ชทพ.ลุยหาเสียงที่ศรีประจันต์ขอ 5 แสนคะแนน

จ.สุพรรณบุรี 20 ก.พ. – “วราวุธ” ปราศรัย อ.ศรีประจันต์ เดินหน้านโยบาย “ว้าว ไทยแลนด์” ย้ำ “รับฟัง ทำจริง” ด้าน “กัญจนา” ขอ 5 แสนคะแนนให้ ส.ส.ชทพ.เข้าไปทำงานแทนปชช. ขณะ “ประภัตร” ย้อนอดีตเป็นผู้แทนเกือบ 50 ปี สุพรรณฯ พัฒนาต่อได้ต้องชาติไทยพัฒนาเท่านั้น


นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พื้นที่เขตเลือกตั้ง อ.ศรีประจันต์ และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ขึ้นเวทีพบปะประชาชน นักเรียน นักศึกษา กว่า 2,000 คนที่บึงลำควง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยนายวราวุธ กล่าวปราศรัยว่า รู้สึกชื่นใจที่เห็นชาวอ.ศรีประจันต์มอบความรักให้กับคนที่ชื่อว่า นายประภัตร โพธสุธน กับครอบครัวพรรคชาติไทยพัฒนา และครอบครัวศิลปอาชา ต้องบอกว่าตั้งแต่เริ่มแรกสมัยที่ยังเป็นพรรคชาติไทย คนที่ชื่อนายประภัตรอยู่กับพรรคชาติไทยตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปาชา อยู่มานานเกือบ 50 ปี ถึงจะมีคนมาทาบทามก็ไม่เคยคิดจะย้ายไปอยู่พรรคอื่น เพราะความรัก ความผูกพันที่มีให้กับคนสุพรรณบุรีและพรรค จึงอยากให้ประชาชนให้กำลังใจนายประภัตรด้วย

“สิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำงานมาตั้งแต่สมัยนายบรรหารมาถึงรุ่นลูกคือ น.ส.กัญจนาและผม ขออาสาทำงานอยู่ และเราจะเดินทางต่อไปด้วยกัน แม้ว่าจะมีคนพูดว่าตั้งแต่นายบรรหารจากไป จังหวัดสุพรรณบุรีและพรรคชาติไทยพัฒนาจะแตก แต่วันนี้เข้าสู่ปี 2566 พรรคชาติไทยพัฒนาและสุพรรณบุรียังแข็งแรงอยู่  เรากำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง เราจะพิสูจน์ให้คนทั้งประเทศเห็นว่า รัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งนายประภัตรและผม เราเป็นรัฐมนตรีที่โตที่สุดในรัฐบาลชุดนี้” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว


นายวราวุธ กล่าวว่า การทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มองแค่ระยะสั้น แต่มองไปถึงอนาคตของลูกหลานอีก 20 – 30 ปีข้างหน้า การทำนโยบายของพรรคจึงเป็นการลงไปรับฟังปัญหาจากทั่วประเทศ และนำมาทำ มาแก้ไขจริง ๆ จึงเป็นที่มาของคำว่า “รับฟัง ทำจริง” ไม่ใช่นั่งเทียนคิดนโยบายโดยไม่ถามใคร ดังนั้น นโยบายที่ออกมาจึงเป็นเรื่องความต่อเนื่อง ความยั่งยืน และคิดถึงอนาคตของคนไทยทุกรุ่น ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่

“หัวใจสำคัญที่สุดของนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา สำหรับกลุ่มพี่น้องเกษตรกรทุก ๆ คนคือจะทำอย่างไรให้มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ทำนาในประเทศไทย 60 ล้านไร่ ทำอย่างไรจะมีพันธุ์ข้าวที่ดี สู้กับพันธุ์ข้าวต่างประเทศที่ราคาแพง 60 ล้านไร่ เราจะแจกพันธุ์ข้าวที่ดีให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ และจะแจกเงินต้นทุนการผลิต 1,000 บาทต่อไร่ รวมถึงขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร หน่วยละ 2 บาท เพื่อลดต้นทุนการใช้น้ำมันสูบน้ำเข้านา” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า อ.ศรีประจันต์ยังขุดเจาะบ่อบาดาล นำทรัพยากรน้ำใต้ดินมาใช้ โดยไม่เสียเงิน และเป็นต้นแบบที่จะขยายระบบบ่อบาดาลขนาดใหญ่ไปทุกตำบล เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา ให้มีน้ำกินน้ำใช้ทั่วประเทศ คือหัวใจของพรรคชาติไทยพัฒนาที่จะดูแลเกษตรกร ดูแลแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค ส่วนเรื่องสุขภาพ สิ่งที่จะทำคือการดูแลไม่ให้ประชาชนเจ็บป่วย ไม่ต้องหาหมอ จึงเสนอนโยบายสุขภาพดี มีเงินคืน 3,000 บาท เพราะการดูแลสุขภาพมีราคาถูกกว่าค่ารักษายามเจ็บไข้ได้ป่วย


“นอกจากพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว ยังไม่เห็นพรรคการเมืองไหนออกมาพูดถึงอนาคตประเทศไทย 30 – 40 ปีข้างหน้าว่าอีก 40 ปี น้ำจะท่วมหนักกว่าเดิมหรือไม่ อย่างปี 2564 จังหวัดสุพรรณบุรีถูกน้ำท่วม 10 อำเภออย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน และวิเคราะห์กันแล้วว่าทุก 10 ปี น้ำจะท่วม ภัยธรรมชาติจะรุนแรงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก สิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาทำ จึงเป็นการคิดถึงการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นอนาคต” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม น้ำท่วม อากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัว และมองว่าในอนาคตการภาคการเกษตรจะต้องปรับเปลี่ยน เป็นการทำนาแบบเปียกสลับแห้งที่มีต้นแบบแล้วที่ อ.ด่านช้างและอ.เดิมบางนางบวช เพื่อช่วยลดการหมักหมม สร้างก๊าซมีเทน ที่เป็นต้นเหตุของโลกร้อน และยังทำให้ชาวนาได้เงินจากการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ไร่ละ 400 – 500 บาทต่อปีด้วย

ด้านน.ส.กัญจนา กล่าวว่า วันนี้มาที่อ.ศรีประจันต์ที่เป็นดินแดนที่น่าชื่นชม เพราะเป็นแผ่นดินเกิดของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.ปยุตฺโต) พระมหาเถระที่เป็นอริยสงฆ์ ที่ตนและครอบครัวเคารพ และยังเป็นบ้านเกิดของคนดีศรีสุพรรณฯ ชื่อว่านายประภัตร โพธสุธน สุพรรณบุรี เป็นแผ่นดินเกิดของศิลปิน กวี มากมาย และที่สำคัญยังเป็นแผ่นดินเกิดของนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ที่ชื่อว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ทำให้จังหวัดสุพรรณบุรี เจริญมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาจะมาสืบสานสิ่งที่นายบรรหารทำไว้ และจะทำให้ดียิ่งขึ้น การเลือกตั้งที่จะมาถึง ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อให้ได้คะแนนมากกว่า 5 แสนคะแนน เพื่อส่งนายวราวุธ และทีมส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชน

“มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีพรรคอื่นมาเสนอตัวแข่งกับเรา กัญจนา อยากจะบอกว่า พรรคอื่นเขามาหาพี่น้อง ลุงป้า น้าอา แค่ช่วงเลือกตั้ง เลือกตั้งเสร็จเขาก็ไป แต่คนที่อยู่ด้วยตลอดเวลาคืออพรรคชาติไทยพัฒนา แล้วจะให้คะแนนกับพรรคอื่นหรือไม่ จะให้คะแนนเสียของทำไม ตั้งแต่สมัยนายบรรหาร จังหวัดสุพรรณบุรีต้องมีส.ส.เขตทุกเขต เป็นพรรคเดียวกัน เพื่อให้การพัฒนาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำงาน เลือกตั้งครั้งนี้อยากขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนายกจังหวัด ครั้งนี้ขออย่าให้เสียของ เหมือนครั้งที่แล้วได้หรือไม่” น.ส.กัญจนา กล่าว 

ส่วนนายประภัตร กล่าวว่า พรรคชาติไทยก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2518 ตนได้เป็นผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปีดังกล่าว ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน อ.ศรีประจันต์ด้วยความจริงใจ ถ้าวันนั้นไม่ผลักดันให้ตนขึ้นมาก็ไม่มีวันนี้ 48 ปีที่นายบรรหารมาพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เปลี่ยนแปลงการคมนาคม การเกษตร การชลประทาน และการท่องเที่ยว ให้เจริญขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าพรรคชาติไทยจนมาถึงพรรคชาติไทยพัฒนา เราทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นความภูมิใจที่ชาวจังหวัดสุพรรณบุรีให้ความรัก ความเมตตากับพรรคมาตลอด 48 ปี ดังนั้นการจะพัฒนาจ.สุพรรณบุรีต่อจากนายบรรหารก็ต้องเป็นพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น

“ผมเกิดที่อ.ศรีประจันต์ เติบโตที่ อ.ศรีประจันต์ เราอยู่กันมา 40 กว่าปี น้ำแห้ง น้ำแล้ง น้ำท่วม น้ำไม่มีกิน ไม่มีทำนา เราได้ทุ่มเทสรรพกำลัง ประสานทุกหน่วยงานเข้าดูแลมาตลอด จึงอยากให้เลือกคนและเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาให้ชนะอย่างถล่มทลาย” นายประภัตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย