GC – GCM ร่วมกับพันธมิตร 84 ราย มอบนวัตกรรม-ผลิตภัณฑ์พลาสติกครบวงจร

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – GC และ GCM ร่วมกับพันธมิตร คู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติก 84 ราย มอบนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบครบวงจรช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอย ในพื้นที่เสี่ยงสูง จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ และ ระยอง


จากการแพร่ระบาดของโควิด 19 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ บริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ GCM ร่วมกับลูกค้าและคู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติก 84 บริษัท ส่งมอบนวัตกรรมพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบครบวงจรให้แก่โรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ และศูนย์พักคอย รวม 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ และ ระยอง โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม ภายใต้โครงการ “Greater Care Charity by GC & Customers”

นายปฏิภาณ สุคนธมาน ผู้จัดการใหญ่  บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่มีแนวโน้มการแพร่ระบาดที่สูงขึ้น GC เป็นองค์กรที่มีนวัตกรรมเคมีภัณฑ์และพลาสติก GCM ผู้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ ได้จับมือร่วมกับลูกค้า คู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติกที่ต่างมีความเห็นใจ และเห็นพ้องตรงกันในการนำความชำนาญจากสิ่งที่เรามี มารวมเป็นพลังเพื่อช่วยขับเคลื่อน และช่วยเหลือผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ให้ก้าวข้ามผ่านพันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดย GC GCM พันธมิตร คู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติกจะเดินหน้าในการพัฒนานวัตกรรมพลาสติก เพื่อตอบโจทย์ ครอบคลุมทุกการใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้แก่สังคม และประเทศไทยต่อไป


นายเอกวัฒน์ วิทูรปกรณ์ กรรมการ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด และ นายเอก ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เค.แพคและจักรกล จำกัด ผู้แทนของกลุ่มคู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติกในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร นายยุทธนา ภูมิฤทธิกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ยูนิคอุตสาหกรรมพลาสติก จำกัด ผู้แทนของกลุ่มคู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติกในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และนายสมศักดิ์  บริสุทธนะกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนของกลุ่มคู่ค้าผู้ประกอบการพลาสติกในพื้นที่จังหวัดระยอง ร่วมกันกล่าวถึงความตั้งใจที่ดีของผู้ประกอบการทั้งสายการผลิต (Supply Chain) ที่ได้นำนวัตกรรมพลาสติกมาใช้ประโยชน์โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ผู้เสียสละที่เป็นด่านหน้ารวมถึงการดูแลผู้ป่วยให้ฝ่าฟันวิกฤตโควิด 19 นี้ไปด้วยกัน  

นายแพทย์ นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร  คุณชวลิต  ทรงกิตติ นายอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ คุณปิยะ  ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ในฐานะผู้รับมอบอุปกรณ์จากโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ร่วมกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ GC GCM และทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือและสนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอยแห่งใหม่ นี้ โดยเราเชื่อว่านอกจากบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่มีความพร้อมแล้ว อุปกรณ์ที่ผลิตจากนวัตกรรมพลาสติกต่างๆ  อาทิ เตียงสนามสำหรับผู้ป่วย ชุดกาวน์กันน้ำ (PE Gown) ชุด Reusable PPE Gown ถุงขยะและถังขยะป้องกันการติดเชื้อที่ผลิตจากพลาสติก ตู้ล็อคเกอร์เก็บของ คุณภาพดี ทั้งหมดที่ทุกท่านนำมาบริจาคจะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่เสี่ยงสูง ให้ปลอดภัย และผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

การสร้างโรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอยแห่งใหม่ ทั้ง 4 แห่ง จะช่วยรองรับผู้ป่วยสีเขียวและสีเหลืองในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมพื้นที่สีแดงเข้ม มีขนาดรวมทั้งหมด 1,000 เตียง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนามวัดเกตุมดีศรีวราราม 300 เตียง มีกำหนดเปิดใช้งานในวันที่ 15 สิงหาคม 2564  และ โรงพยาบาลสนามเทศบาลตำบลอ้อมน้อย 200 เตียง มีกำหนดเปิดใช้งานในวันที่ 20 สิงหาคม 2564 จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 1 แห่ง คือ ศูนย์พักคอยตำบลบางบ่อ 150 เตียง มีกำหนดเปิดใช้งานในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 และจังหวัดระยอง จำนวน 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนาม ณ สนามกีฬากลาง 350 เตียง มีกำหนดเปิดใช้งานในวันที่ 17 สิงหาคม  2564


การส่งมอบนวัตกรรมพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกคุณภาพแบบครบวงจรนี้ จะช่วยบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาด และยังตอบโจทย์ต่อการใช้งานที่โรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอย ทั้ง 4 แห่ง โดยมีมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • เตียงสนามจาก HDPE (พร้อมอุปกรณ์เครื่องนอนครบชุด) จำนวน 1,000 เตียง ผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE ภายใต้แบรนด์ InnoPlus ของ GC ออกแบบและผลิตโดยบริษัทแอร์โรคลาส จำกัด คู่ค้าของ GC เตียงสามารถถอดประกอบได้ง่ายด้วยคนเพียงคนเดียวภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที ขนาดใหญ่ (กว้าง 91 ซม. ยาว 210 ซม. สูง 30 ซม.) น้ำหนักเบาเพียง 21 กิโลกรัม มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้มากถึง 200 กิโลกรัม ป้องกันสารคัดหลั่งซึมผ่าน สามารถฆ่าเชื้อได้ง่ายทั้งด้วยน้ำยาและผ่านความร้อน จึงนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง รวมถึงสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ในที่สุด
  • ชุดกาวน์กันน้ำ (PE Gown) แบรนด์ Greater Care by GC จำนวน 10,500 ชุด ผลิตจากเม็ดพลาสติก PP ของ บริษัท HMC และเม็ดพลาสติก PE film by Mitsui Hygiene
  • ชุด Reusable PPE Gown แบรนด์ Greater Care by GC จำนวน 3,600 ชุด เป็นชุด PPE ระดับ 2 ใช้ในพื้นที่ความเสี่ยงไม่สูงมาก ผลิตจากเม็ดพลาสติก PP ของ บริษัท HMC และเม็ดพลาสติก PE film by Mitsui Hygiene ช่วยป้องกันการติดเชื้อ สามารถป้องกันสารคัดหลั่ง และยังสามารถนำไปทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • ตู้ล็อคเกอร์เก็บของทำจากพลาสติกคุณภาพสูง ผลิตจากเม็ดพลาสติก LLDPE คอมพาวด์ ภายใต้แบรนด์ Revolve(R) ของ บริษัท Matrix Polymers ขึ้นรูปโดยกระบวนการหมุนเหวี่ยง (Rotomolding) ออกแบบสวยงาม ขนาดกะทัดรัด จุของและรับน้ำหนักได้ดี (ขนาด กว้าง 80 ซม. สูง 60 ซม. ลึก 40 ซม.) แข็งแรง ทนทาน แต่น้ำหนักเบาเพียง 13 กิโลกรัม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนามจำนวน 48 ตู้
  • พัดลม จำนวน 1,000 ตัว
  • เก้าอี้พลาสติกมีพนักพิง จำนวน 1,000 ตัว
  • ตู้ลิ้นชักพลาสติกข้างเตียง จำนวน 1,000 ตู้
  • ถังขยะป้องกันการติดเชื้อ แบรนด์ Greater Care by GC จำนวน 60 ใบ
  • ถุงขยะป้องกันการติดเชื้อ แบรนด์ Greater Care by GC จำนวน 20,000 ใบ
  • ขนมขบเคี้ยว Rice Me Snack Bar จากความร่วมมือของ GC และ ชุมชนระยอง 190 กล่อง
  • คอมพิวเตอร์, ปริ้นเตอร์, เครื่องวัดความดัน, เครื่องวัดปริมาณออกซิเจน, ปรอทวัดไข้ และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นอื่นๆ

สถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่า นวัตกรรมพลาสติกมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วย และจำเป็นอย่างยิ่งในการเป็นเกราะป้องกันแก่บุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด 19

GC GCM และคู่ค้าพันธมิตร ผู้ประกอบการพลาสติก จะไม่หยุดยั้งในการร่วมคิดค้นและสนับสนุนงานวิจัยใหม่ๆ และพัฒนานวัตกรรมพลาสติก เพื่อต่อยอดให้เป็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกและเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สังคมและประเทศชาติให้ผ่านพ้นทุกสถานการณ์วิกฤติ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย ทะเลอันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 ม.

กทม. 3 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]