ประธาน กกต.ไม่ยื่นศาล รธน.ตีความปมคำนวณจำนวนราษฎร

โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ 8 ก.พ.- ประธาน กกต. ยันไม่ยื่นศาล รธน.ตีความ ปมคำนวณจำนวนราษฎร ตามข้อเสนอ “วิษณุ” ชง 3 รูปแบบค่าใช้จ่ายผู้สมัคร ส.ส แบบแบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ ให้พรรคการเมืองเลือก


นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหารือกับพรรคการเมืองเพื่อกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งหารือในเรื่องของการติดป้ายประกาศ ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง และวิธีการสรรหาผู้สมัครลงรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง (ไพรมารีโหวต) เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งส.ส. ว่า ในส่วนของค่าใช้จ่ายของผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง กกต.ได้กำหนดตุ๊กตาไว้ รวม 3 รูปแบบ รูปแบบแรกกกต.คิดเอง โดยคำนวณกับปัจจัย 7 ประการ ได้แก่ อัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ดัชนีราคาผู้บริโภค น้ำมันดีเซล ราคาไม้อัดราคาไม้อัดขนาด 4X8 ฟุต หนา 4 มิลลิเมตร กระดาษโปสเตอร์ขนาด 15.5X21.5 (บาทต่อแผ่น) ค่าไวนิลขนาด 1X3 เมตร (บาทต่อผืน) และฟิวเจอร์บอร์ด 130 เซนติเมตร X 3 มิลลิเมตร (บาทต่อแผ่น) ซึ่งหากสภาอยู่ครบวาระ ผู้สมัครส.สแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ใช้จ่ายได้คนละ 6.5 ล้านบาท และพรรคการเมืองใช้จ่ายได้ 152 ล้านบาท ส่วนกรณีมีการยุบสภาผู้สมัครส.สแบบแบ่งเขตเลือกตั้งใช้จ่ายได้คนละ 1.74 ล้านบาท และพรรคการเมืองใช้จ่ายได้ 40.6 ล้านบาท รูปแบบที่ 2 เป็นการนำปัจจัย 7 ประการไปหารือกับ 3 หน่วยงานทางเศรษฐกิจ ได้แก่กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์ ทำให้จำนวนค่าใช่จ่ายของผู้สมัครเพิ่มขึ้นกว่าที่กกต.ตั้งตุ๊กตาไว้ ส่วนรูปแบบที่ 3 เป็นข้อเสนอของ 3 หน่วยงาน ที่เห็นว่าควรคำนวณอัตราเงินเฟ้อรวมเข้าไปด้วย การเสนอทั้ง 3 รูปแบบได้มีการเสนอให้ผู้แทนพรรคการเมืองได้พิจารณาในที่ประชุมวันนี้ ซึ่งพรรคการเมืองได้แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย มีทั้งที่เห็นว่าเหมาะสมแล้ว มากเกินไป หรือน้อยเกินไป โดยกกต.มีแบบสอบถามความเห็นให้พรรคการเมืองได้แสดงความเห็นว่าพึงพอใจรูปแบบใด จากนั้นทำสำนักงานกกต.ก็จะนำความเห็นมาประมวล และส่งให้ที่ประชุมกกต. พิจารณาว่าเท่าใดจึงจะเหมาะสมก่อนที่จะออกประกาศ

สำหรับการติดป้ายหาเสียงประเด็นที่พรรคการเมืองสอบถามคือ ต้องการทราบว่าสามารถติดป้ายไว้ที่ใดบ้าง ส่วนขนาดมีทั้งที่มองว่าที่กกต. กำหนดใหญ่หรือเล็กเกินไป แทนที่จะให้พรรคเป็นผู้ดำเนินการ กกต.ควรเป็นคนกำหนด และมีข้อเสนอในเรื่องของสถานที่ติดป้ายประกาศว่ากกต.ควรจะเป็นผู้กำหนด


นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่มีการนำส.ส. ที่มีการนำจำนวนรัฐบาลที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยมาคำนวณจำนวนส.สและแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ตนยืนยันว่ากกต.ปฏิบัติตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 86 บัญญัติไว้ ว่าให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งผู้อำนวยการทะเบียนกลางได้ประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2566 ว่ามีจำนวนเท่าใด โดยมีทั้งบุคคลที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งถ้าพิจารณาถ้อยคำที่ใช้จะเห็นว่าให้เอาจำนวนราษฎร ทั่วราชอาณาจักรมาพิจารณา ซึ่งกกต.ได้ยึดหลักการนี้ในการแบ่งเขตมาโดยตลอด

เมื่อถามว่าเป็นห่วงว่าจะมีการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความคำว่าราษฎร แล้วจะมีผลต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งหรือไม่ นายอิทธิพร ยืนยันว่า เราทำตามที่กฎหมายเขียนไว้ ว่าให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศ เมื่อถามต่อว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เห็นว่าควรยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อเป็นบรรทัดฐาน นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า เราเห็นว่า สิ่งที่เราพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมายแล้ว

เมื่อถามต่อว่า นั่นหมายความว่ากกต.จะไม่มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่นายวิษณุ เสนอใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เวลานี้เราไม่ได้คิดอย่างนั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับค่าใช้จ่ายของผู้สมัครส.สแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ในรูปแบบที่ 2 ที่กกต.มีการนำปัจจัย 7 ประการ ในการคิดคำนวณไปหารือกับ 3 หน่วยงาน พบว่า มีการให้นำดัชนีราคาผู้บริโภค จากปีฐานคือปี 2562 มาคำนวณด้วยซึ่งก็จะทำให้กรณีครบวาระผู้สมัครส.สแบบแบ่งเขตใช้จ่ายได้คนละ 7 ล้านบาท แบบบัญชีรายชื่อ 163 ล้านบาท แต่ถ้ายุบสภาแบบแบ่งเขตใช้จ่ายได้คนละ 1.9 ล้านบาท และบัญชีรายชื่อใช้จ่ายได้ 44 ล้านบาท

ส่วนรูปแบบที่ 3 เป็นการคิดจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2562-2565 จะพบว่าในกรณีอยู่ครบวาระผู้สมัครแบบแบ่งเขต จะใช้ค่าใช้จ่ายได้ 6 ล้านบาท แบบบัญชีรายชื่อ 141 ล้านบาท และหากกรณียุบสภาแบบแบ่งเขตสามารถใช้ได้ 1.6 ล้านบาท แบบบัญชีรายชื่อใช้จ่ายได้ 38 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เรียกรัฐมนตรี-คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ประชุมกรอบงบฯ 69

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก 3 รมต.คลัง-ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ หารือสรุปทิศทางการทำงบประมาณปี 69 มั่นใจใช้งบที่มาจากภาษีประชาชน แก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศได้ตรงจุด

สส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย เล่านาทีกระป๋องนมเฉี่ยวไปนิดเดียว

“สส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย” เล่านาทีระทึก กระป๋องนมเฉี่ยวไปนิดเดียว เชื่อมีคนเขวี้ยงมาแน่ บอกมันดังมากเลยนะ งง! จะหล่นมาจากฝ้าได้อย่างไร ด้าน “เลขาฯ สภา” แจงแล้ว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบตกจากเพดาน คาดคนงานขึ้นไปซ่อมฝ้า ดื่มนมแล้วทิ้งไว้

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

รมช.คลัง เร่งดัน กม.สถานบันเทิงครบวงจร ยันไร้เส้นสาย-เกี้ยเซียะ

‘รมช.คลัง’ ลั่นเร่งดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน ไม่จำกัดสัญชาติ แต่ต้องมีคุณภาพ ยันไม่มีเส้นสาย-เกี้ยเซียะในรัฐบาล