รัฐบาลพร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางรถไฟฟ้าอาเซียน

ทำเนียบรัฐบาล 15 พ.ย.-นายกฯ เปิดสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นจุดที่ 69 โชว์รถ BMW i7 ไฟฟ้าที่ใช้รับผู้นำเอเปค ดันไทยเป็นศูนย์กลางรถไฟฟ้าของอาเซียน บอกสื่ออดใจรอต่อไปราคาจะหลากหลายขึ้น ขอความร่วมมือเดินหน้าประเทศชาติ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นตัวอย่างการสนับสนุน ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในหน่วยงานราชการและยกระดับการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ EV ให้เป็นวาระสำคัญแห่งชาติ โดยมีนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าร่วม พร้อมมีการนำรถ BMW รุ่น i7 ซึ่งเป็นรถที่ใช้ต้อนรับผู้นำในการประชุมเอเปค และ Mercedes-Benz EQS ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ประกอบในประเทศไทย มาประชาสัมพันธ์ด้วย โดยมีราคากว่า 8 ล้านบาท วิ่งได้ 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 

“ในนามของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาลมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นนโยบายของเราที่ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและภาคเอกชนช่วยกันทำเรื่องของการลดภาวะโลกร้อนและก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเรามีแผนงานที่ชัดเจน  ในส่วนของประเทศไทยน่าจะเป็นแบบอย่างได้ เพราะเรามีมาตรการส่งเสริมหลายมาตรการ โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการ จึงทำให้เกิดการลงทุนมากขึ้นในประเทศไทยในระยะต่อไป การใช้รถยนต์ไฟฟ้า การประกอบการจัดทำแบตเตอรี่ เพื่อให้ครบวงจร วันนี้ต้องมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถไฟฟ้าที่สำคัญในอาเซียนและในโลกด้วย วันนี้ได้รับความร่วมมือและความสนใจจากภาคธุรกิจจากหลายบริษัทและหลายประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กฟผ.นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติและอยากให้เป็นแบบอย่าง ซึ่งที่ผ่านมาพยายามส่งเสริมการจัดตั้งสถานีบรรจุไฟฟ้าในหลายพื้นที่และจะให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต้องช่วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามสื่อมวลชนว่ามีรถไฟฟ้าใช้หรือยัง ซึ่งสื่อมวลชนตอบว่า ยัง นายกรัฐมนตรี บอกว่า ขอให้รออีกสักระยะ ในอนาคตรถไฟฟ้าจะมีราคาหลากหลาย เพื่อจะได้เข้าถึงคนไทยที่มีรายได้ที่แตกต่างกัน และขอให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ถ้ามีความพร้อมทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปได้ ซึ่งประเทศไทยมีโอกาสอีกมาก หลายเวทีโลกพุ่งเป้ามาที่ประเทศไทย และหลายเรื่องที่เราปรับกติกากฎระเบียบเพื่อการส่งเสริมอะไรก็ตามที่เป็นวาระโลก และความเดือดร้อนของประชาชนคนไทย

“ขณะนี้สิ่งที่จะยกระดับประเทศไทยได้คือการประชุมเอเปคและการประชุมอาเซียน ต้องได้ประโยชน์จากการเจรจาข้อตกลงต่าง ๆ ที่มีอยู่ระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎกติกา การนำเข้าการส่งออก การอำนวยความสะดวก การค้าขายเศรษฐกิจให้มีความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งทุกอย่างกำลังเดินหน้าอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ สิ่งดีดีกำลังจะเกิดขึ้นซึ่งใช้เวลามานานพอสมควรไม่ได้ที่กว่าจะถึงวันนี้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าทั้ง 2 คัน พร้อมสอบถามถึงสมรรถนะของรถและพูดคุยหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า หากใครสนใจจะชื้อให้จองได้ ให้เก็บเงินไว้ก่อน มีราคา 7 ล้านบาท กับ 8 ล้านบาท พร้อมกล่าวว่า “ที่ชาร์จรถไฟฟ้า ชาร์ตคนไม่ได้ใช่หรือไม่ ซึ่งนายกฯ เอง ก็ต้องชาร์จตัวเองเหมือนกัน เพราะในช่วงเอเปคทำงานติดต่อกันหลายงาน”


เมื่อถามว่า วันหยุดนายกรัฐมนตรีขับรถเองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ค่อยได้ขับ จากนั้นจึงขึ้นตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานการประชุมครม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ในพื้นที่ลานจอดอาคารกองบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นลำดับที่ 69 สามารถให้บริการชาร์จได้  4 ช่องจอด ประกอบด้วย 1.เครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จด้วยความเร็วปกติ AC Normal Charge ขนาด 22 kW 2 ช่องจอด  ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3ชั่วโมงในการชาร์จ และ 2.เครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว DC Fast Charge ขนาด 60 kW 2 ช่องจอด  ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการชาร์จ.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]