ขอกตต.พิจารณาจัดว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยา

สำนักงานกกต. 25  ต.ค.-“มงคลกิตติ์” ขอกกต.อนุญาตจัดว่ายน้ำข้ามเจ้าพระยา รับเงินบริจาคช่วยประชาชน หวั่นผิดกฎเหล็ก 180 วัน เทียบเคียงเป็นประธานงานกฐิน ย้ำอยากช่วยประชาชน ไมได้อยากดัง


นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอหารือปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ ด้วยการจะจัดการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา กทม. ด้วยหัวใจ ด้วยตัวเปล่า กางเกงในว่ายน้ำตัวเดียว  ไป-กลับ ใน วันที่ 8 พ.ย.65 ซึ่งเป็นวันลอยกระทง เพื่อหารายได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่ชื่อว่า “ONE MAN ON CHAOPHRAYA  RIVER”

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตามที่ประธานกกต.ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 3)  โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา  22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการเลือกตั้งและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเกณฑ์การหาเสียงช่วง 180 วัน ก่อนสภาฯ ครบวาระ ในวันที่ 23 มีนาคม 2565 นั้น เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดเหตุการณ์วาตภัย ส่งผลให้ประชาชนหลายพื้นที่ในประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพ เพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งยังประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเสียหายจากน้ำท่วม อาหารน้ำสะอาดที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค และยารักษาโรค 


“ในฐานะ ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน จึงไม่อาจทนเห็นพี่น้องประชาชนลำบากได้ จึงมีความประสงค์ที่จะทำการช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว แต่เกรงว่าการกระทำจะขัดกับระเบียบและกฎหมายที่กล่าวมาในข้างต้นและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้กกต.วินิจฉัยในเรื่องดังต่อไปนี้  ในฐานะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ และในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ปี 2566 สามารถดำเนินกิจกรรม ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ได้หรือไม่ และสมาชิกพรรค และว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคทั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี  2566  สามารถดำเนินกิจกรรมเช่นเดียวกับตนได้หรือไม่” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

 นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมได้เปิดรับบริจาคในนามของ บุคคล องค์กร หรือมูลนิธิอื่น ๆ  ซึ่งตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่รับบริจาคหรือเส้นทางการเงินที่รับบริจาคและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการการส่งมอบเงินหรือสิ่งของต่างๆให้แก่ผู้ประสบภัยสามารถกระทำได้หรือไม่ ตามปัญหาที่ได้สอบถามเพื่อขอคำวินิจฉัยในข้างต้น  หากสามารถที่จะกระทำได้โดยไม่มีความผิดกฎหมายการเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความรวดเร็วในการเข้าถึงปัญหาและสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้  ขอทราบผลการวินิจฉัยภายใน 15 วัน

“การที่ผมมาขออนุญาต เพราะขณะนี้มีข้อกำหนดเรื่อง 180  วันอยู่ ที่ให้ ส.ส.ร่วมบุญงานกฐินได้ มีชื่ออยู่ในซองได้ เว้นแต่ห้ามจ่ายเงิน ผมจึงเห็นว่าเรื่องนี้เทียบเคียงกับการที่ผมจะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วรีบบริจาคเงิน ผ่านไปยังมูลนิธิต่าง ๆ เช่น ร่วมกตัญญู ปอเต็กตึ้ง และมูลนิธิของบุ๋ม-ปนัดดา ผมจึงเทียบเคียงกับการเป็นประธานกฐิน แต่เงินบริจาคไปที่มูลนิธิ และผมจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมทั้งจะไม่ไปยุ่งว่าจะเอาเงินไปช่วยพื้นที่ไหน  จึงอยากขอให้ กกต.พิจารณาว่าทำได้หรือไม่ เนื่องจากเมื่อเงินช่วยเหลือของรัฐบาลมีน้อย เราเป็น ส.ส.ก็นิ่งเฉยอยู่ไมได้ ก็ต้องหาช่องทางด้วยการออกแรง  เพราะเราให้เงินไม่ได้ ใช้ชีวิตเข้ามาแลก เพราะผมมองว่าการเสี่ยงภายในการว่ายข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เสียง เพราะน้ำลึก แต่คนที่เสี่ยงกว่าผมก็คือประชาชนที่จมอยู่ในน้ำ 2- 3 เมตร  หรือบ้านขวางทางน้ำ ทั้งที่น้ำเชี่ยวมาก ต้องอยู่อย่างนั้น”นายมงคลกิตติ์ กล่าว


 นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เมื่อประชาชนเสี่ยง ในฐานะผู้แทนประชาชนจะไม่เสี่ยงก็จะเป็นผู้แทนไปเพื่ออะไร จึงต้องมายื่น กกต. เข้าใจว่า กกต.ต้องยึดตามระเบียบ กฎหมายกกต. กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และ กฎหมายพรรคการเมือง แต่ทุกอย่างต้องมีวิธีการที่จะทำให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ประชาชน 4-5 ล้านคนที่เดือดร้อนอยู่ กกต.จะใจไม้ใส้ระกำ  อะไรที่มีช่องให้ประชาชนไปต่อและเดือดร้อนน้อยลง อยากให้กกต.เร่งพิจารณาภายใน 3 วันตอบคำถามผม”  นายมงคลกิตติ์  กล่าว

 เมื่อถามว่าจะเป็นการเข้าข่ายหาเสียงทางอ้อมหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า โดยปกติพรรคการเมืองต้องช่วยเหลือประชาชน เป็นตัวแทนประชาชน มันต้องหาเสียงอยู่แล้ว การที่รัฐบาลลงพื้นที่ ทุกอย่างรัฐบาลก็หาเสียงอยู่แล้ว อย่างที่รองนายกรัฐมนตรีอนุทินไปอ่างทอง ขนคน 200 คน รถนำขบวนและส่วนราชการมาเหมือนยกกระทรวงมาก   แต่มีถุงยังชีพมาแค่ 200 ส่วนตนไปแค่  5 คน และสุดท้ายก็ฝากส่วนราชการดูแล คล้ายกับนายกฯลงพื้นที่นนทบุรี  เขาเดือดร้อนกันเป็นหมื่นคน ก็ฝากให้นายก อบจ. เทศบาล ดูและ ซึ่งเหมือนการส่งต่อ  อันนั้นคือการหาเสียงหรือไม่ 

“การเป็นการพรรคการเมือง เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนก็ต้องหาเสียง ถ้าประชาชนชื่นชอบ เขาก็เลือกเอง การหาเสียงมีหลากหลาย  รูปแบบหนึ่งเอาชีวิตและความสามารถเข้าแรก สองคือไปโกงเงินเขามาแล้วมาซื้อประชาชน ไปจ้างประชาชนมาเลือก ถ้าเอาสมอง สติปัญญาเข้าแลก ก็จะใช้เงินน้อย เพราะเราขี้เกียจไปคอร์รัปชั่น”   นายมงคลกิตติ์   กล่าว

 เมื่อถามว่า อยากดังเหมือนโตโน่หรือไม่ นายมงคลกิตติ์  กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องดังตนดังมานานแล้ว  แต่การดังแล้วเป็นประโยชน์กับส่วนรวมถือเป็นเรื่องดี  อย่างโตโน่ก็ถือว่าดีในการช่วยโรงพยาบาล แต่ส่วนตนเห็นว่าเรื่องจำเป็นเร่งด่วนคือประชาชนที่ติดอยู่กับน้ำ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังยื่นหนังสือช่วงเช้า ในช่วงบ่ายนายมงคลกิตติ์จะไปหารือกรมเจ้าท่าในการขออนุญาตและดูกระแสน้ำ ในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) […]

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]