“แพทองธาร” ย้ำสัญญาเพื่อไทย ทำจริงทุกนโยบาย

หนองคาย 28 ม.ค. – “แพทองธาร” ขึ้นเวทีปราศรัยงาน “แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น” ที่ จ.หนองคาย ย้ำสัญญาพรรคเพื่อไทย ไม่ลมๆ แล้งๆ ทำจริงทุกนโยบาย


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ประกาศกลางเวทีปราศรัยงาน “แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น” บริเวณเทศบาลอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ในช่วงเช้าวันนี้ (28 ม.ค.66) แม้ว่าอากาศจะร้อนด้วยแดดที่แรง แต่พี่น้องประชาชนราว 7,000 คน ยังมาฟังการปราศรัยครั้งนี้อย่างหนาแน่น

น.ส.แพทองธาร เริ่มต้นการปราศรัยถึงการรัฐประหารปี 2557 ได้พรากโอกาสสำคัญของชาวหนองคายไป ถ้าไม่มีการรัฐประหาร ตอนนี้หนองคายมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้ว ขนคน ขนสินค้าไปขายต่างประเทศ ขนโอกาสมาให้พี่น้องประชาชนมากมาย การรัฐประหารทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนแย่ลง เป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น


“เพื่อไทยมาช่วยพี่น้องล้างหนี้เอาไหม” น.ส.แพทองธาร กล่าว โดยใช้หลักการ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส’ ในเรื่องการเกษตร เพื่อไทยจะนำเทคโนโลยีมาช่วยเกษตรกรให้พี่น้องไม่ขาดทุน ปลูกสินค้าเกษตรอย่างแม่นยำ เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน

น.ส.แพทองธาร ได้ทิ้งท้ายว่า “เดี๋ยวคนนี้จะเป็นเซลส์แมน เอาสินค้าการเกษตรของพี่น้องไปขายที่ต่างประเทศเอาไหม ขายได้แน่นอน”

พร้อมย้ำ 3 นโยบาย


  1. ค่าแรง 600 บาท/วัน และค่าแรงปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท ที่รวมถึงข้าราชการด้วย
  2. เพื่อไทยมายาเสพติดต้องหมดไป
  3. สินค้าการเกษตรทุกตัวราคาขึ้นยกแผง

“อดทนอีกนิดเดียวเท่านั้นค่ะ รอวันเลือกตั้ง เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค มาแก้ปัญหาให้พี่น้องทุกคน การจะแก้ปัญหาให้พี่น้องต้องคิดการใหญ่และต้องการคนทำเป็น พรรคเพื่อไทยไม่สัญญาอะไรลมๆ แล้งๆ แน่นอนค่ะ” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จังหวัดหนองคาย มีทำเลที่ตั้งและต้นทุนแห่งพื้นที่ศักยภาพ รวมถึงต้นทุนของประชากร ตนอยากเห็นหนองคายเป็นจังหวัดปกครองพิเศษ หากกรุงเทพฯ สามารถเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดได้ หนองคายก็มีศักยภาพควรเป็นแบบนั้นได้หรือไม่ จึงขอให้ชาวหนองคายเลือกเพื่อไทยทั้ง 3 เขต รวมถึงพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ต้องยกคะแนนให้พรรคเพื่อไทย เพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน หากเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ ความยากลำบากจะฝังติดแน่นกับคนไทยไปอีกนาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงนโยบายดีๆ ของพรรคเพื่อไทยจะไม่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนชาวหนองคายเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้ง 3 เขต ได้แก่ เขต 1 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เป็น ส.ส.สมัยแรก มาจากสภาอุตสาหกรรมฯ สามารถช่วยเหลือพรรคอย่างมากในมุมเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ เขต 2 น.ส.ชนก จันทาทอง เป็น ส.ส.รุ่นใหม่ สายเลือดนักการเมือง และเขต 3 นายเอกธนัช อินทร์รอด ที่ทำงานมาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เป็น ส.ส.ที่พรรคเพื่อไทยภาคภูมิใจ ทำงานและเสียสละให้พรรคอย่างเต็มที่

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า หากเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ได้ 250 เสียงขึ้นไป จะไม่มีใครมาแย่งพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะปี 2562 เป็นปีที่เจ็บปวด แม้ได้ ส.ส. 136 เสียงมากที่สุด แต่ไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ พวกเขาใช้วิธีการสารพัด โดยเฉพาะรวม ส.ว. 250 เสียง มาเลือกนายกรัฐมนตรี มีการแจกกล้วยทำลายประชาธิปไตย

ส่วนรายชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่ประกาศนั้น ยืนยันว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนหนุ่มคนสาว เข้าใจพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะเป็นคนประกาศเอง เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของพี่น้องปวงชนชาวไทย พร้อมยืนยันไม่จับมือกับพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคที่สนับสนุนเผด็จการ ขอจับมือกับประชาชนอย่างเดียว เพื่อเป้าหมายแลนด์สไลด์เท่านั้น พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าเพื่อสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพของพี่น้องประชาชนและเยาวชน หากรัฐธรรมนูญไม่ดี พรรคเพื่อไทยพร้อมจะจัดทำใหม่ เป็นรัฐธรรมนูญที่สมดุล ที่เกิดจากพี่น้องประชาชน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย