ชุมพร วันนี้ ( 28 ต.ค.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน นำร่องหารือจังหวัดชุมพร รับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร หวังบูรณาการภาครัฐดันเป็นต้นแบบมหานครแห่งสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ส่งออกระดับโลก
นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยที่ปรึกษา และคณะ ประชุมร่วมกับนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณาในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มไม้ผลซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจ จึง โดยได้เลือกจังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดนำร่อง ในการรวบรวมข้อเท็จจริงด้านมาตรฐานการเกษตร เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย การลงพื้นที่ครั้งนี้ มุ่งเน้น 2 วัตถุประสงค์หลัก คือด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรในภาพรวม มุ่งหาแนวทางการจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานและเกษตรกรให้มีความคล่องตัว ในการประกอบการและพัฒนาคุณภาพสินค้าออกสู่ตลาดได้มากยิ่งขึ้น โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.สินค้าเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ จะพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะแยกเฉพาะสำหรับกลุ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานของสินค้าเกษตรอินทรีย์ หรือ มาตรฐานเกษตรอินทรีย์นานาชาติ เน้นด้านกระบวนการเพาะปลูกเพื่อการส่งออก และ 2. สินค้าเกษตรที่ยังจำเป็นต้องใช้สารเคมีในระดับหนึ่ง แต่ไม่เป็นอันตราย หรือที่เรียกว่า สินค้าเกษตรปลอดภัย
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะเป็นองค์กรกลางในการสะท้อนปัญหา หารือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการเสนอแนะหาทางออกเพื่อขจัดข้อขัดข้องที่เป็นปัญหา เช่น ปัญหาการรอการตรวจรับรองมาตรฐาน ซึ่งใช้เวลามากทำให้การส่งออกไม้ผล ซึ่งมีอายุจำกัด ระบายสู่ผู้บริโภคล่าช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินค้า รวมถึงเชื่อมโยงความรู้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน มาสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาคุณภาพการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่ายกระดับมาตรฐานของสินค้าในพื้นที่ รวมถึงช่องทางการจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยขยายช่องทางการตลาดให้เป็นระบบ และหลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงให้มีชุมชนเกษตรอินทรีย์ ให้ความสำคัญ และกฎหมายคุ้มครองพื้นที่เกษตรอินทรีย์ เพื่อเป็นกันชนระหว่างแปลงเกษตรที่ยังใช้สารเคมีกับแปลงเกษตรอินทรีย์ และมุ่งส่งเสริมสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง โดยผู้ตรวจการแผ่นดินจะนำข้อมูลจากการลงพื้นที่สรุปประกอบการพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะขยายผลเป็นต้นแบบในภาพรวมระดับประเทศต่อไป
“จังหวัดชุมพร ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ สามารถเป็น มหานครแห่งสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ มีกลุ่มชุมชนในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง หากได้รับการสนับสนุนต่อยอดจากภาครัฐก็สามารถเป็นอีกหนึ่งสินค้าแบรนด์ไทยที่สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ และมีศักยภาพที่สามารถเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก และคาดว่าจะสามารถเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน ที่สามารถจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศได้ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันออกสู่ตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น” นายทรงศัก กล่าว .- สำนักข่าวไทย