นายกฯ ยันทำงานเพื่อคนทุกกลุ่มในประเทศ

สมุทรสงคราม 3 ก.พ. – “พล.อ.ประยุทธ์” พูดกับชาวแม่กลองจนไฟดับ บอกไม่ชอบที่เกษตรกรมีเงื่อนไข ถ้าแก้ปัญหาให้จะเลือกเป็นนายกฯ ต่อ ยันเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ทำทุกอย่างเพื่อคนทุกกลุ่มดีที่สุด แต่ต้องดูกรอบงบประมาณด้วย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะประชาชนที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่าและการยกระดับรายได้ โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน กลุ่มผู้ทำนาเกลือ กลุ่มผู้ทำสวนมะพร้าว และกลุ่มไม้ผลของจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้วยการประกันราคาเกลือ ยกระดับให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ ประกันราคามะพร้าวด้วย และของบประมาณเพิ่มเพื่อช่วยเหลือด้านการเกษตร ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีช่วยจะเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งแรกที่อยากจะบอกคือ จังหวัดสมุทรสงคราม มีศักยภาพหลายอย่าง ประชาชนน่ารัก วันนี้ตนมาในนามของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน โดยจะต้องทำงานใน 3 ช่องทาง คือ 1.จากหน่วยราชการที่เสนอเข้ามาตามลำดับชั้น 2.กำหนดนโยบายลงไปและมอบหมายให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบ 3. รับฟังจากบรรดา ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งปัญหาต่างๆ สะสมมามากพอสมควร บางครั้งดูเหมือนจะดีขึ้น ต้องแก้ไขต่อไป และเมื่อได้คุยกับเกษตรกรก็ได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาและมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบรายงานขึ้นมา เพื่อให้ตนสั่งการตัดสินใจ


“จะรับปัญหาต่างๆ ไปแก้ไข แต่ที่ตนไม่ชอบอยู่อย่างเดียว คือที่พูดว่า ถ้าอย่างนั้น ยินดีให้ตนเป็นนายกฯ อีก 2 ปี ไม่จำเป็นหรอกครับ ตนต้องการทำให้พี่น้องประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ตนเป็นนายกฯ ที่คิดถึงคนทั้งประเทศ ประเทศไทยมีแต่รอยยิ้มแล้วทำไมทุกคนต้องเป็นศัตรูกัน ไม่ต้องการให้ใครมีความขัดแย้ง ขุ่นข้องหมองใจกัน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ และเป็นของคนจังหวัดสมุทรสงครามในทุกเขตทุกอำเภอ จะไม่ปัดความรับผิดชอบ จะทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังอยู่ตรงนี้ ตนไม่สามารถจะให้ใครได้มากที่สุดหรือรักที่สุด ถ้ารักลูกไม่เท่ากันก็ไม่ได้ แต่จะดูว่าอันไหนที่เดือดร้อนเร่งด่วนและทำให้ได้จะดำเนินการให้ และต้องดูงบประมาณด้วย เพราะมีอย่างจำกัด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ติดตามเรื่องรถไฟที่จะต้องเชื่อมต่อ ซึ่งต้องใช้เวลาในการก่อสร้างและต้องใช้งบประมาณ อีกเรื่องคือเรื่องน้ำท่วมพนังกั้นน้ำ ทั้งหมดใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท ซึ่งช่วงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2567 ยืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อะไรที่เร่งด่วนจะไปพิจารณาดำเนินการ ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตนมายืนตรงนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ที่จะทำเพื่อประชาชนทุกคนให้มีความสุข เหมือนเป็นคนในครอบครัว พ่อต้องรักลูกทุกคน และทำให้ลูกเจริญเติบโตที่ดีที่สุด ตนมีหน้าที่ตรงนี้ เป็นคนที่จะต้องดูแลทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายให้ให้ดีที่สุด

