ทำเนียบรัฐบาล 23 ส.ค.-“นิพนธ์” ยินดีพบ ป.ป.ช. ตามนัดหมาย หลังขีดเส้นตายยื่นฟ้องคดีละเว้นเบิกจ่าย 5 ก.ย.นี้ ย้ำพร้อมสู้คดี ไม่หนี เผย “วสันต์” อดีตประธานศาล รธน. ทนายแก้ต่างบอกดูเอกสารแล้วไม่ผิดแน่นอน
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขยายเวลาส่งฟ้องคดีอาญา กรณีกล่าวหานายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (นายก อบจ.สงขลา) ฐานละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยล่าสุด ป.ป.ช. ขีดเส้นให้มารายงานตัวในวันที่ 5 ก.ย.นี้ว่า ได้มีการประสานงานกันแล้ว เดิมส่งหนังสือแจ้งไปแล้วว่าติดภารกิจและนัดต่อมาเป็นวันที่ 18 ส.ค. จึงได้ส่งทนายไปพูดคุยกับผู้แทน ป.ป.ช. และนัดกันตั้งแต่ต้นว่าเป็นวันที่ 5 ก.ย. ซึ่งตนยินดีที่จะไปอยู่แล้ว เพราะเรื่องทั้งหมดตนได้ชี้แจงไปเป็นลำดับแล้วว่ากรณีที่ไม่จ่ายเพราะมีการฮั้วเกิดขึ้น อีกทั้งในการจัดซื้อครั้งที่ 1 มีการฮั้วกัน โดนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับแบบไม่มีอายุความ เพราะผู้ต้องหาหนีไปต่างประเทศ
“ส่วนการจัดซื้อครั้งที่ 2 ผู้ต้องหาส่งคำร้องไปที่กองบังคับการปราบปราม และวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามได้จับกุมเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อครั้งที่ 2 ขณะที่การจัดซื้อครั้งที่ 3 กองบังคับการปราบปรามสรุปว่ามีการฮั้ว และใช้เอกสารปลอม โดยส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. จึงย้ำว่าสาเหตุที่ไม่จ่ายเพราะพบการฮั้วเกิดขึ้น และจนถึงขณะนี้ดำเนินจับกุมผู้กระทำความผิดจริง ตนพร้อมสู้คดีอยู่แล้ว ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งไม่ให้จ่ายและชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบ จึงไม่จ่ายและมีหลักฐานชัดเจนแล้ว ว่าผู้ที่ชนะการประมูลทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนกรณีตำรวจสรุปว่ามีการฮั้ว แต่ ป.ป.ช. ยังคงมีข้อสงสัยอยู่ ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่า ป.ป.ช. มีเหตุผลและตนพร้อมจะต่อสู้อยู่แล้ว ไม่หลบหนี มีตำแหน่งที่อยู่ที่ชัดเจน สามารถส่งหมายถึงตนได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องแถลงข่าวทุกวัน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวถึงกรณีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ มาเป็นทนายแก้ต่างให้จะทำให้เกิดการได้เปรียบหรือสบายใจขึ้นหรือไม่ว่า นายวสันต์ดูเอกสารและข้อมูลแล้ว เห็นว่าไม่มีความผิดแน่นอน เป็นไปไม่ได้ว่าจะผิดทั้งการจ่ายและไม่จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใช้เอกสารปลอมมาใช้ในราชการ ก็เข้านิยามของการแข่งขันไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย