ยึดยาบ้า 3 ล้านเม็ด ไอซ์และยาเคกว่า 200 กก.

13 ส.ค. – ฉวยโอกาสช่วงวันหยุดยาวลักลอบขนยาเสพติดลอตใหญ่หลายพื้นที่ภาคเหนือ ตำรวจสกัดจับได้ 5 คดี ยึดยาบ้ารวม 3 ล้านเม็ด ไอซ์-เค กว่า 200 กก. ขบวนการขนยาเสพติดฉวยโอกาสช่วงวันหยุดยาวลักลอบขนยาเสพติดลอตใหญ่ในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ถูกตำรวจสกัดจับได้ถึง 5 คดี ยึดยาบ้า 3 ล้านเม็ด ไอซ์ 149 กิโลกรัม และเคตามีอีกกว่า 100 กิโลกรัม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่าทั้ง 5 คดี อยู่ในพื้นที่จังหวัดแพร่ถึง 3 คดี โดยตำรวจด่านตรวจห้วยไร่จับผู้ต้องหา 2 คน ขับรถกระบะติดทะเบียนปลอม ทำช่องลับซุกไอซ์และเคตามีน เตรียมนำไปส่งชลบุรี และยังสกัดรถบรรทุกสิบล้อขนยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด ซ่อนในที่นั่งโดยสารหลังคนขับ จับผู้ต้องหา 2 คน และอีกคดี สภ.วังชิ้น ยึดยาบ้า 1.8 ล้านเม็ด หลังพบผู้ต้องหาขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจแต่แสดงท่าทีมีพิรุธ ด้านตำรวจเชียงราย […]

เกาหลีใต้เตือนฝนตกหนักทั่วภาคกลาง

โซล 13 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้ หรือ เคเอ็มเอ (KMA) แจ้งเตือนฝนตกหนักในบางพื้นที่ของประเทศในวันพุธ โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักถึง 150 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงในเขตปริมณฑลของกรุงโซลจนถึงวันพฤหัสบดี สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนกว่า 100 มิลลิเมตรตกในเขตเมืองหลวง โดยเฉพาะที่เขตองจิน (Ongjin) ของนครอินชอน ที่มีฝนตกหนักถึง 149.2 มิลลิเมตรภายในหนึ่งชั่วโมง ซึ่งถือเป็นปริมาณฝนที่หนักที่สุดที่บันทึกสถิติได้ในฤดูร้อนนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทางการประกาศเตือนฝนตกหนักในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตปริมณฑลของกรุงโซล และบางส่วนของนครอินชอนและจังหวัดคย็องกีตอนเหนือ ขณะที่มีคำแนะนำเฝ้าระวังในบางพื้นที่ตอนในของจังหวัดคังวอน รวมถึงบางเมืองในจังหวัดคย็องกีตอนใต้และชายฝั่งตะวันตก จังหวัดคย็องกีได้ยกระดับมาตรการรับมือฉุกเฉินขึ้นหนึ่งระดับ เป็นระดับ 2 ของระบบรับมือภัยพิบัติและมาตรการความปลอดภัยส่วนกลาง ทางการประกาศให้ประชาชนอพยพในพื้นที่ใกล้แม่น้ำที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมในกรุงโซลและบางส่วนของจังหวัดคย็องกี ขณะที่ฝนที่ตกหนักในจังหวัดคย็องกีตอนเหนือทำให้ประชาชนตกค้างและต้องปิดถนนและเส้นทางรถไฟหลายสาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เคเอ็มเอคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก 30 ถึง 50 มิลลิเมตรในพื้นที่ภาคกลางต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี และสำหรับเขตเมืองหลวงจะยังมีฝนตกหนัก 50 ถึง 150 มิลลิเมตร และอาจสูงถึง […]

มกอช. ย้ำไทยคุมเข้มสารเร่งเนื้อแดงต่อเนื่อง ปกป้องสุขภาพผู้บริโภค

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – เลขาธิการ มกอช. เรียกร้องทุกภาคส่วนรักษามาตรฐานสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ปลอดสารเร่งเนื้อแดง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและเพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก นายสัตวแพทย์ ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ชื่นชมสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ตรึงมาตรฐานและบังคับใช้กฎหมายห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างเข้มงวดในอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เพื่อปกป้องสุขภาพคนไทยและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค จนตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีรายงานการสูญเสียจากการบริโภคสารดังกล่าว ทั้งนี้ ภายหลัง มกอช.ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ อย. กรมอนามัย และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อบูรณาการการดำเนินงานด้านความมั่นคงทางอาหารอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย เลขาธิการ มกอช.ได้ย้ำว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ สั่งห้ามเกษตรกรใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างเด็ดขาด และ อย.กำหนดให้อาหารทุกชนิดต้องไม่พบการปนเปื้อนของสารกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ พร้อมทั้งมีการตรวจสอบเข้มตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงปลายทางจำหน่าย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค นายสัตวแพทย์ ชัยวัฒน์ เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมรักษามาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารไทยให้มีคุณภาพและปลอดภัยต่อเนื่อง ซึ่งการควบคุมสารเร่งเนื้อแดงเป็นนโยบายสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก พร้อมย้ำว่า การดำเนินงานของ อย. เป็นการปกป้องสุขภาพประชาชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริโภคในประเทศและคู่ค้าต่างชาติอย่างยั่งยืน. -512 – สำนักข่าว​ไทย​

ตร.ประชุม 3 หน่วย ถกคดีวัดพระบาทน้ำพุ จ่อสอบเส้นเงินย้อนหลัง 20-30 ปี

13 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” เตรียมตรวจสอบเส้นเงินรับบริจาคเข้าวัดพระบาทน้ำพุ ย้อนหลัง 20-30 ปี หลังพบเงินบริจาค กระจายไปยังหลายบัญชี ทั้งมูลนิธิฯ และบุคคลหลายกลุ่ม จ่อนิมนต์เจ้าอาวาสเข้าให้ข้อมูล พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียก 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมใหญ่นัดแรกติดตามความคืบหน้าคดี “หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ โดยมีกองบังคับการปราบปราม, กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยสั้นๆ ก่อนการประชุมดังกล่าว ว่า วันนี้จะเป็นการประชุมกำหนดแนวทางในหลายประเด็น ส่วนหลังจากนี้จะถึงขั้นการออกหมายจับหรือดำเนินคดีกับใครหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า ยัง ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟท์ไป ภายหลังการประชุมนานกว่าชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดผยว่า ขณะนี้มีความชัดเจนในหลายเรื่อง แต่มีบางมิติยังไม่ชัดเจนต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมมากขึ้นและสามารถพิสูจน์ได้ ส่วนจะต้องเชิญหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาส มาให้การหรือไม่นั้น จะเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องนิมนต์หลวงพ่อมาเพื่อให้ความชัดเจนด้วย ส่วนจะไปตรวจสอบข้อมูลที่วัดหรือไม่นั้น ขอดูการพูดคุยของคณะกรรมการก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบใคร ถ้าไม่จำเป็น ส่วนที่หมอบี และเลขา เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ขอยังไม่เปิดเผยสำนวนคดี ส่วนกรณีคำให้การของหมอบีจะถูกหยิบยกมาพิจารณาในเรื่องการทุจริตหรือผิดปกติของวัดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า […]

กมธ.ศึกษา สว.เรียกร้อง “รัฐบาล” ตัดงบช่วยเหลือด้านการศึกษา “เขมร”

รัฐสภา 13 ส.ค.-กมธ.ศึกษา สว.เรียกร้อง “รัฐบาล” ตัดงบช่วยเหลือด้านการศึกษา “เขมร” มั่นใจไม่ขัดสิทธิเด็ก-มนุษยธรรม ยกตัวอย่าง “ยุโรป-อเมริกา” ก็ดูแลเฉพาะที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย เปรียบ “เด็กกัมพูชา” ลาครูกลับบ้านเสียใจร้องไห้ แต่ “เด็กไทย” ที่ตายไม่มีโอกาสแม้กระทั่งเจอพ่อแม่ ถามตอนกดปุ่มระเบิดคิดอย่างไร นายกมล รอดคล้าย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา นำคณะ สว.แถลงข่าวเสนอแนะรัฐบาล เรื่องขอให้พิจารณาปรับลดโครงการความช่วยเหลือด้านการศึกษาที่ประเทศไทยมีต่อประเทศกัมพูชา โดยนายกมล กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดน ซึ่งไทยมีพื้นที่ติดกับกัมพูชาเป็นเส้นทางที่ยาวไกล เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นผลกระทบทั้งต่อพี่น้องประชาชนและเด็กที่อยู่ในโรงเรียน ประเด็นที่อยากจะนำเสนอในวันนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนที่เราช่วยเหลือ ดูแลกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่พ่อแม่ ผู้ปกครองมาทำงานในประเทศไทย และลูกหลานจะต้องมาอยู่ในประเทศไทยด้วย ซึ่งเราจะต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ประเทศไทยจะต้องทบทวน ในฐานะที่เราเคยเป็นประเทศที่ดีต่อกัน ประเทศไทยเราได้ดูแลเด็ก ซึ่งนอกจากจะเป็นเด็กไทยแล้ว เรายังต้องดูแลเด็กที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ไม่มีสัญชาติไทย กลุ่มชาติพันธุ์ เด็กด้อยโอกาส ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน […]

