นโยบายกัญชา เสรีแต่ไม่ไร้ควบคุม

รัฐสภา 24 พ.ย.-​“อนุทิน” ตอบกระทู้สด ยืนยันนโยบายกัญชา เสรีแต่ไม่ไร้การควบคุม วอนสภาฯ ผ่านกฎหมายกำกับการใช้งาน รักษาประโยชน์ประชาชน ไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด


 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎร โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายกัญชาของรัฐบาลว่าเป็นนโยบายกัญชาเสรีจริงหรือไม่ เหตุใดต้องปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด และจะมีแนวทางป้องกันการใช้กัญชาในทางที่ผิดเพื่อควบคุมผลกระทบทางสังคมอย่างไร 

นายอนุทิน ตอบกระทู้ว่า รัฐบาลมีนโยบายกัญชาเสรี แต่เป็นเสรี แบบมีการควบคุม ไม่ใช่ไร้การควบคุม รัฐบาลมีนโยบายคืนสมุนไพรกัญชาและภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้โดยมีกฎหมายกำกับ ซึ่งรายละเอียดในนโยบายเร่งด่วนข้อ 4 ของรัฐบาล ระบุว่าเป็นไปเพื่อต่อยอดภูมิปัญญาและความรู้ของปราชญ์ชาวบ้าน ในการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป รวมทั้งเร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ


“เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกําหนดให้มีกลไกการดําเนินงานที่รัดกุมเพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคม ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด นั่นคือเหตุผลที่ต้องมีพระราชบัญญัติกัญชากัญชงมาควบคุมการใช้กัญชา ซึ่งมูลค่าการตลาดของกัญชานับแสนล้านบาท เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของคนไทย ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง พรรคการเมืองหลายพรรคก็ได้มีนโยบายเกี่ยวกับกัญชาเช่นกัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

​นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากสภาฯ รับหลักการร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชง เห็นชาวบ้านแสดงออกว่าดีใจที่ผู้แทนราษฎรได้ร่วมกันรักษาประโยชน์ของประชาชน จากนั้น ร่างพระราชบัญญัติกัญชงกัญชาที่เดิมเสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ก็กลายเป็นร่างของกรรมาธิการที่มาจากสภาผู้แทนราษฎรของประชาชน โดยผู้ทรงคุณวุฒิได้รับฟังประชาชนจากทุกสารทิศ จนได้มาเป็นร่างกฎหมายของกรรมาธิการที่จะนำเสนอต่อสภาในวาระที่สอง จึงอยากให้สภาฯ คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ที่จะมีกฎหมายมาควบคุมไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด  

 ​ส่วนการปลดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5  ยกเว้นสารสกัดจากกัญชาที่มี THC เกินกว่าร้อยละ 0.2 ของน้ำหนักที่ยังคงเป็นยาเสพติด  นายอนุทิน ยืนยันว่า เป็นไปโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และประกาศของรัฐมนตรี เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย มีเหตุผลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ กัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษ ความเสี่ยงจากกัญชา มีในระดับที่ไม่รุนแรงและควบคุมได้ ไม่ต่างจากเหล้า บุหรี่ นั่นคือเหตุผลที่คืนกัญชาให้เป็นพืชสมุนไพรให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ พร้อมย้ำว่า ผลของการปลดกัญชาจากยาเสพติดนั้น ทำให้ประชาชนมีโอกาส เข้าถึงกัญชาและใช้ประโยชน์ได้ตามกฎหมายที่ออกมากำกับ


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การถอดกัญชาจากยาเสพติดได้ลบอุปสรรคที่เป็นข้อจำกัดในการศึกษาวิจัย พัฒนา เทคโนโลยีการใช้กัญชากัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน หน่วยงานของรัฐและเอกชนไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวหรือตั้งงบประมาณเพื่อศึกษาวิจัยพัฒนากัญชา หากยังเป็นยาเสพติด ในขณะที่การถ่ายทอดภูมิปัญญาไทย การต่อยอดองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทย ตำรับยาหมอพื้นบ้านของไทยที่ใช้กัญชาซึ่งมีมานานกว่า 300 ปี ก็สูญหายไป ไม่มีการพัฒนาไม่มีการสืบทอด เพราะกัญชาถูกแปะฉลากว่าเป็นยาเสพติด

“มีการศึกษาว่าตลาดกัญชาในประเทศไทยมีมูลค่าสูงกว่า 28,000 ล้านบาทในปี 2565 และภายใน 3 ปี จะมีมูลค่ามากกว่าห้าหมื่นล้านบาท ​“ถ้านำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ตามที่มีหลายท่านให้คำแนะนำมา ก็จะทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจนี้หดตัวไป ทำให้ความมั่นใจลดน้อยถอยลง โอกาสในการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวก็จะลดน้อยถอยลงไป” นายอนุทิน กล่าว

 ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางป้องกันการใช้กัญชาในทางที่ผิดเพื่อควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยย้ำว่าการมี พ.ร.บ.กัญชากัญชง จะเป็นการกำกับควบคุมการใช้ประโยชน์จากกัญชาได้อย่างสมบูรณ์ตามการพิจารณาของสภา เมื่อกัญชาถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดแล้วนั้น ระหว่างพิจารณาพ.ร.บ.ซึ่งกินเวลานานกว่าที่คาดไว้ ก็ยังมีกฎหมายระดับรอง คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขมาบังคับใช้ ยังสามารถควบคุมการใช้ในทางที่ผิดได้ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเมื่อเทียบกับยาเสพติดประเภทอื่น ในวันนี้ก็ไม่ควรเทียบแล้ว เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด มีกฎหมายระดับรองกำกับดูแล เช่น ห้ามสูบกัญชาในที่สาธารณะ ห้ามใช้ดอกกัญชาปรุงอาหาร  ห้ามจำหน่ายกัญชาให้นักเรียนนักศึกษา เด็กมีอายุต่ำกว่า 20ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร

นายอนุทิน กล่าวว่า มีประกาศที่ระบุว่าผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาต้องแจ้งต่อกรมอนามัยและแสดงสัญลักษณ์ให้ผู้บริโภคทราบ ผู้นำกัญชาไปผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องขออนุญาตอย. และส่งผลการศึกษามาตรฐานความปลอดภัย ผู้ที่ฝ่าฝืนปฏิบัติขัดต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข มีโทษทั้งจำและปรับ และล่าสุดคือประกาศสมุนไพรควบคุมฉบับปรับปรุง ที่เน้นคุมเข้มช่อดอก ซึ่งเป็นส่วนที่สังคมกังวลมากที่สุด ส่วนอื่นๆของกัญชา ได้แก่ ลำต้น เส้นใย กิ่ง ก้าน ราก ใบ นั้น ไม่เป็นยาเสพติดมาตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2563 แล้ว เนื่องจากมีผลการศึกษาชี้ชัดว่าส่วนอื่นๆ ของกัญชา ที่ไม่ใช่ช่อดอก มีสารที่เป็นอันตรายต่ำ และไม่จัดเป็นยาเสพติด ตามนิยามขององค์การอนามัยโลก ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ตามการกำกับของประกาศที่เกี่ยวข้อง​

​“ผมมั่นใจว่าตั้งแต่ดำเนินนโยบายให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจนั้น ยังไม่มีปัญหาที่ควบคุมไม่ได้ มีคนที่ขายอย่างจดทะเบียนถูกต้อง ส่วนคนที่แอบขาย หรือคนจงใจทำผิดกฎหมาย ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ เข้า ก.มหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

ก.มหาดไทย 26 ก.ย.-“อนุทิน”​ เข้ากระทรวงมหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ บอก​พักร้อนไป 2 เดือน มีความพยายามใช้อำนาจการเมืองโยกย้ายข้าราชการ ย้ำ​ถ้าวันนั้นไม่จากไป​ คงไม่มีวันนี้ที่กลับมา​ ขอ​ยึดหลักซื่อสัตย์-สุจริต ไม่เกรงกลัวอำนาจใด พร้อมรักษาความสัมพั​นธ์ ​สนับสนุนงานกัน​ ก่อนทิ้งท้ายเนื้อเพลง​ “บอกที่แล้วก็แล้วไป” เมื่อเวลา 14.50 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และนางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ​ เพื่อมอบนโยบาย​ โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ ​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​ พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ “ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ […]

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]