ทำเนียบ 3 ก.พ.-“แรมโบ้” แจงสื่อ ยันไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ ตามที่ถูกกล่าวหา ไม่เคยเรียกรับเงินจากใคร ปัดหลบหน้า “วีระ” แค่ไม่อยากปะทะ เชื่อออกมาเล่นงานตอนนี้ หวังดิสเครดิตการเมือง
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงกรณีที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น พานายเอกลักษณ์ ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายถูกนายเสกสกล เรียกรับเงิน 2 ล้าน เพื่อช่วยปรับสเปคโครงการประมูลจัดเก็บขยะมูลฝอยของ กทม.
นายเสกสกล ยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง หากมีหลักฐานให้นายเอกลักษณ์ เอาสลิปเงินโอนมาแสดง ว่าตนรับตรงไหน เพราะจากข้อเท็จจริงนายเอกลักษณ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าตนรับเงินจาก “เฮียบุ๊ง ชัยพล” แต่เฮียบุ๊ง ก็ได้มายืนยันแล้วว่าตนไม่เคยรับเงินจากเขาแม้แต่บาทเดียว เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องจริง อีกทั้งเฮียบุ๊งก็มาเป็นพยานให้ตนด้วย จึงต้องย้อนถามกลับว่านายเอกลักษณ์ เสียหายอะไร ทั้งที่ความเป็นจริงคนที่เสียหาย คือ ตนเพราะทุกวันนี้ถูกเรียกตบทรัพย์จากนายเอกลักษณ์หลายครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น เฮียบุ๊งก็ยืนยันอีกเสียงว่า ถูกเรียกตบทรัพย์จากนายเอกลักษณ์เช่นกัน
“ล่าสุดก่อนจะมีเรื่องนี้ขึ้นมา ก็โทรมาหาผู้ติดตามผม ก็บอกว่าขออีก 300,000 บาท ถ้าได้ 300,000 บาท จะแบ่งให้ผู้ติดตามผม 50,000 บาท คราวแรกก็ขอ 800,000 บาทบอกได้ 800,000 บาท จะแบ่งให้ใช้ ถ้าพูดง่ายๆคือเอาลูกน้องผมมาแทงผม” นายเสกสกล กล่าว
เมื่อถามว่า รู้จักกับนายเอกลักษณ์ ได้อย่างไร นายเสกสกล เล่าว่า รู้จักกันเมื่อตอนปี 2562 โดยมี อดีต ส.ส.พามาฝากว่าเป็นลูกน้อง มาพร้อมกับเฮียบุ๊ง มาคุยเรื่องงาน และเขาอยากพบผู้ว่า กทม. สมัยนั้นคือพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งก็บอกว่าพบได้ แต่ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
“จะดีลงานก็ดีลก็เรื่องของท่าน แต่ผมไม่รับผลประโยชน์อะไรนะ วันที่ผมไปประชุม เขาไปส่งผมแล้วก็แอบถ่ายรูป ซึ่งยืนยันพลตำรวจเอกอัศวิน ไม่เคยรับปากอะไรผม ก็แค่คุยกันธรรมดาว่า กำลังทำงานเรื่องนี้ ส่วนจะได้งานหรือไม่ได้งาน ผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะการประชุมวันนั้น เป็นเรื่องแก้ไขปัญหาหาบเร่แผงลอย ผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องการดีลงาน และไม่รู้ว่าได้หรือไม่ได้ ผู้ว่าฯ หรือ กทม.เขาให้ใคร เราก็ไม่รู้เรื่อง เขามาติดตามผมไปทำงานบ่อยมาก แล้วก็พยายามมาประจบสอพลอ เรียกว่านายครับนายครับ ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้กลั่นกรองอะไร ขออย่างเดียวเป็นคนดี ไม่แสวงหาผลประโยชน์ มาเป็นนักต้มตุ๋น ล็อบบี้ยิสต์ มาสร้างความเสียหายให้กับผม ผมไม่ทำอยู่แล้ว เพราะท่านนายกสั่งชัดเจนแล้วว่า เรื่องทุจริตคอรัปชั่น จะไม่มีการทุจริตโกงกินอะไรอยู่แล้ว ผมยึดตามคำสั่งท่านนายกตลอด” นายเสกสกลกล่าว
นายเสกสลก ยังกล่าวว่าเชื่อมั่น ความบริสุทธิ์ใจ และเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย พร้อมจะพิสูจน์ ตามกระบวนการกฎหมาย ทุกอย่างที่นายเอกลักษณ์ พูดอยู่คำเดียวว่า ตนเรียกตบทรัพย์ ถ้าเรียกตบทรัพย์จริงค่อยเล่นงานตน สิ่งที่นายเอกพูดเป็นเท็จ ไม่เป็นจริง ไม่มีอะไรที่เสียหายต่อหน้าที่การทำงานของตนเลย ไม่ได้เรียกตบทรัพย์ใครเลย
ส่วนตอนนี้ยืนยันใช่หรือไม่ว่า บริสุทธิ์ สะอาด นายเสกสกล กล่าวว่า แน่นอน บริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้ามานั่งแถลงต่อสื่อมวลชน หากไปรับเงินรับทองเขาจริง พร้อมขอให้สื่อมวลชนช่วยกันติดตามพฤติกรรมของคนนี้ เพื่อเอาเข้าคุกให้ได้ เพราะมีหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตนก็ไปแจ้งความไว้หลายครั้งหลัง จากที่ถูกคนๆนี้คุกคาม รวมถึงวันที่ร้านกาแฟ ที่เขากล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายเขาด้วย ทั้งที่ข้อเท็จจริง วันนั้นเขาปรี่เข้ามาหาตนก่อน และตนก็ไปแจ้งความก่อนที่นายเอกลักษณ์ จะไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายด้วย ดังนั้นต้องช่วยกัน อย่าให้มีการกรรโชกทรัพย์เกิดขึ้นในประเทศไทย
สำหรับคลิปเสียงที่นายวีระ ขู่ว่าจะเปิดเผย นายเสกสกล ท้าให้เปิดเลย เพราะตนมีคลิปหลักฐานชัดเจนว่าคนเหล่านั้นกรรโชกทรัพย์ตน เมื่อถามว่าเหตุใด จึงไม่ไปเผชิญหน้ากับนายวีระ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ นายเสกสกล กล่าวว่า ไม่รู้จะไปพบทำไมให้ปะทะกัน เพราะเขาไปพบกับพวกโจร และนายวีระ หลังจากที่นายกฯ ช่วยกลับมาประเทศไทย ก็ยังมาด่านายกรัฐมนตรี คนแบบนี้คบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน ไปแจ้งความเอาผิดนายวีระ และนายเอกลักษณ์ ฐานหมิ่นประมาทตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เชื่อว่านายวีระ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่ตกเป็นเครื่องมือแก๊งพวก 18 มงกุฎ ไม่มีเรื่องจริงสักเรื่อง หวังทำลายหวังดิสเครดิต หวังด้อยค่าทางการเมือง เพราะตอนนี้ตนกำลังทำงานการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ.-สำนักข่าวไทย