“ช่วงนี้เป็นช่วงเรียกว่าประชาธิปไตย ให้คิดเอาว่าสิ่งที่พูดมาทำได้มากน้อยแค่ไหน อะไรที่ทำไม่ได้ ตนไม่เคยพูด ตนจะไม่หาเสียงจากท่านโดยเด็ดขาดทุกเรื่อง ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตาม มันทำให้ระบบงบประมาณเสียหาย ดังนั้น ลองดูว่าในการเป็นประชาธิปไตยอะไรก็แล้วแต่ วันนี้ตนอาจจะพูดแรงไปนิด แต่ตนก็หนักใจในเรื่องเหล่านี้ ว่าจะทำอย่างไรทำให้ทุกคนมีความสุข มีความพึงพอใจ เหมือนเรามีลูกทั้งหมดกว่า 60 ล้านคน ที่ต้องทำให้ทุกกลุ่มพอใจ เพื่อร่วมเดินตามการทำงานของรัฐบาลต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนเราจะรักกัน ยังไงก็รัก เหมือนที่ตนรักประชาชน ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็รักทุกคน ทั้งประเทศ เปรียบเสมือนคนไทยในครอบครัวของประเทศ ที่ต้องดูแลให้ทุกคนมีความสุข วันนี้อยากจะเตือนภาคการเกษตร คือเราถูกกีดกันเรื่องการใช้สารเคมี การใช้ปุ๋ยเคมี และเรื่องการปลูกพืชในพื้นที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต่อไปสินค้าทุกชนิดทุกประเภท สหภาพยุโรปจะใช้หลักการนี้ในการเลือกซื้อสินค้าจากประเทศอื่น ซึ่งเราต้องเตรียมการตรงนี้ให้พร้อม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเช้านั่งรถไฟสนุกดี อยากจะมาตั้งนานแล้ว ตลาดร่มหุบร่มบาน เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายประเทศมาจำนวนมาก นักท่องเที่ยวที่มาดีใจที่ได้เห็นตลาดร่มหุบ และดีใจที่ได้เห็นนายกรัฐมนตรี แม้ไม่รู้จักกัน แต่เขาก็ต้อนรับดี ก็ได้มีการพูดคุยทักทายกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีพูดถึงตรงนี้ปรากฏว่าไฟดับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามเคาะไมโครโฟน แต่เสียงไมโครโฟนยังไม่ดัง นายกรัฐมนตรีจึงเดินลงจากเวทีมาทักทายประชาชน ซึ่งจังหวะนี้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติ ขณะที่ประชาชนรายหนึ่งขอหวยจากนายกรัฐมนตรี​ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า​ ถามหวยอีกแล้ว​ เดี๋ยว​เถอะ​ ก็ไปซื้อเอาเลข 1 ถึงเลข 10​

“นายกฯ พูดไม่เพราะ ขอโทษด้วยแล้วกัน​ แต่นายกฯ มีหัวใจให้กับทุกคน​ ขอให้รับไว้” ซึ่งประชาชนได้หยิบไมค์ของนายกรัฐมนตรีมาพูดว่า “พูดไม่เพราะแต่จริงใจ”

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ไม่มีอะไรกับใครทั้งสิ้นและจะพยายามทำให้ดีที่สุด​ เมื่อเช้าได้ไปไหว้พระ​ ไม่ได้ขออะไร​ให้ตัวเองมากมาย ขอให้ตัวเองปลอดภัย ทำงานสำเร็จ พร้อมขอประชาชนอย่าทะเลาะกัน​ ขัดแย้งกัน​ พูดกันดีก็ทำได้ ก็ยอมรับกติกากันเอง และหากเราร่วมมือกัน ทำด้วยกัน เราก็ไปได้​ เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันทำให้ดี ขอบคุณ​ และฝากหัวใจนายกฯ ไว้ให้ชาวสมุทรสงครามดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มี ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมรับฟังปัญหาประชาชนและเกษตรกรด้วย อาทิ นายอัครเดช วงพิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นายสินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. น.ส.ไพรินทร์ เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แจ้งเอาผิด “โมนิก้า” ด่าทหาร-ประสาน กต.เรียกตัวให้ปากคำ

