กทม. 26 พ.ย.- รองโฆษกรัฐบาลเผย ศอ.บต. จับมือ “เชฟชุมพล” สร้างเชฟและรังสรรค์เมนูเด็ดสู่ตลาดโลก เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ได้รับทราบถึงความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับเชฟชุมพล แจ้งไพร ในการการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาบนพื้นฐานศักยภาพ ความต้องการและอัตลักษณ์ของพื้นที่-ประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ จากการที่เชฟชุมพล ได้รังสรรค์เมนูอาหารใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยมของท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบของอาหารเสิร์ฟแก่ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ เอเปค 2022 ที่ผ่านมา ทำให้ “ปลากุเลาตากใบและไก่เบตง” เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ประชาชนอยากลิ้มลองและมีการสั่งซื้อจากร้านในพื้นที่จำนวนมาก เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จในการโปรโมต Soft Power ท้องถิ่น
สำหรับความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น ในเบื้องต้น นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้ประชุมหารือร่วมกัน และได้วางแนวทางไว้ทั้งระยะสั้นและยาว สิ่งที่ผลักดันได้เลย คือ
- การส่งเสริมการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ฮาลาลที่ผลิตจากพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และการซื้อขายโดยตรงโดยมีบริษัท ไปรษณีย์ไทย เข้ามีส่วนร่วมในการจัดส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อต่อไป
- การพัฒนาศักยภาพของประชาชนที่มีอายุระหว่าง 18-40 ปี เพื่อปั้นเป็น “เชฟอาหารฮาลาลระดับช้างเผือก” ที่มีศักยภาพตามหลักการ ครัวอาหารฮาลาลจังหวัดายแดนภาคใต้ สู่ครัวอาหารฮาลาลโลก ซึ่งขณะนี้ มีการเสนอการจ้างงานเชฟอาหารฮาลาลไทยไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย และประเทศซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ เชฟชุมพลจะได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนทำอาหารประมาณ 100 เมนูที่เป็นความสนใจและมีจำนวนลูกค้าต้องการรับประทานเป็นจำนวนมาก ใช้ระยะเวลาในการฝึกประมาณ 6 เดือน คาดว่าภายในปี 2566 จะพัฒนาเชฟอาหารฮาลาลที่ผ่านการฝึกอบรมได้จำนวน 1,600 คน
- การค้นหาวัตถุดิบ ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะมาพัฒนาเป็นเมนูอาหาร เพื่อสร้างมูลค่าของวัตถุดิบทางอาหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับระยะต่อไป ศอ.บต. และเชฟชุมพล พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะผลักดันต้นแบบโรงงานผลิตอาหาร และโรงงานเเช่เเข็งที่มีมาตรฐานอาหารสากลและมาตรฐานฮาลาล รวมถึงการพัฒนา Kios สินค้าและอาหารต่าง ๆ ไปวางจำหน่าย ณ ประเทศโลกมุสลิม การทำงานส่วนนี้ จะได้นำศักยภาพของนักเรียนไทยที่เดินทางไปเรียนต่อยังโลกมุสลิม เช่นประเทศซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ กาตาร์ จอร์แดนและอื่น ๆ เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์เมืองแห่งอาหารฮาลาลจังหวัดชายแดนใต้
“การดำเนินการทั้งหมดข้างต้น ทางศอ.บต.จะจัดทำแผนปฏิบัติการโดยละเอียด และนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี อีกครั้งในวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ในการแถลงผลงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปี 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล” นางสาวรัชดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย