เปิด 12 นโยบายหาเงินใหม่เข้าประเทศ


โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ 24 ม.ค.- “ชาติพัฒนากล้า” แถลง 12 นโยบายหาเงินใหม่เข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาท ชูแนวคิดคนไทย งานดี-มีเงิน-ของไม่แพง “สุวัจน์” ชี้ทำการเมืองต้องมีเสถียรภาพ เป็นมิตรทุกฝ่าย เดินหน้าแก้วิกฤติเศรษฐกิจ “กรณ์” ย้ำนโยบายทำได้ด้วยการปรับโครงสร้าง ไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม


พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค ร่วมกันแถลงเปิดนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งและขับเคลื่อนประเทศ บนแนวคิด “งานดี-มีเงิน-ของไม่แพง!”

นายสุวัจน์ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังจะครบเทอม พรรคการเมืองทุกพรรคก็เตรียมนโยบาย พรรคชาติพัฒนากล้าก็เป็นพรรคหนึ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักที่ต้องเข้ามาแก้ไข ทุกพรรคต้องร่วมมือกันในการนำเสนอนโยบาย เพื่อให้ประชาชนมีความหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นทางออกของประเทศ พรรคชาติพัฒนากล้าจึงขออาสาเข้ามาทำงานตรงนี้ โดยมีแนวคิดว่า “งานดี มีเงิน ของไม่แพง” สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ เปิดนโยบายทั้งหมด 12 เรื่อง คือ 1.นโยบายในเรื่องการที่จะสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่จะมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจที่จะนําไปสู่เม็ดเงิน ประมาณ 5 ล้านล้านบาท , 2.นโยบายลดค่าใช้จ่าย จะจัดโครงสร้างภาษีใหม่ บุคคลเงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี , 3.นโยบายสร้างเกษตรใหม่ที่จะเป็นแพลตฟอร์มใหม่ทางด้านเศรษฐกิจ เป็นจุดแข็งของประเทศ , 4.นโยบายสินเชื่อ จากปัญหาเรื่องเครดิต จะผ่อนคลายให้ทุกคนกลับมาใช้สินเชื่อกันได้ใหม่ , 5.นโยบายการใช้ระบบดิจิทัลมาปรับปรุงระบบราชการ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว โปร่งใส , 6.นโยบายทางด้านการท่องเที่ยว ที่จะมาสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า , 7.นโยบายด้านพลังงานในเรื่องของราคาไฟฟ้าและราคาน้ำมัน , 8.นโยบายด้านการศึกษา เพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทำงานมากขึ้น ประเทศไทยต้องเรียนรู้หลายภาษา , 9.นโยบายทุนธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุดรายละ 1 ล้านบาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย , 10.นโยบายสูงไวไฟแรง งานใหม่ 500,000 ตำแหน่ง , 11.นโยบายอารยสถาปัตย์ปรับปรุงบ้าน 50,000 บาทให้ผู้สูงวัยและผู้พิการ , 12.นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย 4 ทิศ 2,000 กิโลเมตร


นายสุวัจน์ ยังกล่าวว่า นโยบายทั้งหมดนี้ เป็นนโยบายภาพรวมที่เราเปิดรับฟังความเห็นจากตัวแทนสาขา สมาชิก ก่อนจะปรับให้สมบูรณ์เพื่อเสนอต่อ กกต. และเป็นพื้นที่คาดหวังของพรรคเช่นเดียวกับพื้นที่ กทม. ก็คือจังหวัดนครราชสีมา จะมีการเปิดนโยบายเฉพาะช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์วันวาเลนไทน์ด้วย โดยจะเป็นนโยบายที่มีความเฉพาะ บนเป้าหมายให้นครราชสีมากลับมายิ่งใหญ่ เป็นฐานด้านเศรษฐกิจ เป็นประตูสู่อีสาน มีความเป็นสากล เหมือนสมัยพล.อ.ชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรี เรียกได้ว่าโคราชคัมแบ็ก

ส่วนการจับขั้วรัฐบาล นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเมืองมี 2 อย่าง คือฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ถ้าเป็นรัฐบาลได้ก็ดีในแง่การนำนโยบายเสนอต่อประชาชนไปเป็นผู้ปฏิบัติ แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง สามารถเป็นได้ทั้ง 2 กรณี ส่วนจะจับมือได้ทั้ง 2 ขั้วหรือไม่ ตอนนี้ยังเห็นไม่เห็นขั้วการเมืองชัดเจน แต่พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ ทำการเมืองแบบเป็นมิตรกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว พยายามประนีประนอมให้เกิดความสมานฉันท์ เกิดเสถียรภาพทางการเมือง เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา เสถียรภาพทางการเมืองเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระทบกับเศรษฐกิจ สภาตอนนี้ประชุมไม่ได้ ไม่ครบองค์ กฎหมายสำคัญต่างๆ ไม่ผ่านเพราะสภาล่ม จึงอยากเห็นทุกฝ่ายให้ความสำคัญ ร่วมมือสร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้เกิดขึ้น อาจจะเป็นเสถียรภาพในฝั่งของความเป็นรัฐบาล หรือในส่วนของการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อให้เกิดการทำงานที่ถ่วงดุลสมดุล นักลงทุนจะได้มีความมั่นใจ

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค นายสุวัจน์ กล่าวว่า เอาไว้เป็นตามปฏิทินการเมือง พอยุบสภาผู้แทนราษฎร ถึงเวลาเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็จะมีการนำเสนอ แน่นอนว่าเรามีบุคลากรที่พร้อม เชื่อว่าเป็นที่ยอมรับของประชาชน ทั้งแคนดิเดตนายกฯ ทั้งผู้สมัคร ส.ส. รวมถึงจำนวนที่นั่ง ก็จะทำให้ได้มากที่สุด


ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า นโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า อยู่บทยุทธศาสตร์ฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยประชาชนที่ต้องอดทนสภาวะของแพงและการทำมาหากินที่ยากลำบากมายาวนาน ซึ่งวันนี้ก็ได้เสนอยุทธศาสตร์ที่มีความชัดเจน ว่าเราจะสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ 5 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี เป้าหมายเราต้องการให้ประชาชนมีงานดีๆ ทำมีเงินในกระเป๋ามี ค่าครองชีพที่ไม่สูงเกินไป ก็คือราคาสินค้าไม่แพง ล้วนเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง มีข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก ผนวกกับทีมงานทุกรุ่นทุกวัยที่ มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้ด้อยกว่าพรรคการเมืองอื่น

ส่วนการจัดสรรงบประมาณปี 2567 มีความเหมาะสมหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า อยากให้มีรัฐบาลและสภาชุดใหม่เข้าไปทำงานโดยเร็ว เพราะมีหลายรายละเอียดที่ควรจะต้องปรับปรุงใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องมีการรีดไขมันและใช้อย่างมีประสิทธิภาพให้ตรงต่อยุทธศาสตร์มากขึ้น โดยนโยบายที่เราได้นำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างพลังงาน ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าให้ราคาถูกลง การปรับโครงสร้างสินเชื่อให้คนเข้าถึงการกู้ยืมในระบบได้มากขึ้น เรื่องเหล่านี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ เพียงอาศัยความกล้าหาญและความมุ่งมั่น

ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือก บางพื้นที่ก็มีผู้สมัครที่ซ้อนกัน ส่วนจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต หรือไม่ ก็ต้องพิจารณาเรื่องความเหมาะสม ส่วนบัญชีรายชื่อ 100 คน ก็จะรวบรวมบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่เข้าใจวิถีโลกยุคใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]