นายกฯ ยันทำงานเพื่อคนทุกกลุ่มในประเทศ

สมุทรสงคราม 3 ก.พ. – “พล.อ.ประยุทธ์” พูดกับชาวแม่กลองจนไฟดับ บอกไม่ชอบที่เกษตรกรมีเงื่อนไข ถ้าแก้ปัญหาให้จะเลือกเป็นนายกฯ ต่อ ยันเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ทำทุกอย่างเพื่อคนทุกกลุ่มดีที่สุด แต่ต้องดูกรอบงบประมาณด้วย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะประชาชนที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่าและการยกระดับรายได้ โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน กลุ่มผู้ทำนาเกลือ กลุ่มผู้ทำสวนมะพร้าว และกลุ่มไม้ผลของจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้วยการประกันราคาเกลือ ยกระดับให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ ประกันราคามะพร้าวด้วย และของบประมาณเพิ่มเพื่อช่วยเหลือด้านการเกษตร ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีช่วยจะเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งแรกที่อยากจะบอกคือ จังหวัดสมุทรสงคราม มีศักยภาพหลายอย่าง ประชาชนน่ารัก วันนี้ตนมาในนามของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน โดยจะต้องทำงานใน 3 ช่องทาง คือ 1.จากหน่วยราชการที่เสนอเข้ามาตามลำดับชั้น 2.กำหนดนโยบายลงไปและมอบหมายให้แต่ละกระทรวงรับผิดชอบ 3. รับฟังจากบรรดา ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งปัญหาต่างๆ สะสมมามากพอสมควร บางครั้งดูเหมือนจะดีขึ้น ต้องแก้ไขต่อไป และเมื่อได้คุยกับเกษตรกรก็ได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาและมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบรายงานขึ้นมา เพื่อให้ตนสั่งการตัดสินใจ


“จะรับปัญหาต่างๆ ไปแก้ไข แต่ที่ตนไม่ชอบอยู่อย่างเดียว คือที่พูดว่า ถ้าอย่างนั้น ยินดีให้ตนเป็นนายกฯ อีก 2 ปี ไม่จำเป็นหรอกครับ ตนต้องการทำให้พี่น้องประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ตนเป็นนายกฯ ที่คิดถึงคนทั้งประเทศ ประเทศไทยมีแต่รอยยิ้มแล้วทำไมทุกคนต้องเป็นศัตรูกัน ไม่ต้องการให้ใครมีความขัดแย้ง ขุ่นข้องหมองใจกัน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ และเป็นของคนจังหวัดสมุทรสงครามในทุกเขตทุกอำเภอ จะไม่ปัดความรับผิดชอบ จะทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังอยู่ตรงนี้ ตนไม่สามารถจะให้ใครได้มากที่สุดหรือรักที่สุด ถ้ารักลูกไม่เท่ากันก็ไม่ได้ แต่จะดูว่าอันไหนที่เดือดร้อนเร่งด่วนและทำให้ได้จะดำเนินการให้ และต้องดูงบประมาณด้วย เพราะมีอย่างจำกัด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ติดตามเรื่องรถไฟที่จะต้องเชื่อมต่อ ซึ่งต้องใช้เวลาในการก่อสร้างและต้องใช้งบประมาณ อีกเรื่องคือเรื่องน้ำท่วมพนังกั้นน้ำ ทั้งหมดใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท ซึ่งช่วงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2567 ยืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อะไรที่เร่งด่วนจะไปพิจารณาดำเนินการ ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตนมายืนตรงนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ที่จะทำเพื่อประชาชนทุกคนให้มีความสุข เหมือนเป็นคนในครอบครัว พ่อต้องรักลูกทุกคน และทำให้ลูกเจริญเติบโตที่ดีที่สุด ตนมีหน้าที่ตรงนี้ เป็นคนที่จะต้องดูแลทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายให้ให้ดีที่สุด

“ช่วงนี้เป็นช่วงเรียกว่าประชาธิปไตย ให้คิดเอาว่าสิ่งที่พูดมาทำได้มากน้อยแค่ไหน อะไรที่ทำไม่ได้ ตนไม่เคยพูด ตนจะไม่หาเสียงจากท่านโดยเด็ดขาดทุกเรื่อง ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตาม มันทำให้ระบบงบประมาณเสียหาย ดังนั้น ลองดูว่าในการเป็นประชาธิปไตยอะไรก็แล้วแต่ วันนี้ตนอาจจะพูดแรงไปนิด แต่ตนก็หนักใจในเรื่องเหล่านี้ ว่าจะทำอย่างไรทำให้ทุกคนมีความสุข มีความพึงพอใจ เหมือนเรามีลูกทั้งหมดกว่า 60 ล้านคน ที่ต้องทำให้ทุกกลุ่มพอใจ เพื่อร่วมเดินตามการทำงานของรัฐบาลต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนเราจะรักกัน ยังไงก็รัก เหมือนที่ตนรักประชาชน ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็รักทุกคน ทั้งประเทศ เปรียบเสมือนคนไทยในครอบครัวของประเทศ ที่ต้องดูแลให้ทุกคนมีความสุข วันนี้อยากจะเตือนภาคการเกษตร คือเราถูกกีดกันเรื่องการใช้สารเคมี การใช้ปุ๋ยเคมี และเรื่องการปลูกพืชในพื้นที่ผิดกฎหมาย ซึ่งต่อไปสินค้าทุกชนิดทุกประเภท สหภาพยุโรปจะใช้หลักการนี้ในการเลือกซื้อสินค้าจากประเทศอื่น ซึ่งเราต้องเตรียมการตรงนี้ให้พร้อม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเช้านั่งรถไฟสนุกดี อยากจะมาตั้งนานแล้ว ตลาดร่มหุบร่มบาน เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายประเทศมาจำนวนมาก นักท่องเที่ยวที่มาดีใจที่ได้เห็นตลาดร่มหุบ และดีใจที่ได้เห็นนายกรัฐมนตรี แม้ไม่รู้จักกัน แต่เขาก็ต้อนรับดี ก็ได้มีการพูดคุยทักทายกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีพูดถึงตรงนี้ปรากฏว่าไฟดับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามเคาะไมโครโฟน แต่เสียงไมโครโฟนยังไม่ดัง นายกรัฐมนตรีจึงเดินลงจากเวทีมาทักทายประชาชน ซึ่งจังหวะนี้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติ ขณะที่ประชาชนรายหนึ่งขอหวยจากนายกรัฐมนตรี​ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า​ ถามหวยอีกแล้ว​ เดี๋ยว​เถอะ​ ก็ไปซื้อเอาเลข 1 ถึงเลข 10​

“นายกฯ พูดไม่เพราะ ขอโทษด้วยแล้วกัน​ แต่นายกฯ มีหัวใจให้กับทุกคน​ ขอให้รับไว้” ซึ่งประชาชนได้หยิบไมค์ของนายกรัฐมนตรีมาพูดว่า “พูดไม่เพราะแต่จริงใจ”

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ไม่มีอะไรกับใครทั้งสิ้นและจะพยายามทำให้ดีที่สุด​ เมื่อเช้าได้ไปไหว้พระ​ ไม่ได้ขออะไร​ให้ตัวเองมากมาย ขอให้ตัวเองปลอดภัย ทำงานสำเร็จ พร้อมขอประชาชนอย่าทะเลาะกัน​ ขัดแย้งกัน​ พูดกันดีก็ทำได้ ก็ยอมรับกติกากันเอง และหากเราร่วมมือกัน ทำด้วยกัน เราก็ไปได้​ เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันทำให้ดี ขอบคุณ​ และฝากหัวใจนายกฯ ไว้ให้ชาวสมุทรสงครามดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มี ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมรับฟังปัญหาประชาชนและเกษตรกรด้วย อาทิ นายอัครเดช วงพิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นายสินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. น.ส.ไพรินทร์ เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย