ลุ้น! ศาล รธน. ตีความสูตรหาร 100

กทม. 30 พ.ย.-ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม และลงมติในคำร้องที่ยื่นให้วินิจฉัยร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมในเวลา 9.30 น. ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาลงมติคำร้องที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ส่งความเห็นของ ส.ส.และ ส.ว. รวม 105 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 132 ว่าร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 25 และมาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่


ซึ่งเรื่องนี้ผู้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มองว่า การที่ร่างกฎหมายเลือกตั้งพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน มีเหตุควรสงสัยว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐใช้วิธีถ่วงเวลาประชุม จงใจให้กฎหมายไม่เสร็จในกรอบเวลา เพราะมีความได้เปรียบและมีผลประโยชน์ร่วมกัน จึงใช้เทคนิคทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ขัดต่อเจตนารมณ์ของการกำหนดกรอบเวลาเพื่อให้รัฐสภาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการพิจารณากฎหมาย ไม่ใช่ให้ใช้เทคนิคทำให้ร่างกฎหมายที่ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 ต้องตกไป แล้วกลับไปใช้แบบหาร 100 จึงไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น หากต้องเลือกตั้งใหม่บางหน่วยก่อนประกาศผล ห้ามนำคะแนนแบบเขตที่ต้องเลือกตั้งใหม่มาคำนวณหา ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมี และจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองจะได้รับ โดยการแก้ไขครั้งนี้ ไม่ได้มีข้อห้ามดังกล่าว ซึ่งผู้ร้องเห็นว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่า ถ้าต้องเลือกตั้งใหม่ก่อนประกาศผล การคำนวณ ส.ส.พึงมี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคพึงได้รับให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.


รวมถึงประเด็นที่ระบุว่า ภายใน 1 ปีหลังจากเลือกตั้ง ถ้ามีผู้สมัคร ส.ส.ทุจริตการเลือกตั้ง หรือต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต เพราะการเลือกตั้งในเขตนั้นไม่เป็นไปโดยสุจริต ให้คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ โดยห้ามนำคะแนนเดิมมาคำนวณรวมด้วยนั้น ผู้ร้องมองว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

สำหรับแนวทางการวินิจฉัย หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เนื้อหาในร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และกระบวนการตราเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ก็จะแจ้งผลต่อประธานรัฐสภา ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถนำร่างกฎหมายนั้นขึ้นทูลเกล้าฯ และเดินหน้าตามกรอบเวลาไปสู่การเลือกตั้งได้ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวตกไปทั้งฉบับ โดยเฉพาะสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่หารด้วย 100 ก็จะไม่ถูกใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย