23 ก.ค.64-ความเคลื่อนไหวการเก็บตัวฝึกซ้อมของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ทั้ง “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่มรุ่น 58 กก. เข้าสู่วันที่หกของการฝึกซ้อม โดยช่วงเช้า “เสี่ยบิ๊ก”ธนฑิตย์ รักตะบุตร ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย โค้ช เช ยอง ซอก ได้นำนักกีฬาไปชั่งน้ำหนักก่อนการแข่งขัน 1 วัน ซึ่ง
ผลปรากฏว่า ทั้ง เทนนิส และ จูเนียร์ ชั่งผ่านพิกัดของตัวเองสบาย โดย พาณิภัค หนัก 48.7 กก. และรามณรงค์ 57.5 กก. ซึ่งทั้งคู่ต่ำกว่าพิกัดเล็กน้อย
“โค้ชเช” เช ยอง ซอก กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว การชั่งน้ำหนักก็ผ่านไปด้วยดี นักกีฬาสามารถกินอาหารได้เต็มที่ เหลือแค่เพียงการแข่งขัน ซึ่งในช่วงบ่ายเราได้หาที่ฝึกซ้อมเบาๆ เพราะที่เมกุโระ ยิมเนเซี่ยมเซ็นเตอร์ ปิด เนื่องจากฝ่ายจัดต้องการให้นักกีฬาไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ทำให้เรามาฝึกซ้อมที่ฟิตเนสตรงข้ามที่พักนักกีฬา ซึ่งไม่ได้ฝึกหนักอะไรมาก เพียงแค่วอร์มร่างกาย และทบทวนเทคนิคต่างๆก่อนการแข่งขัน จากนั้นหลังจากทานอาหารเย็นจะให้นักกีฬามาคุยกันอีกครั้งเพื่อรวมแรงใจเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย
โค้ชเช ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับสายการแข่งขัน เรารู้มาก่อนแล้วว่านักกีฬาไทยทั้ง 2 รุ่น จะอยู่สายบนหรือสายล่าง เพราะโอลิมปิก ครั้งนี้ จัดตามแร็งกิ้งโลก แต่ในโอลิมปิกเกมส์ นอกจาก 6 อันดับแรกของโลกแล้ว ที่เหลือทุกคนต้องการตัวมาจากทวีปต่างๆ ซึ่งเป็นคนเก่งทั้งนั้น โดยในรุ่นของ จูเนียร์ รอบแรก เจอ ออสเตรเลีย ซึ่งฝีมือไม่ธรรมดา เขาเคยแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 3 ครั้งรวมครั้งนี้ โดยมีข้อดีคือรูปร่างสูงถึง 191 ซม.เทียบกับ จูเนียร์
ต่างกันมาก แต่ถึงอย่างไร น้ำหนักเราเท่ากัน เราศึกษาเขามาว่าเล่นอย่างไรถึงจะดีที่สุด และสิ่งที่สำคัญ จูเนียร์ ถ้ามั่นก็มีโอกาส เพราะเทคนิค ความคล่องตัวเราดีกว่าเขา
ส่วนน้องเทนนิส เรามีแร็งกิ้งเป็นเบอร์ 1 ซึ่งในรุ่นนี้ แร็งกิ้งอันดับ 16 กับ 17 ต้องเตะกันก่อน โดยคู่นี้ใครชนะจะเจอกับเรา ซึ่งเราก็ต้องดูเขาแข่งขันระหว่าง อิสราเอล กับ เปอร์โตริโก้ ซึ่งตนมองว่าน่าจะเป็นอิสราเอล โดยเราได้ศึกษาการเล่นของเขามาน่าจะชนะได้ ส่วนรอบสอง เราเจอน่าจะเป็นเวียดนาม ซึ่งเขาเป็นเจ้าของเหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเราเคยเจอกันมาแล้วก็เอาชนะมาได้ ไม่น่ามีปัญหา ส่วนรอบรอง
ชนะเลิศ โอกาสจะได้เจอระหว่าง ไทเป กับเกาหลีใต้ โดยผมมองว่า โอกาสชนะให้ไทเป 60% เกาหลี 40% ซึ่งถ้าเป็นใครเราก็ต้องศึกษาอีกทีหนึ่ง โดยตอนนี้พวกเราเรื่องเทคนิค ความพร้อมเรา 100% จิตใจเราเต็มที่ ต้องดูว่าวันแข่งขันเป็นวันดี ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ ซึ่งตนพูดตลอดว่า ครั้งนี้อย่าคิดว่าเป็นโอลิมปิก ให้คิดว่าเป็นการแข่งกรังด์ปรีซ์หรือเทสอีเวนต์ และยิ่งดีไม่มีคนดู เงียบ โดยบอกทั้งสองคนก็เข้าใจและดีขึ้น ผมเชื่อในทั้ง 2 คน เต็มที่
ต่อข้อถามที่ว่า สื่อต่างชาติยกให้เกาหลีใต้ เป็นเต็งเหรียญทอง โค้ช เช กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราเคยเตะกันมา 4-5 ครั้ง เราชนะมาได้หมด แต่กีฬาต่อสู้ มีแพ้ มีชนะ ซึ่งสไตล์การต่อสู้เราดีกว่าเยอะจริงๆ ส่วนตัวแล้วเป็นห่วงคือเจอไทเปเพราะเขาเป็นนักกีฬารุ่น 53 กก. เคยได้เหรียญทองแดง เอเชี่ยนเกมส์ เขาลดน้ำหนักลงมาแข่ง เราไม่เคยเจอ แต่ก็ยังมั่นใจ เรารอนานมาก รอ 1 ปีกว่า ขอให้คนไทยเชียร์กันดังๆ เราสู้ จะทำผลงานให้ดีที่สุด-สำนักข่าวไทย.