New China's Ambassador to Thailand

เอกอัครราชทูตจีนคนใหม่จะผลักดันความสัมพันธ์ความสัมพันธ์จีน-ไทย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค.- เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่เปิดเผยว่า จะพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทยให้เป็นรูปธรรมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสร้างอนาคตใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยคนที่ 14 ที่เดินทางมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เขียนบทความชื่อ “ร่วมมือกันสร้างอนาคตใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย” ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ดำรงตำแหน่งนี้ เป็นภารกิจทรงเกียรติและความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มาก โดยสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเป็นมิตรของไทยทันทีที่เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นายจางกล่าวถึงคำกล่าว “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ว่า มีรากฐานมาจากมิตรภาพอันลึกซึ้งที่สืบทอดกันมายาวนานนับพันปี ตำราโบราณของจีนได้ระบุว่า ชาวจีนได้มาเยือนประเทศไทยเมื่อประมาณสองพันปีก่อน ประชาชนทั้งสองประเทศได้ไปหามาสู่กัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันท่ามกลางความยากลำบากและความท้าทายต่าง ๆ ทำให้สัมพันธไมตรีแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการพัฒนาความสัมพันธ์ได้รับความเอาใจใส่และชี้นำจากผู้นำสูงสุดของทั้งสองประเทศที่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนกันอย่างใกล้ชิด ขณะที่ความร่วมมือระหว่างกันสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของแต่ละฝ่ายในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เช่นเดียวกับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับการแสวงหาแนวทางร่วมกันในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่งเรืองของภูมิภาค เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ระบุด้วยว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์จีน-ไทยได้พัฒนาก้าวหน้าในระดับสูง เขาจะพบปะหารือกับทุกภาคส่วนในไทยเพื่อเสริมสร้างมิตรภาพ จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน จะขยายขอบเขตและความลึกซึ้งของความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันก้าวไปอีก 50 ปีข้างหน้า จะพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทยให้เป็นรูปธรรมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น และจะสร้างอนาคตใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาซ้ายขาด อาการดีขึ้น

สุรินทร์ 13 ส.ค. – “สิบเอกธีรพล” ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด อาการดีขึ้น คลังเลือด รพ.สุรินทร์ เผยมีเลือดเพียงพอแล้ว ขณะที่กองทัพภาค 2 ปิดรับลวดหนามหีบเพลง ได้เพียงพอแล้ว ขอบคุณทุกความร่วมมือ ความคืบหน้าอาการ สิบเอกธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 ที่เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ จนได้รับบาดเจ็บขาขาด ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้วตามลำดับ และที่โรงพยาบาลสุรินทร์ มีประชาชน นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ จำนวนมาก มาบริจาคเลือดกรุ๊ป AB ให้กับ สิบเอกธีรพล ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยขณะนี้เพียงพอแล้ว และคลังเลือด รพ.สุรินทร์ ยืนยันว่ามีเลือดเพียงพอสำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 แจ้งกรณีขอสนับสนุนลวดหนามหีบเพลง เสริมสร้างความพร้อมการป้องกันพื้นที่และรักษาความมั่นคงของประเทศว่า ได้รับลวดหนามหีบเพลงเพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว จึงขอปิดการรับ ลวดหนามหีบเพลงไว้แต่เพียงเท่านี้ พร้อมขอบคุณทุกความร่วมมือและน้ำใจจากทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย

สภาฯ เห็นชอบมาตรา 4 ภาพรวมงบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค.-สภาฯ เห็นชอบมาตรา 4 ภาพรวมงบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ด้าน “จุลพันธ์” ยัน กมธ.งบฯ พิจารณาทุกอย่างตามความเหมาะสม-ยึดหลักกฎหมาย มั่นใจมีกระสุนเพียงพอขับเคลื่อนเศรษฐกิจเติบโต ท่ามกลางความสุ่มเสี่ยงสถานการณ์โลก การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ชี้แจงในส่วนของมาตรา 4 ภาพรวมวงเงินงบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาท ว่า กมธ.พิจารณางบประมาณตามความจำเป็นของหน่วยรับงบประมาณ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความเสี่ยงของสถานการณ์โลก และความสุ่มเสี่ยงทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยยืนยันว่า กระทรวงการคลัง มีศักยภาพเพียงพอในการจัดเก็บรายได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณในอนาคต และมีมาตรการรองรับเพียงพอ ทั้งเงินคงคลัง รวมถึงกลไกที่มีอยู่ตามกฎหมาย เชื่อว่าจะบริหารจัดการงบที่ตั้งไว้ได้อย่างสมบูรณ์ไม่มีปัญหา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ และพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ […]

“รักชนก” ชี้งบบูรณาการต่อต้านคอร์รัปชัน วัดผลไม่ได้

รัฐสภา 13 ส.ค.-“รักชนก” ชี้งบบูรณาการต่อต้านคอร์รัปชัน วัดผลไม่ได้ ชี้งบซ้ำซ้อน แนะกรมบัญชีกลาง – ป.ป.ช. เปิดข้อมูล ทำธรรมาภิบาล กำหนดอาสาให้ชัดเจน นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า ดัชนีการรับรู้คอร์รัปชัน ที่นายกรัฐมนตรีเคยแถลงไว้ และประเทศเราให้ความสำคัญกับการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน โดยมีงบบูรณาการส่วนนี้เกือบพันล้านบาท แต่งบประมาณส่วนใหญ่ ใช้ในการอบรมและต้องมีงบวัดผลด้วย แต่ต้องตั้งคำถามว่า การอบรมและการวัดผลแบบเดิมๆ ทำให้ภาพลักษณ์เรื่องคอร์รัปชัน หรือการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นดีขึ้นหรือไม่ แต่เราก็เห็นว่าไม่ดีขึ้นเลย จึงขอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกแผนบูรณาการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน เพราะอยากให้เลิกใช้งบประมาณไปกับสิ่งที่สิ้นเปลืองและวัดผลไม่ได้ ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ ก็เขียนไว้ว่า ต้องมีแผนการวัดผลในเรื่องนี้ จึงต้องไปแก้ในรัฐธรรมนูญด้วยแต่ตอนนี้อยากให้ตัดงบในส่วนนี้ออกไปก่อน และตั้งระบบในการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสเข้ามา นางสาวรักชนก กล่าวถึง สิ่งที่อยากแนะนำที่ทำให้ภาพลักษณ์เรื่องการทุจริตคอร์รัปชันดีขึ้น 3 เรื่อง คือ 1.กรมบัญชีกลางควรเปิดให้ภาคประชาสังคม นำข้อมูลด้านการจัดซื้อจัดจ้างไปวิเคราะห์ได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันทางภาคประชาชนต้องไปเขียนโปรแกรมดึงข้อมูลออกมาเอง โดยการเขียนโปรแกรมนี้ก็ทำให้ระบบท่านรวน ดังนั้น ก็เปิดไปเลยให้ได้ใช้ และนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เพื่อมาช่วยดูว่าโครงการไหนส่อทุจริต หรือส่อประพฤติมิชอบ 2.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ […]

ผบ.ทร. ยัน 3 ปีได้เรือดำน้ำเข้าประจำการ

ราชนาวิกสภา 13 ส.ค.- ผบ.ทร. เตรียมส่ง ‘อัยการสูงสุด’ ก่อนแก้ข้อตกลง ‘เรือดำน้ำ’ ยัน 3 ปี ได้เรือเข้าประจำการ คู่ขนานสร้าง ‘ท่าเรือ-อบรมกำลังพล’ เผย ครม.เห็นชอบ ‘ฟริเกต’ 2 ลำ แม้ให้งบแค่ 1 ลำ แต่เปิดทางให้ลำที่ 2 หากรัฐบาลอนุมัติงบต่อ ไม่จำเป็นต้องคัดเลือกใหม่ ดึง ‘อุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ’ ร่วมลงทุน ยืนยัน ทร. ไม่มีให้ ‘สหรัฐ’ ตั้งฐานทัพที่ จ.พังงา แต่ต้อนรับทุกมิตรประเทศ เผย ทร. ทบทวนแผนพัฒนาท่าเรือฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน ดูตามสถานการณ์ จับตาท่าทีความสัมพันธ์สหรัฐ-กัมพูชา พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์กรณี ครม. เห็นชอบแก้ไขข้อตกลงโครงการเรือดำน้ำ เปลี่ยนใช้เครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD620 ของจีน พร้อมขยายระยะเวลาส่งมอบเรือ 1,217 วัน ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ […]

ชบาแก้ว พ่าย เวียดนาม 0-1 กอดคอเข้ารอบรองฯ ศึกชิงแชมป์อาเซียน

เวียดนาม 13 ส.ค. – ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พ่าย เวียดนาม 0-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน 2025 ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน 2025 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดตัดสินแชมป์กลุ่ม ที่สนามลัช ไช สเตเดียม ประเทศเวียดนาม ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พบกับ เวียดนาม เกมนี้ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ยังไม่คมพอ จนถึงนาทีที่ 36 เวียดนามทำเกมขึ้นมาจากฝั่งขวา ก่อนจะเปิดให้ เจิ่น ติ ธู เต๋า ทำประตูให้เจ้าถิ่น ออกนำ 1-0 ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยพยายามโหมบุกอย่างหนัก แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับเวียดนามได้ จบเกมเวียดนาม เอา ชนะทีมชาติไทย 1-0 เก็บชัยชนะ 3 นัดรวด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์ กลุ่มเอ ส่วนไทยชนะ 2 นัด […]

1 98 99 100 101 102 34,489