คาดหลังจากพรุ่งนี้ ไม่เกิน 15 วัน นัดวินิจฉัย

สำนักข่าวไทย 7 ก.ย.-อดีตตุลาการศาล รธน.ชี้ 8 ก.ย. วันสุกดิบ ที่ศาล รธน.นัดหารือว่าหลักฐานเพียงพอหรือไม่ คาดนัดวินิจฉัยหลังจากพรุ่งนี้ไม่เกิน 15 วัน ย้ำเป็นปัญหาข้อกฎหมาย รับฟังความเห็นต่างการเมืองพิจารณาได้ แต่นำมาตัดสินไม่ได้


นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” กรณีนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดพิเศษ พรุ่งนี้ (8 ก.ย.) เพื่อกำหนดแนวทางพิจารณากรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า พรุ่งนี้ถือเป็น “วันสุกดิบ” หมายความตามสำนวนไทยว่ายังไม่ใช่วันตัดสินจริง แต่เป็นวันเตรียมความพร้อมสำหรับวันจริงที่จะมาถึงเร็ว ๆ นี้

อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่าได้ข้อมูลครบแล้ว ก็ต้องนัดประชุมตุลาการเพื่อปรึกษาหารือว่าหลักฐานเพียงพอหรือไม่ หากส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าพอแล้วก็จะสั่งให้งดการไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม แล้วจะนัดตัดสินเลย ส่วนจะนัดตัดสินวันไหนขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องยากหรือเรื่องง่าย ซึ่งในกรณีที่เป็นเรื่องทั่วไปจะให้เวลาตุลาการแต่ละท่านใคร่ครวญ เตรียมจัดทำความเห็นของแต่ละคนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดีที่สุด เพราะจะเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์เผยแพร่ต่อสาธารณชน ส่วนใหญ่จะให้เวลาประมาณ 15 วัน


“คดีนี้มีแต่ปัญหาข้อกฎหมาย ไม่มีปัญหาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายก็มีประเด็นเดียวว่าจะเริ่มต้นนับ 8 ปีตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ แล้วท่านจะใช้เวลามากมายกันไปทำไม เราก็คาดว่าท่านน่าจะใช้เวลาสัก 7 วัน ไม่เกิน 15 วัน นี่เป็นความคาดหวังของคนที่มองจากภายนอก จากเหตุการณ์ที่เห็นว่าเดินมาตามขั้นตอนต่าง ๆ จากที่เผยแพร่กันออกไปทางสื่อ ก่อนหน้านี้และมาถึงรอบ semi Final เพื่อจะต่อไปถึงวันนัดตัดสิน ถือว่าจบแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องไปคุยตอบกับประชาชน ประชาชนก็รู้ นักกฎหมายส่วนใหญ่ก็รู้” นายจรัญ กล่าว

ส่วนกรณีที่คำชี้แจงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เผยแพร่ออกมานั้น อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ตามหลักการวินิจฉัยคดีของตุลาการ ไม่ว่าศาลไหน หลักการที่จะต้องใช้เป็นอันดับแรกในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย คือ บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยต้องหาหลักพื้นฐานหรือตัวชี้วัดตัวที่ 2 เข้ามาประกอบด้วย ได้แก่ การค้นหาเจตนารมณ์ของกฎหมาย แต่ต้องไม่ใช่ความคิดเห็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และไม่ใช่เจตนาหรือความต้องการของคนที่บัญญัติกฎหมายขึ้น แต่ความคิดเห็นและความต้องการของคนที่บัญญัติกฎหมายสามารถนำมาเป็นข้อมูลที่ 3 ประกอบได้ แต่น้ำหนักไม่ได้ดีไปกว่าข้อกฎหมายและเจตนารมณ์  ซึ่งในที่นี้ต้องหมายถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้งคณะ

“ส่วนข้อมูลอันดับ 4 ความคิดเห็นและข้อมูลของประธานหรือกรรมการ คณะผู้จัดทำกฎหมายนั้น ซึ่งสิ่งที่ฮือฮาในโลกโซเชียลคือความเห็นของนายมีชัยคนเดียว ไม่ใช่มติของ กรธ.ทั้งคณะ จึงถือว่าเอามาใช้ได้ แต่เป็นลำดับที่ 4 ส่วนความเห็นของบุคคลที่ไม่ได้ร่วมจัดทำกฎหมาย แต่เป็นเอกสารที่ฝ่ายนิติบัญญัติจัดทำเก็บไว้ในกระบวนการถกแถลง อภิปรายโต้แย้งในคณะผู้จัดทำกฎหมาย หรือถ้าเทียบก็เป็นบันทึกการประชุมครั้งสุดท้ายของ กรธ. ซึ่งได้ข้อมูลใหม่มาว่ายังไม่มีการรับรองบันทึกการประชุมนั้น ซึ่งตรงนี้แทบจะหมดน้ำหนักไปเลย” นายจรัญ กล่าว


ส่วนกรณีความเห็นของนักวิชาการ หรือผู้เชี่ยวชาญในกฎหมายแขนงนั้น ที่ไม่เกี่ยวข้องในการจัดทำรัฐธรรมนูญ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้อาจจะมีน้ำหนักสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายเรื่องนั้นได้บ้าง แต่สิ่งสำคัญการวิเคราะห์ผลของกฎหมายนั้นต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สอดคล้องกับประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 3 วรรค 2 อย่างไรก็ตาม ไม่ขอวิจารณ์ว่าความเห็นของนักกฎหมาย 50 ความเห็น ที่ฝ่ายค้านยื่นไปประกอบการวินิจฉัย แต่ส่วนตัวพูดได้ว่า ความเห็นของตนอยู่ในลำดับที่ 6 ได้ก็บุญแล้ว

“หัวใจไม่ได้อยู่ที่ปริมาณ แต่อยู่ที่ความถูกต้อง เป็นธรรม ปริมาณอาจจะพาไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมก็ได้ เพราะถ้าเรื่องนี้ตัดสินด้วยปริมาณ ไม่ต้องส่งมาศาลรัฐธรรมนูญ ในรัฐสภาลงมติโหวตกันเสียงข้างมากเอาไป ไม่ต้องไปตระเวนหาที่ไหนด้วย หรือถ้าไม่เอาแนวรัฐสภา ก็ประชุมนักกฎหมายทั่วประเทศ แล้วก็ลงคะแนนเสียงกัน อันนั้นตัดสินด้วยปริมาณ แต่มันจะถูกต้องหรือไม่ ไม่มีใครรับประกันได้ ปัญหากฎหมายยาก ๆ จึงใช้ปริมาณไม่ได้ ต้องใช้ความสุขุมลุ่มลึก และองค์กรที่เป็นอิสระท่ามกลางความขัดแย้งกดดันของฝ่ายต่าง ๆ ในสังคมมีจิตใจที่เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่อยู่ในอานัสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ขัดแย้งในสังคม และต้องมีภาพลักษณ์ให้สังคมเชื่อด้วย”  นายจรัญ กล่าว

อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ประเด็นการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นปัญหากฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาการเมือง ไม่ใช่ปัญหาพฤติกรรม เป็นปัญหากฎหมายแท้ ๆเพราะฉะนั้นควรจะต้องหาข้อยุติให้ถูกต้องตามหลักนิติธรรม นิติศาสตร์ และยุติธรรมศาสตร์ ไม่ใช่ใช้ความคิดเห็นต่างการเมือง เพราะไม่ใช่ปัญหาทางการเมือง

“แต่จะบอกว่าไม่เกี่ยวเลยก็ไม่ได้ เพราะผลของมันจะนำไปสู่การได้เปรียบ เสียเปรียบทางการเมือง เพราะฉะนั้นจะตัดฝ่ายการเมืองว่าจะขับเคลื่อนไม่ให้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ไม่ได้ ก็ต้องให้โอกาสฝ่ายการเมืองได้แสดงเหตุผล ข้อโต้แย้งชี้แจงกันและกัน แต่เราก็ต้องตั้งสติให้ดีว่าการขับเคลื่อนการเมืองเป็นเรื่องการเมือง จะเอามาใช้เป็นข้อยุติชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายไม่ได้ เพราะมันคนละเรื่อง แต่ควรต้องฟัง ไม่ใช่ไม่ยอมให้เขาพูดเลย อันนี้ก็ไม่ถูกในสังคมประชาธิปไตย” นายจรัญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถนนพระราม 2 ตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล