คนไทยต้องรักกัน ต้องภูมิใจในแผ่นดิน

เพชรบูรณ์ 24 พ.ย.-นายกฯ KICK OFF ยกระดับชาวนาเพชรบูรณ์ ย้ำทำเกษตรต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย บอกคนไทยต้องรักกัน ภูมิใจในผืนแผ่นดิน ย้ำไม่เป็นศัตรูกับใคร อ้อน “เห็นใจกันบ้างไหมจ๊ะ”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี KICK OFF มาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/2566  โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณทุกคน วันนี้ได้เห็นการต้อนรับที่อบอุ่น ขอบคุณบรรดาผู้นำหลายกลุ่มด้วยกันที่มาในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร ประชาชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ตนมาเพชรบูรณ์หลายครั้ง ไม่เคยผิดหวัง ทุกคนมีความรักความสามัคคีกันดีมาก ๆ ขอบคุณทุกท่านด้วยใจจริง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาพบเกษตรกรผู้ปลูกข้าวชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ และได้ไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์มาแล้วด้วยความสบายใจ และขอพรให้ประเทศชาติ ประชาชนทั้งชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์  ซึ่งเป็นคติพจน์ในใจของตนตลอดมา วันนี้มาในนามของนายกฯ หัวหน้ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผมมาในนามรัฐบาลและทุกโครงการตนเป็นคนนำเข้าครม. และพิจารณาร่วมมือกันในการอนุมัติ และพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็เป็นรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบด้วยในการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐทั้งหมด สิ่งที่ต้องการคือความเข้าใจระหว่างกัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาพบปะเกษตรกรและยินดีที่ได้มามอบเงินให้เกษตรกรชาวนาในโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/2566 ตลอดจนมาตรการคู่ขนาน เพื่อจะเป็นกำลังใจให้เกษตรกร ในการรักษาเสถียรภาพในเรื่องราคาข้าว เพื่อมีรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน และจะไม่ขอพูดตามที่ได้มีการเตรียมคำกล่าวเอาไว้ให้ แต่จะพูดในสิ่งที่คิดและทำ รวมถึงสิ่งที่พยายามเดินหน้ามา ทุกคนทราบดีว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากมาย โดยเฉพาะการเกษตร เราเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก แต่ต้องพัฒนาปรับปรุง ซึ่งจะต้องบริหารจัดการให้ไทยเป็นผู้นำการผลิต และการตลาดข้าวและรวมถึงผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะทำอะไรก็ตามจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย แม้กระทั่งการประกอบการของบริษัทและห้างร้าน จะต้องคำนึงถึงผู้บริโภค ตลาดและสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้สร้างผลกระทบต่อสภาพอากาศ เพราะปีนี้สังเกตดูแล้วจะเห็นว่าอะไรเปลี่ยนไปโดยเฉพาะสภาพอากาศหน้านี้เป็นฤดูหนาว แต่ฝนก็ตกบ่อย มีร่องความกดอากาศมรสุมต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และต่างประเทศก็ได้รับผลจากภัยพิบัติมากขึ้น ทั้งดินถล่ม แผ่นดินไหว และสึนามิ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในหลายกับประเทศ แม้กระทั่งในอาเซียน เมื่อย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทยเราบ้านเราจะไม่เจอแบบนั้น บ้านเราจะไม่เจอแบบนั้น เพราะเป็นพื้นที่การเกษตร เราไม่มีภูเขาไฟ เราเป็นแผ่นดินแห่งความร่มเย็น และสงบสุขเหมาะกับการเกษตร แต่จะทำการเกษตรอย่างไรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

“ปัจจุบันจะต้องคิดให้ไกลกว่าเดิม ซึ่งปัญหาการเกษตรวันนี้อยู่ที่ราคาเป็นหลัก จึงต้องย้อนกลับมาดูว่าจะทำอย่างไร ให้มีการใช้ต้นทุนน้อยที่สุด แต่ถ้าใช้กลไกเดิมเหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี้ทั้งปุ๋ย ยาและสารเคมี ค่าจ้างไถห ว่านทุกอย่างเป็นต้นทุนทั้งสิ้น พอขายทำให้ได้ราคาไม่มาก จึงต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ตนได้พูดคุยในที่ประชุมเอเปค สิ่งแรกที่อยากจะบอกคือจงภูมิใจในผืนแผ่นดินไทยให้มากที่สุด เป็นดินแดนแห่งความสุขสงบและสันติใต้ร่มพระบารมี พระบรมมาโพธิสมภาร และอยู่ในร่มเงาของศาสนาทุกศาสนาที่อยู่ร่วมกันได้ คนไทยแตกแยกกันไม่ได้ ถ้าแตกแยกกันเมื่อไหร่ ศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันที่มีอยู่จะหมดไปทันที ฉะนั้น สิ่งสำคัญต้องเริ่มจากตัวเราไปสู่ชุมชนและสังคม และไปถึงระดับประเทศ ต้องรักกัน นั่นคือประเด็นที่สำคัญที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ว่าจะตนหรือใครก็ตาม ต้องทำให้สิ่งเหล่านี้เข้มแข็งขึ้น เติบโตขึ้น รวมพลังให้มากยิ่งขึ้น เดินหน้าประเทศต่อไปเรา ทำแบบเดิมทั้งหมดไม่ได้อยู่แล้ว ก็คาดหวังว่าที่ทำให้ได้ในวันนี้นั้นจะเป็นพื้นฐาน และเป็นแนวทาง มีอะไรที่ดีกว่านี้ไปเรื่อยๆ วันนี้พูดเฉพาะข้าว แต่ต้องไปดูแลพืชถึง 6 ชนิด ซึ่งใช้งบประมาณมากขึ้นทุกปี วันนี้โชคดีที่ยังอยู่ในกรอบและราคาข้าวสูงขึ้น นอกจากเกษตรกรแล้วยังมีธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องดูแล ตนเข้าใจในความลำบาก ประชาชนลำบาก ตนก็ยิ่งลำบากกว่า แต่อาจจะไม่ลำบาก เหนื่อยกาย เหนื่อยใจเท่า แต่เหนื่อยตรงที่จะแก้ปัญหาให้อย่างไร

“นั่นคือหัวใจของคนที่เป็นรัฐบาล จะต้องนึกถึงประชาชนให้ได้มากที่สุดและหาวิธีการที่จะทำให้ได้ แต่จะได้มากได้น้อยต้องเข้าใจกัน อยากให้ทุกคนยิ้มแบบนี้ทั้งประเทศ จะทุกข์จะสุขก็ยิ้มให้กัน ยิ้มแย้มแจ่มใสความทุกข์เก็บไว้แล้วค่อยๆแก้ ค่อยๆระบาย แต่ถ้าระบายออกด้วยความเกลียดชังซึ่งกันและกัน  มันไม่มีอะไรจะดีขึ้น นอกจากปลูกฝังความเกลียดชังไปเรื่อยๆ และเราก็ทรมาน ยืนยันว่าผมไม่ใช่ศัตรูกับใครทั้งสิ้น ทั้งนี้ ทุกอย่างที่พูดไปเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของผมตั้งแต่มาเป็นนายกฯตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้และคงอยู่ไปอีกนาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ระหว่างนั้นชาวบ้านปรบมือและส่งเสียง ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปตีความผิดว่าตนจะอยู่อีกนาน เดี๋ยวเป็นเรื่องอีก ทำงานจนลืมวัน เดือน ปี นาฬิกาไม่เคยดู วันข้างหน้าต้องไปคิดต่อว่าจะทำอย่างไร ถ้าเราแตกแยกกันไปเรื่อย ๆ มากขึ้น แล้วจะได้ข้อยุติอะไร จึงต้องไปแก้ปัญหาที่ความยากจน โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ และเงินทั้งหมดไม่ใช่เงินของตนหรือธนาคาร แต่เป็นเงินของประชาชน รัฐบาลต้องมารับผิดชอบเงินงบประมาณก้อนนี้ เพราะต้องใช้หนี้ธนาคาร

“วันนี้ที่มามาเพื่อให้เห็นหน้าเห็นตาและทำสัญญาใจว่าเราจะช่วยกันทำให้ประเทศเติบโตและปลอดภัย เป็นประเทศที่มีสุขภาพจิตที่ดี ต้องใช้เวลาไม่ใช่ 1 ปี หรือ 2 ปี ที่ผมอยู่มาวันนี้ หลายปีก็ทำอะไรได้เยอะพอสมควร นี่ไม่ได้พูดว่าอยากหรือไม่อยากอยู่อะไรทั้งสิ้น ไม่เกี่ยว เดี๋ยวจะตีความกันผิดอีก สุขก็ยิ้ม ทุกข์ก็ยิ้มและที่ผมยิ้ม อยู่ในใจก็ร้อนอยู่ ขอให้รวมพลังกันให้ได้ ถ้าทุกคนประท้วงกันไปมาก็ไม่ได้อะไร เพราะมีหลายคนบอกว่าถ้าประท้วงก็อาจจะได้ แต่ถ้าผิดกฎหมายก็มีปัญหา ซึ่งผมอยากให้ทั้งหมด แต่ผิดทุกอัน ผิดกฎหมาย โกรธเคืองกันไม่ได้อะไรขึ้นมา แบ่งพวก แบ่งฝ่ายก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แบ่งสีแบ่งสันพอได้แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ถามประชาชนว่า ที่ตนได้พูดไป เข้าใจบ้างหรือไม่ และว่า “เห็นใจกันบ้างไหมจ๊ะ” จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต่างคนก็ต่างเห็นใจกัน วันนี้โลกกำลังเจริญเติบโต ไปถึงเรื่องดิจิตอล แต่ก่อนเราไม่มีโทรศัพท์ใช้ วันนี้มีขอให้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็แล้วกัน อย่าไปใช้สร้างความเกลียดชัง อย่าไปใช้เพราะถูกเขาหลอก ถ้าเบอร์โทรศัพท์ไหนโทรเข้ามาไม่ขึ้นทะเบียน อย่าไปรับ ตนเองถ้าไม่มีชื่อก็ไม่รับ เพราะไม่รู้ว่าใครโทรมา การทุจริตเกิดขึ้นง่ายข้อมูลหลุดไปก็เดือดร้อน ประเภทชักชวนทางออนไลน์ไม่จำเป็นอย่าไปเปิด ซึ่งเรื่องนี้ก็พยายามปิดอยู่แต่จะทำอย่างไรเพราะต้องใช้คำสั่งศาล และเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่บ่น

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายสอบถามสารทุกข์สุขดิบประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม ประชาชนบางคนถึงขั้นเข้ามาสวมกอด และร้องไห้ดีใจที่เจอนายกรัฐมนตรีและได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ขณะที่บางคนจะลงกราบที่เท้า แต่นายกรัฐมนตรีห้ามไว้พร้อมระบุว่า “ไม่ต้องทำแบบนี้” ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ แม้จะมีการรักษาความปลอดภัย ทั้งทีมทหารและตำรวจ แต่ไม่ได้เข้มงวดเหมือนกับการลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ ประชาชนสามารถเข้ามาใกล้ชิด สวมกอดนายกรัฐมนตรี ขอถ่ายภาพ และเข้ามาร้องความทุกข์ ความต้องการต่อนายกรัฐมนตรีแบบประชิดตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์วันนี้ มีส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)มารอต้อนรับด้วย คือ นายจักรัตน์ พั้วช่วย น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์  และนายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เพชรบูรณ์.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]