เสวนา เอาไง!ค่ารถไฟฟ้าแพง หนุนรัฐทำราคามาตรฐานเดียว ไม่ต่อสัปทานเอกชน



กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – เวทีสัมมนา คลับเฮ้าส์ “เอาไงดี ! ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ทางออกที่ดีของผู้ใช้บริการ” ทั้งภาคประชาชน วิชาการ การเมือง กรมรางฯ เห็นฟ้องต้องทำราคามาตรฐาน ราคาถูก ลดความเหลี่ยมล้ำให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้ามากขึ้น ย้ำรัฐไม่ควรต่อสัมปทานที่กำลังหมดแก่เอกชน เพื่อนำโครงข่ายมาทำราคาได้ และรอผู้ว่า กทม.หลังเลือกตั้งมาแก้ปัญหารถไฟฟ้าในเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเสวนาทางคลับเฮ้าส์ หัวข้อเรื่อง “เอาไงดี ! ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ทางออกที่ดีของผู้ใช้บริการ” ซึ่งมีหลายภาคส่วนเข้าร่วม ประกอบด้วย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง จากสภาองค์กรของผู้บริโภค นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม


โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ระบุว่า สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้แสดจุดยืนในการคัดค้า การต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้ารถไฟฟ้าสีเขียว ที่มีการเชื่อมโยงกับราคาค่าโดยสาร รถไฟฟ้า ไปแล้ว ซึ่งตามข้อมูลที่ระบุว่า เมื่อขยายสัญญาสัมปทานออกไปอีก 30 ปี จากปี 2572 ถึงปี 2602 เอกชนจะมีการจัดเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท โดยสภาองค์กรผู้บริโภค ได้ทำหนังสือคัดค้าน ไปถึง คณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร โดยเห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทำให้ราคารถไฟฟ้า เป็นราคาเดียวที่ถูก เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม สามารถเข้าใช้บริการได้ ไม่เกิดปัญหาเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะเป็นแนวทางที่รัฐบาล ใช้ประโยชน์จาการลงทุนโครงข่ายรถไฟฟ้า เพื่อเป็นบริการสาธารณะอย่างคุ้มค่า

นางสารี ยังระบุว่า ราคาที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 25 บาท โดยไม่มีการติดค่าแรกเข้าเป็นราคาที่ทำได้จริง 25 บาททำได้จริง โดยเมื่อพิจารณา ข้อมูลของกรุงเทพมหานคร ที่ระบุว่า หากกำหนดราคาโดยสาร 65 บาท กทม.จะได้ผลตอบแทน 240,000 ล้านบาท ตลอดสัมปทาน 30 ปี ส่วนข้อมูล ของกระทรวงคมนาคม หากใช้ราคา 49.83 บาท จะทำให้กทม.มีรายได้ 380,200ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี หากนำเงินจำนวนนี้ใช้หนี้เดิมในช่วง 2560-2572 ประมาณ100,000 ล้านบาท กทม.ยังมีกำไรสูงถึง 280,200 ล้านบาท ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค อยากถามว่า กทม.ซึ่งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่น จะทำกำไรร่ำรวยไปทำไมเป็นแสนล้าน ควรกำหนดค่าโดยสารให้ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ องค์กรฯจะติดตามคัดค้านไม่ให้รัฐบาล เอาเรื่องขยายสัมปทานฯ กำหนดราคา 65 บาท เข้า ครม.เด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นข้อผูกมัดรัฐบาลและผู้ใช้บริการ ต้องจ่ายค่าโดยสารแพง

นายสุเมธ องกิตติกุล จากทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ปัญหาการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า ที่มีปัญหาราคาแพงนั้น ที่ผ่านมา เกิดจากการที่รัฐจำเป็นต้องนำเอกชนมาร่วมลงทุน และมีสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า หลายสัญญาตามเส้นทาง และมีความแตกต่างกันเงื่อนไขของสัมปทาน ซึ่งเรื่องนี้ ทีดีอาร์ไอเห็นว่า ในอนาคต จะต้องมีการกำหนดโมเดล ราคาค่าโดยสารมาตรฐานเดียว เป็นโมเดลในทุกระบบร่วมกัน โดยสามารถทำได้ โดยการที่นำรถไฟฟ้าที่รัฐกำลังประมูลก่อสร้าง มากำหนดเงื่อนไขราคา และในอนาคตรัฐสามารถนำเอารถไฟฟ้าที่หมดสัมปทานจากเอกชนมารวมในโมเดล ส่วนรถไฟฟ้าที่เซ็นสัญญากับเอกชนไปแล้ว และสัมปทานไม่หมด ก็เจรจาให้เอกชน เข้ามาอยู่ในโมเดลค่าโดยสารนี้


“เรื่องสัญญาสัมปทานรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องไปเร่งพิจารณาต่อ แต่ควรเร่งจัดทำโมเดลราคาค่าโดยสารมาตรฐาน ให้ได้ข้อสรุป เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา สำหรับรถไฟฟ้าที่จะเปิด หรือประมูลใหม่ ซึ่งเมื่อเกิดโครงข่ายมากขึ้น จะมีปัญหาเรื่องการเจรจาตามมา ทั้งปัญหาค่าแรกเข้า และการแบ่งปันรายได้ในแนวเส้นทาง หากผู้โดยสารเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายระบบ”นายสุเมธกล่าว

ด้านรองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม มีการตั้งคณะทำงานฯ เพื่อศึกษาโครงสร้างราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชน และสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสามารถเข้ามาใช้บริการ ได้มากขึ้น

ส่วนเรื่องการขยายสัมปทานฯ ที่กระทบกับราคาค่าโดยสารนั้นย้ำว่า ในส่วนตัวและในฐานะคนกทม. เห็นว่า ในอนาคต จะมีการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งแน่นอน จะมีผู้สมัครหลายราย เสนอรูปแบบในการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้าในเมือง และราคาค่าโดยสารที่เหมาะสม และหากผู้สมัครรายนั้น ชนะเลือกตั้ง ก็จะนำนโยบายที่หาเสียงไปสู่การปฏิบัติได้

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ระบุว่าที่ผ่านมา ได้มีการหยิบยกปัญหาความไม่ชอบมาพากล ในการเตรียมขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวล่วงหน้าถึง 8 ปี รวมอายุสัมปทานใหม่ ก็จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า มีราคาแพงไปอีกเกือบ 40 ปี ซึ่งเรื่องนี้ ได้มีการอภิปรายในสภาฯ ไปแล้ว และล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อไทย 75 คนได้เข้าชื่อ เสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเรื่องการต่อสัมปทานโดยไม่ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ แต่กลับไปใช้คำสั่ง คสช. ในการพิจารณาต่อสัมปทานให้เอกชน ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่า หากมีการขยายสัมปทานไป ประชาชนจะเสียประโยชน์ใช้รถไฟฟ้าแพงไปอีกหลายสิบปี และไม่มีทางที่นโยบายค่าโดยสารราคาเดียวจะเกิดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนาฯ มีผู้สนใจเข้าฟัง และได้แสดงความเห็น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าจริงในปัจจุบัน บางราย ระบุว่า ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้า นี้สะท้อนความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน โดยผู้มีรายได้น้อย นอกจากไม่มีรายได้พอ จะซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองแล้ว ต้องไปซื้อบ้านอยู่ชานเมือง ปริมณฑล เมื่อจะใช้บริการรถไฟฟ้า เดินทางเข้าเมือง ก็ซ้ำร้าย ค่าโดยสารก็แพง ไม่สามารถใช้บริการได้อีก . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]