเลขาพรรคที่ไว้วางใจให้ตนมาอยู่ตรงนี้ และเป็นวันแรกที่มายืนตรงนี้ได้ทำ สิ่งที่เรียกว่า สัญลักษณ์สวมเสื้อให้กับรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทุกคนแสดงเห็นถึงความเชื่อมั่นไว้วางใจ ซึ่งกันและกัน การทำงานร่วมกันต่อไปนี้ ในการเลือกตั้งคาดหวังให้ทุกคนประสบความสำเร็จ นั่นคือ เป้าหมายพรรคของเรา คือทำให้ทุกอย่างสำเร็จและเดินหน้าไปสู่การทำให้ประเทศไทยของเรามีอนาคตที่ดีงามต่อไป พวกเราเข้าใจตรงกัน ทำแล้ว ทำอยู่และทำต่อ นี่คือหัวใจของเราที่จะทำให้ประชาชนและประเทศชาติของเรามีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนและไม่ใช่งานที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช้งานที่ยากเกินไปสำหรับพรรครวมใจสร้างชาติ ถ้าเราร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนประสบความสุข ความสำเร็จในอนาคตของเราอันใกล้นี้ และขอกำลังใจจากสื่อมวลชน จากพี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้านทั้งที่ได้ชมทางช่องทางใดก็แล้วแต่ ใจถึงใจอยู่แล้วและได้เห็นตนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ใจตนเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เป็นแบบ เดิมทุกอย่างทุกประการเป็นความรัก ความห่วงใยที่ให้กับพวกเราทุกคน สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้คุยกับทุกคนในพรรค หัวหน้าพรรคเราจะต้องร่วมรักสามัคคีให้พรรคเดินไปข้างหน้าให้เป็นพรรคที่มีคุณภาพ ให้เป็นส.ส.ที่ทุกคนมีความเชื่อมั่น ทุกรุ่นที่เราจะเป็นพรรค ที่สร้างอนาคตอีกครั้ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถามเข้ามาว่า นายกฯ ตื่นเต้นหรือไม่ ตนเลิกตื่นเต้นไปนานแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะแยะแล้ว ขอเป็นกำลังใจทุกคน ขอบคุณกองเชียร์ด้วย เราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดขอบคุณสมาชิกทุกคน รักทุกคน เชื่อมั่นทุกคน ให้รัก ให้สามัคคีกัน และคุยกันให้รู้เรื่อง ส่วนที่เรียกตนว่าเป็นประธานอะไรยาวเหยียด วันหลังเรียกประธานอย่างเดียวก็พอ ตำแหน่งยาว เราไม่ต้องสั่ง ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น คุยกันก็รู้เรื่องแล้ว มองตาก็รู้ใจใช่หรือไม่ ทำไมจะต้องสั่งหรือทะเลาะกัน ไม่มี ไม่เคยต้องทะเลาะกัน ทุกอย่างให้ทุกคนคุยกันมีความเข้าใจรู้เรื่องเท่านั้นเอง


เมื่อถามว่า พรรคนี้ตั้งใจจะทำให้เป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ก็สุด แล้วแต่ประชาชนที่เขาจะเลือกพวกเราเข้ามา ตนคิดว่าต้องมองด้วยตาว่าที่ผ่านมา เราทำอะไรไว้บ้าง ถ้าไม่มองตรงนี้ก็ไม่รู้และไม่เข้าใจ แล้วไปคาดหวังอะไรที่อาจจะทำไม่ได้ ตนไม่อยากจะไปก้าวล่วงใคร

“เราเป็นสุภาพบุรุษ พรรคเราต้องเป็นพรรคสุภาพบุรุษ เพราะเราจะทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว เพราะนี่คือประเทศไทยของเราทุกคน ขอบคุณทุกคน”

ส่วนที่มีคนมองว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคเฉพาะกิจ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า จะเป็นพรรคเฉพาะกิจได้อย่างไร ก็จะมีการเลือกตั้ง จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง แต่ตนคิดว่าก็คงต้องได้ส.ส.

“และผมมั่นใจว่าก็จะได้เยอะมากพอสมควรนะ นั่นแหละคือความยั่งยืนของเรา และก็มีคนสืบสานต่อไปอีกเยอะแยะ เพราะตั้งใจกันทุกคนมีอุดมการณ์เดียวกันถึงมารวมกันตรงนี้ได้ เราเป็นพรรคที่สร้างอุดมการณ์เดียวกัน สร้างความรักความสามัคคี เริ่มต้นด้วยความรักความสามัคคี เห็นชอบและพร้อมใจไปด้วยกันมันก็จะยั่งยืนกันไปเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สำหรับการประเมินตัวเลขคาดว่าจะได้จำนวน ส.ส. เท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็มีการประเมินอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องภายในพรรค แต่ก็มีการออกทีวีกันทุกวัน จากพรรคนั้นพรรคนี้จนตนขี้เกียจฟังแล้ว จำนวนส.ส.เกิน 500 คน ไปแล้ววันนี้มีซัก 20,000 คนได้แล้ว จากที่หาเสียงถูกพรรครวมกันเห็นคุยกันจัง แต่เอาแค่ 500 ก็พอ

“เราขอเป็นอันดับ 1 ใน 500 ก็แล้วกัน ขอความรักความเข้าใจ จากประชาชนทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนตนก็ห่วงใยคิดถึงทุกคนเสมอ” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นโยบายที่ออกมาไม่เป็นการไปบลัฟกับใครใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราก็ทำงานของเราไป เราไม่ทะเลาะกับใคร ทำงานในหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ถ่ายภาพหมู่รวมกับว่าที่ผู้สมัครส.ส.และสมาชิกพรรค พร้อมทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ท ไอเลิฟยู และY2K และชูกำปั้นตะโกนสู้ๆ อย่างอารมณ์ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนอดีต ส.ส ส่วนที่เหลือ กว่า 40 คน มีรายงานว่า จะเปิดตัวในวันที่ 1 มี.ค.นี้ พร้อมกับมีพิธีทำบุญพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่ เวลา 06.00 โดย พล.อ ประยุทธ์ จะเข้าร่วมพิธีทำบุญดังกล่าว โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเวลา 08.30 น. ก่อนเวลาราชการ จึงไม่ต้องลาราชการแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย