หนองคาย 28 ม.ค.- “แพทองธาร” มุ่งใช้หมัดเด็ดจริงใจ-นโยบาย สู้ทุกเวทีปราศรัย พปชร. ปิดดีลจับมือแกนนำสร้างอนาคตไทย ไม่กระทบเพื่อไทย ให้ประชาชนชี้ขาดวันเลือกตั้ง ด้าน “ณัฐวุฒิ” ชี้ “ประวิตร” ลีลาเร็วปาด “ประยุทธ์” ดูดสี่กุมารคืนรัง ส่วนที่ พปชร.เสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ย้ำรอผลเลือกตั้งในอนาคตก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีปราศรัยใหญ่ เทศบาล อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ปราศรัยใน จ.หนองคาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. ยกจังหวัด 3 เขตเลือกตั้ง ว่า ตนจะกลับมาหาพี่น้องคนหนองคายอีกแน่นอน เพราะคนหนองคาย ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด แค่มาก็อุ่นใจแล้วตั้งแต่มาถึง วันนี้มีพลังเต็มที่ในการปราศรัย
เมื่อถามถึงกรณีพรรคสร้างอนาคตไทยจะมาควบรวมกับพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้พรรคพลังประชารัฐเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าตรงนั้นคือเกมการเมือง พรรคเพื่อไทยจะเอานโยบายไปแลกกับความไว้ใจของประชาชนเพราะเราตั้งใจจริงๆ เราโดนยุบพรรคและตั้งมาใหม่ก็ยังตั้งใจแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน มันคือนโยบายและจุดประสงค์และต้องการทำพรรคเพื่อไทยให้แข็งแรง และทำเพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่าการควบรวมกับพรรคพลังประชารัฐ น่าจะเป็นภาระของ พรรครวมไทยสร้างชาติมากกว่าไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย เพราะว่าเห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตัวเดินช้าแต่ลีลาเดินเร็ว และเดินเร็วกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหลายก้าวด้วย การดึงคนกันเองเข้าพรรคแม้ไม่ใช่คนหน้าใหม่ ที่เคยรวมตัวในพรรคพลังประชารัฐมาก่อนนั้น ภาพสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตร มีบารมีและได้รับการยอมรับในฝ่ายตัวเองมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเห็นได้ชัด และ พล.อ.ประวิตร ก็สามารถจบดีลกับสี่กุมารได้ ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่ เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ที่ปรึกษาของนายกฯ เป็นกำลังหลักคนเดียวเท่านั้น
“สองคนสองพรรคเขาเดินเป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยเราเดินหน้าเข้าหาประชาชน เปิดนโยบายชุดใหญ่ของพรรคเพื่อไทย” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ถามว่า การควบรวมกับพรรคพลังประชารัฐ ที่สุดแล้วเป็นการวัดพลังกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของประชาชนที่จะตัดสิน ว่า พรรคเพื่อไทยจะมีแรงต่อสู้ทางการเมืองหรือไม่ พรรคเพื่อไทยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชน ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจกับการควบรวมของพรรคพลังประชารัฐและพรรคสร้างอนาคตไทย แต่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะการที่จะทำแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งให้กับประชาชนรับรู้ก็ยากแล้ว ดังนั้นตนไม่ได้โฟกัสเรื่องอื่นๆ
ถามถึงกลุ่มสามมิตร กลุ่มนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่งมาอยู่พรรคเพื่อไทยในอนาคต น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ยังเร็วไปมากที่จะพูดถึงตอนนี้ เพราะตอนนี้ภาพเครือข่ายกำลังหาเสียงให้แลนด์สไลด์ ดังนั้นขอมองที่การเลือกตั้งมากกว่า และขอฝากชาวหนองคายให้เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์เหมือนเดิม
ถามว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็นำทีมปราศรัยให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติที่จังหวัดชุมพร น.ส.แพทองธาร หันไปถามที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยว่าเป็นการวัดพลังหรือไม่
นายณัฐวุฒิ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยแข่งขันกับตัวเองและแข่งขันกับกติกาที่เอารัดเอาเปรียบ ที่มี 250 ส.ว. ซึ่ง พล.อ. ประวิตร เลือกให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้ง ส่วนจะประเมินพลังกันอย่างไรให้เป็นวิจารณญาณของประชาชน โดย พล.อ.ประยุทธ์ ไปปราศรัยที่ภาคใต้ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นครั้งแรก ส่วน น.ส.แพทองธาร มา ปราศรัยที่จังหวัดหนองคาย เป็นครั้งแรก และอาจจะได้เห็นการแลนด์สไลด์ในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นครั้งแรกในสนามเลือกตั้งก็ได้
น.ส.แพทองธาร ระบุว่าตนมีแต่นโยบายและความตั้งใจ ดังนั้นขอใช้ความจริงใจเป็นหมัดเด็ดของพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยจะยังจับมือกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ได้มีปัญหากัน เชื่อว่าเป็นพรรคประชาธิปไตย ส่วนการจับมือกันนั้นในทางการเมืองก็เป็นเรื่องของอนาคต
ถามย้ำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐเท่ากับว่าเป็นการโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ระบุว่า สื่อบอกเองเป็นไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร จะจับมือกัน สื่อบอกแบบนี้ ดังนั้นไม่ต้องห่วงดีลลับ เพราะเขาจะเดินจับมือกันเอง ดังนั้นขอให้รอผลการเลือกตั้งจะดีกว่าจะนับหนึ่ง สอง สาม ก็อยู่ที่ประชาชน
ถามว่า พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้กับ “แบม-ตะวัน” ผู้ต้องคดีมาตรา 112 แต่พรรคเพื่อไทยไม่แอ็กชันเรื่องนี้ นายณัฐวุฒิ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้ว ต่อกระบวนการยุติธรรมให้ทำหน้าที่ยุติวิกฤติที่จะเกิดขึ้นกับการต่อสู้กับแบมและตะวัน ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยก็ได้แสดงจุดยืนชัดเจนเรื่องนี้ ส่วนตนก็ได้เสนอข้อเรียกร้องว่ากระบวนการยุติธรรมควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเมตตาธรรม จะทำให้สถานการณ์น่าวิตกคลี่คลายลงได้
ถามถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ถ้าเสนอจริงพรรค เพื่อไทยจะสนับสนุนหรือไม่ นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ตนคิดว่าเรื่องนั้นยังอีกไกลและพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่รู้จะได้ ส.ส.เท่าไหร่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้เสนอพล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้นำเสนอนโยบายของพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ที่จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ดังนั้นขอให้ฟังประชาชนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำไปที่ น.ส.แพทองธาร ถึงกฎหมายนิรโทษกรรม ทำให้นายณัฐวุฒิ กล่าวแทนว่า “เราเห็นตรงกันเรื่องนี้ ขอบคุณมากนะครับ” .-สำนักข่าวไทย