กรุงเทพฯ 4 พ.ย.-“ทนายบิลลี่” ลาออก “พรรคก้าวไกล” พ้นสภาพ ส.ส. ระบุ ขอเวลาทบทวนเส้นทางการเมือง ยังไม่ตัดสินใจร่วมพรรคการเมืองใด
นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “วันนี้ถือว่าเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของผมในสมัยสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมานับว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าทางการเมืองของผม ชีวิตชื่นชอบการเมืองและติดตามการเมืองมาโดยตลอดไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสก้าวย่างมาสู่เวทีแห่งการปฏิบัติจริง ก่อนจะเข้ามาเป็นผู้แทนหลังจบเนติบัณฑิตคิดเสมอว่าชอบงานกฎหมาย ต้องเป็นทนายความ แล้วก็เป็นผู้พิพากษา แต่สุดท้ายจังหวะของชีวิตได้ให้โอกาสเข้ามาเป็นผู้แทน
อย่างแรกต้องขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล และคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ได้ให้โอกาสผมเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้สมัครของพรรค จนได้มีโอกาสมาเป็นผู้แทนที่ทำงานทั้งในสภา และนอกสภา ทั้งการได้มีส่วนสำคัญในการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าไปนั่งอยู่ในกรรมาธิการวิสามัญที่สำคัญอย่างการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงบทบาทต่างๆ ภายในพรรค ตลอดจนการลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ ผมจะยังคงระลึกและเก็บคุณค่า และสิ่งที่มอบหมายหน้าที่ดังกล่าวนั้นๆ ให้กับผมนับว่าเป็นสิ่งที่มีความหมายกับผมมาก และทำให้ผมได้มีประสบการณ์และมุมมองต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นเกี่ยวกับการเมืองไทย
สิ่งที่ทำให้ผมซึมซับกับการเป็นผู้แทนในช่วงบริบทการเมืองที่ผ่านมานั้น บ้านเมืองของเราจะมั่นคง เศรษฐกิจจะยั่งยืนและเติบโตได้ ต้องปกครองประเทศชาติด้วยกลไกของประชาธิปไตย และมีผู้นำที่เก่ง มีวิสัยทัศน์ในระดับนานาชาติ โดยตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีการรัฐประหาร การเมืองของเราย่ำอยู่กับที่ มีแต่ความขัดแย้ง ประชาชนยากจน ความเหลื่อมล้ำของเราสูงขึ้น ทำให้สังคมและประชาชนต่างมีประสบการณ์ร่วมกันว่าผู้นำและผู้บริหารประเทศ ตลอดจนองค์กรทางการเมืองอย่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องมีพื้นฐานที่มาตามครรลองของประชาธิปไตยโดยประชาชน และมีรัฐธรรมนูญที่มีฐานรากของประชาธิปไตยที่แท้จริง และสำคัญที่สุดคือต้องสามารถปรับกระบวนทัศน์ทางการเมืองที่สามารถหลอมรวมกลุ่มต่างๆ ทางสังคมและการเมืองให้มาสมัครสมานสามัคคีเพื่อให้บ้านเมืองรอดพ้นจากความขัดแย้ง และวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่นี้ไปให้ได้
ดังนั้นแม้วันนี้ผมจะได้เดินออกมาจากพรรคก้าวไกลแล้วแต่ผมก็จะขอขอบคุณในมิตรภาพและประสบการณ์ร่วมทางการเมืองที่ผ่านมากับพรรคอีกครั้งในย่อหน้าสุดท้ายนี้ ส่วนชีวิตการเมืองของผมจะไปในทางไหนผมก็ขอใช้เวลาคิดทบทวนอีกครั้ง
แต่หนทางที่ตัดสินใจแน่นอนคือพรรคนั้นจะมีจุดร่วมและอุดมการณ์ทางการเมืองที่มีห้องของหัวใจส่วนหนึ่งเหมือนพรรคก้าวไกล คือเข้าใจคนรุ่นใหม่ มีความทันสมัย มีความคิดที่ก้าวหน้า และวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล ยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งครับ .-สำนักข่าวไทย