ชวนใช้บริการ e-Service ภาครัฐ ครอบคลุมงาน 3 ด้าน

ทำเนียบ 15 ม.ค.- รัฐบาลเชิญชวนประชาชนและผู้ประกอบการใช้บริการ e-Service ภาครัฐ สำนักงาน ก.พ.ร. รวบรวม 725 งานบริการ ครอบคลุมงาน 3 ด้าน บริการเพื่อประชาชน แรงงาน และบริการผู้ประกอบธุรกิจ/เอสเอ็มอี ไว้ให้ครบจบในที่เดียว


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ นำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้สำหรับบริการ รวมถึงการปรับปรุงระบบการติดต่ออนุญาตต่างๆ ให้อยู่ในรูปบริการอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Service เพื่ออำนวยความสะดวกลดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ

โดยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้รวบรวมระบบบริการ e-Service ที่ส่วนราชการและหน่วยงานรัฐได้พัฒนาขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ไว้ในที่เดียวรวม 725 งานบริการ ครอบคลุมงานบริการ 3 ด้านหลัก ซึ่งรัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนและผู้ประกอบการเลือกใช้บริการได้เพียงคลิ๊กเข้าไปที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ลิงค์ http://bit.ly/3veQn5L หรือสแกนคิวอาร์โค้ด แล้วเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า e-Service ภาครัฐทั้ง 725 งานบริการ แยกเป็นบริการ 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย ด้านที่1 งานบริการเพื่อประชาชน รวม 82 บริการ แยกเป็นงานบริการย่อยอีก 8 ด้าน ได้แก่ 1)ด้านสวัสดิการภาครัฐและการขอความช่วยเหลือ 10 งานบริการ 2) ด้านการขนส่ง คมนาคม และการเดินทาง 13 งานบริการ 3)ด้านที่ดิน ภาษี และธนาคาร 10 งานบริการ 4)ด้านสาธารณูปโภคและการขอใช้ที่สาธารณประโยชน์ 11 งานบริการ 5)ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม 15 งานบริการ 6)ด้านการสอบ การศึกษา 4 งานบริการ 7)ด้านทะเบียนราษฎรและตรวจสอบข้อมูล 16 งานบริการ และ 8)ด้านสุขภาพ 3 งานบริการ

สำหรับด้านที่2 บริการด้านแรงงานหรือส่งเสริมการมีงานทำรวม 98 งานบริการ แยกเป็นงานบริการย่อย 4 ด้าน ได้แก่ 1) บริการด้านประกันสังคม 12 งานบริการ 2) ด้านการส่งเสริมอาชีพ และการฝึกอบรม 15 งานบริการ 3) บริการด้านการขึ้นทะเบียนและการขอใบประกอบวิชาชีพ 39 งานบริการ และ 4)ด้านการสอบ การศึกษา 32 งานบริการ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ด้านที่3 งานบริการผู้ประกอบธุรกิจ/SMEs รวม 545 งานบริการ แยกเป็นงานบริการย่อย 6 ด้าน ได้แก่ 1)ด้านการขออนุญาตและจดทะเบียน 248 งานบริการ 2)ด้านการขออนุญาตเกี่ยวกับวัตถุอันตราย 68 งานบริการ 3)งานบริการด้านสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า 9 งานบริการ 4)ด้านการเงิน ภาษี และสิทธิประโยชน์ 82 งานบริการ 5)บริการด้านการส่งออก-นำเข้า 86 งานบริการ และ 6)ด้านการรับรองมาตรฐานและตรวจสอบข้อมูล 52 งานบริการ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด

ขับรถชนคน

คนร้ายขับรถชนกลุ่มคนในตลาดคริสต์มาสเยอรมนี ดับ 2 ราย

คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนกลุ่มคนจำนวนมากที่จับจ่ายซื้อของและเที่ยวชมตลาดคริสต์มาสในเยอรมนีในช่วงเย็นวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น