“ศรีสุวรรณ”ร้อง กกต.สอบ“ไตรรงค์”ปราศรัยเลยเถิด

กกต. 27 ก.พ.- “ศรีสุวรรณ”ร้อง กกต.สอบ“ไตรรงค์”ปราศรัยโคราช เลยเถิดนำสถาบันฯ มาหาเสียงหรือไม่


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วยเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา โดยมีประชาชนทั่วทุกสารทิศเดินทางมารับฟังการปราศรัยของแกนนำพรรค ผู้บริหารพรรค และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหรือว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยในช่วงหนึ่งของการปราศรัยต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัยนับหมื่น และมีการถ่ายทอดทางโชเชียลมีเดียและสื่อมวลชนต่าง ๆ ด้วยนั้น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช. ได้ขึ้นปราศรัยความตอนหนึ่งในช่วงสุดท้ายว่า


“พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ความกตัญญูกตเวที เป็นคุณสมบัติของคนดี พวกเราเป็นคนดีใช่ไหมพี่น้อง เราต้องไม่ลืมบุญคุณบรรพบุรุษใช่ไหม ต้องรักษาประเทศนี้เอาไว้ให้อยู่ให้ดีที่สุดใช่ไหมครับ ร.9 ตรัสเอาไว้ว่า จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ผมเองไม่เล่นแล้วการเมืองแต่ผมมาช่วยบิ๊กตู่ เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนดี ผมดูแล้วหัวหน้าพรรคทั้งหลายเนี่ยไม่มีใครดีเหนือกว่าบิ๊กตู่หรอก ถ้าเราอยากได้รัฐบาลที่ดีตามที่ ร.9 ทรงประสงค์นั้นให้เลือกพรรค…รวมไทยสร้างชาติ”

ซึ่งคำปราศรัยดังกล่าว อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืน ข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง” ประกอบกับ ม.73(5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นด้วยวิธีการจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอีกด้วย

ทั้งนี้ หาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นการฝ่าฝืนจริงก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.159 ของ พรบ.เลือกตั้ง ส.ส.ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปีอีกด้วย


ทั้งนี้เพื่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องต่อ กกต. ให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท