อำนาจเจริญ 18 ก.พ. – “แพทองธาร” ขอบคุณ “ส.ว.วันชัย” ช่วยดูดวงจะดีปี 67 ชี้ไม่ใช่ดวง แต่คือข้อเท็จจริง ไม่สนใจวันยุบสภา ขอเดินหน้าหาเสียงสู้ด้วยนโยบาย เตรียมใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์หาเสียงช่วงใกล้คลอด ยันดันปรับเงินเดือนข้าราชการ 25,000 บาท ในปี 2570
ที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) บอกดวงของ น.ส.แพทองธาร จะดีกลางปี 2567 หลัง ส.ว.หมดวาระ ว่า ส.ว.ดูดวง เขาดูดวง ขอบคุณค่ะ ไม่รู้จะตอบอะไรเลย ข้ามไป ข้ามไป เหมือนไม่ใช่ แต่เหมือนข้อเท็จจริง”
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า วาระ ส.ว.ที่จะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้คนทั้งประเทศเหมือนดวงตกมาตลอด 4 ปีแล้วนะ แล้วเรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องโชคชะตา ในการเลือกตั้งทั้งประเทศ ประชาชนจะกำหนดชะตากรรมตัวเองโดยลงคะแนน โดยพรรคเพื่อไทยจะอาสาเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อชนะให้เด็ดขาดแบบแลนด์สไลด์ เอาชนะ ส.ว.ที่พยายามจะสร้างเกมปั่นป่วน เพื่อสกัดกั้นเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยและประชาชน
เมื่อถามว่า มีการคาดการณ์ว่าไทม์ไลน์เลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.66 อาจคาบเกี่ยวเรื่องการคลอดด้วย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้วางแผนกับทางพรรคเพื่อไทย เรื่องของการเดินทางและสุขภาพด้วย ตนก็หาเวลาพักตลอด เพื่อพักให้เต็มที่ อีกทั้งดูเรื่องการขึ้นเครื่องบิน ถ้าแพทย์ให้ขึ้นเครื่องบินได้โดยมีแพทย์รับรองก็จะไป เมื่อช่วงใกล้คลอด ตนจะไปหาเสียงในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากกว่า และถ้าใกล้คลอดก็ยังมีผู้บริหารพรรคเพื่อไทยไปหาเสียง และตนก็สามารถพูดกับผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ด้วยการเฟซไทม์ ซึ่งเทคโนโลยีก็ช่วยเราได้เยอะ ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า ตื่นเต้นกับการตั้งครรภ์ครบ 7 เดือน ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ตนเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนตื่นเต้นกับการตั้งครรภ์ แม้จะเป็นลูกคนที่ 2
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ถ้า น.ส.แพทองธาร คลอดในวันที่ 7 พ.ค.นี้ และเป็นวันเลือกตั้ง น.ส.แพทองธาร ก็จะไปลงคะแนนเลือกตั้งในช่วง 08.00 น. ที่เปิดให้ลงคะแนนก่อน โดยขณะนี้ในแต่ละจังหวัด พรรคเพื่อไทยจะมีทีมปราศรัย ซึ่งแบ่งเป็น 2 ทีมใหญ่อยู่แล้ว ส่วน น.ส.แพทองธาร ในช่วงใกล้เลือกตั้งจะใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกฯ อีก 2 คน จะมาช่วยลงพื้นที่หาเสียงเมื่อไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เขาอาจมาช่วยกันอยู่แล้วก็ได้ ตอนนี้ทุกคนก็ช่วยพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่ละคนที่พูดก็เก่งๆ ทั้งนั้น แม้ตนจะไม่สามารถไปปราศรัยได้ ก็จะเฟซไทม์เข้าไปหา และตนก็ไม่คิดว่าการเปิดแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยจะทำให้เสียโอกาส
เมื่อถามถึงกรณีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม อาจไม่มาพรรคเพื่อไทย ตามนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรี ที่เพิ่งย้ายเข้ามาพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายสนธยา ในฐานะพี่ใหญ่ของครอบครัวคุณปลื้ม ซึ่งนายสนธยา เคยประกาศจะมาพรรคเพื่อไทยเป็นครอบครัว ตนไม่ขอก้าวล่วง ส่วนคำว่าครอบครัวจะเป็นประเด็นปัญหาอะไรหรือไม่ ก็ให้ดูแต่ละส่วนแต่ละคนไป ส่วนนายอิทธิพลจะประกาศอย่างไร ทางพรรคจะไม่ไปเกี่ยวข้อง ซึ่งนายสนธยาได้ยืนยันแล้วว่า ครอบครัวได้ตัดสินใจร่วมกันแล้ว ยืนยันในส่วน จ.ชลบุรี จะได้ทั้ง 10 เขต โดยสัปดาหน้าจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบทุกเขต
เมื่อถามว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน มีผลต่อการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีผล เพราะพื้นที่แต่ละบุคคลมีความสามารถที่แตกต่างกัน เรารอว่าเขตเลือกตั้งชัดเจนเมื่อไหร่ก็จะมีการปรับเปลี่ยน เช่น เราประกาศผู้สมัครไป 8 คน ถ้าแบ่งเขตออกมาแล้วไม่ตรง เราก็จะมีการปรับ
เมื่อถามว่า จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ มีคนแข่งสูสีกัน และบนเวทีมีการพูดถึงเจ๊ใหญ่ เพื่อไทยรอบนี้สู้สุดฤทธิ์หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดเอง แต่ชาวบ้านเขาพูดกัน ใครจะเป็นเจ๊ใหญ่อย่างไรหรือไม่ ก็พูดให้เป็นภาษาเดียวกับชาวบ้าน แต่บรรยากาศการแข่งขัน เราเต็มที่ทุกเขต ทุกจังหวัดอยู่แล้ว เราประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์ เราก็คาดหวังการสนับสนุนจากทุกที่ ไม่ว่ามีคู่ต่อสู้เป็นพรรคใหญ่โต เต็มไปด้วยทรัพยากรหรืออำนาจแค่ไหน เราศรัทธาอย่างเดียวคืออำนาจของประชาชน
จากนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เขตจะสูสีหรือไม่สูสี เราลงแรงลงใจเท่ากันหมด เป้าหมายคือแลนด์สไลด์ เราไปทุกที่ให้มากที่สุด บอกนโยบายที่เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ได้จริงๆ จะเป็นสิ่งที่ประชาชนตัดสินใจ เข้าใจว่าอาจมีคนนั้นคนนี้มากมายเป็นคู่แข่ง แต่นโยบายเท่านั้นที่ประชาชนรับรู้ว่าเพื่อไทยทำได้
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับสัญญาณยุบสภา น.ส.แพทองธาร ระบุว่า เราไม่สนใจว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ เพราะเราจะเดินหน้าแบบนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประกาศนโยบายเรื่องปรับเงินเดือนข้าราชการ 25,000 บาท/เดือน บนเวทีปราศรัย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราจะปรับฐานเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท นั่นคือขึ้น 70% ดังนั้น พอฐานขึ้นเป็น 25,000 ก็จะปรับเงินเดือนของข้าราชการด้วย ดังนั้น เราลองเข้าไปบริหารประเทศก่อน และรอเวลาในการทำนโยบายต่างๆ เราจะประกาศปี 2570 เราต้องค่อยๆ ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น ไม่อยากให้ประชาชนคิดว่าเข้าไปปุ๊บวันแรกทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วัน แต่ทุกอย่างต้องต่อเนื่องกันทั้งระบบ รวมถึงการวางโครงสร้างต่างๆ ด้วย
เมื่อถามว่า เนื้อหาปราศรัยที่ จ.อำนาจเจริญ พุ่งเป้าไปที่กัญชาเสรี แปลว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แปลว่ายาเสพติดเป็นอันตรายที่น่ากลัวของประชาชน กัญชาที่อยู่ในมือลูกหลานเป็นอันตรายต่ออนาคตของชาติ ไม่ว่าปราศรัยที่ไหน เรายกปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วนทันที
น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ในปี 2548 ต้องไม่ลืมว่า พรรคไทยรักไทยทำสำรวจพบว่า นโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดและยังคงเชื่อมั่นถึงปัจจุบัน ไม่ได้มองว่าพรรคไหนเป็นการเฉพาะ แต่ยาเสพติดเป็นอันตรายต่อทุกคน ไม่ว่าพรรคไหนสนับสนุนก็เห็นต่างจากพรรคเพื่อไทย. – สำนักข่าวไทย