สุรินทร์ 22 ก.ค.- สภ.พนมดงรักษ์ รับแจ้งความเอาผิด “โมนิก้า” ม.116 – ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ปม ชี้หน้าด่าทหารปราสาทตาเมือนธม ประสาน กต.เรียกตัวให้ปากคำ จากกรณี นักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชา ก่อความวุ่นวายประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ด้วยการชี้หน้าด่าทหารไทยในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังมีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่าผู้หญิงดังกล่าว ชื่อ นโรดม แพน โมนิก้า ล่าสุดสถานีตำรวจภูธรพนมดงรักษ์ (สภ.พนมดงรักษ์) จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนดำเนินคดีข้อหาก่อความวุ่นวาย ดูถูกเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่และการปลุกปั่นยุยงเพื่อนำเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ คดีดังกล่าวเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางและเป็นที่สนใจของประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รายงานไปยังผู้บังคับการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อแต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนดำเนินคดีนี้ เบื้องต้น ทางผู้บังคับการจังหวัดสุรินทร์ ลงนามแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน ไปช่วยทำคดีนี้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสอบพยาน พยายานบุคคล พยานแวดล้อม และคลิปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย พร้อมทำหนังสือเรียกผู้ถูกกล่าวหาให้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.พนมดงรักษ์ โดยประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ -313 -สำนักข่าวไทย

ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ เดินหน้าผลักดันนโยบายการเงิน ควบคู่กับนโยบายการคลัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากครบกำหนด นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 กันยายน 2568 ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป หลังจากพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 21 สิงหาคม 2563 หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการ ครม.ให้ทำหนังสือถึง ปปง., ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ให้ชัดเจนมากขึ้น ตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายกำหนด การประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงการคลังจึงส่งเอกสารเพื่อบรรจุในวาระพิจารณา ครม. […]

17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือถึง ครม. ขอผู้ว่าฯ ธปท.เป็นอิสระ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- 17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-ครม. ระบุผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ย เพจเฟชบุ๊ก “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” โพสต์หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี เรื่อง ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรียน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า กรณีการเสนอชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ขอแสดงความห่วงใยและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะเข้าใจได้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว รัฐบาลต้องการการเจริญเติบโตของประเทศในระยะสั้น ซึ่งประสบการณ์การของผู้ทำงานธนาคารของรัฐ อาจจะเคยชินในการสนองตอบต่อนโยบายของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศชาติต้องการการเติบโตที่มีเสถียรภาพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่สามารถประคับประคอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล 2.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ถูกกดดันเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ เพราะจะทำให้นักการเมืองและคนบางกลุ่ม สามารถแสวงหาประโยชน์ในบางโอกาสจนร่ำรวย แต่ประเทศชาติเสียหาย 3.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเป็นอิสระจากการกดดันของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ แต่จะต้องกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ของประเทศระยะยาว 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการยอมรับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและสถาบันของต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะทำธุรกิจและพันธสัญญาในระยะยาว 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเข้าใจการพัฒนาประเทศในระดับมหภาค และการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน […]

กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง

กกต. 21 ก.ค.-กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง ให้ได้มาซึ่งการลงคะแนนเลือก สว. ไม่พบหลักฐานได้รับแต่งตั้ง หลังมีมติยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญา เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.รวม 13 หน้า ที่มีมติเมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.เกศกมล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561มาตรา 77 (4) กรณีใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ในการยื่นสมัครและแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้มีผู้ร้อง น.ส.เกศกมล รวม 7 รายร้องใน 6 ประเด็น ซึ่งมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกันว่า น.ส.เกศกมล สมัครรับเลือกเป็น สว. กลุ่มที่ 19 โดยระบุในข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) […]