เสวนา เอาไง!ค่ารถไฟฟ้าแพง หนุนรัฐทำราคามาตรฐานเดียว ไม่ต่อสัปทานเอกชน



กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – เวทีสัมมนา คลับเฮ้าส์ “เอาไงดี ! ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ทางออกที่ดีของผู้ใช้บริการ” ทั้งภาคประชาชน วิชาการ การเมือง กรมรางฯ เห็นฟ้องต้องทำราคามาตรฐาน ราคาถูก ลดความเหลี่ยมล้ำให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้ามากขึ้น ย้ำรัฐไม่ควรต่อสัมปทานที่กำลังหมดแก่เอกชน เพื่อนำโครงข่ายมาทำราคาได้ และรอผู้ว่า กทม.หลังเลือกตั้งมาแก้ปัญหารถไฟฟ้าในเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเสวนาทางคลับเฮ้าส์ หัวข้อเรื่อง “เอาไงดี ! ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ทางออกที่ดีของผู้ใช้บริการ” ซึ่งมีหลายภาคส่วนเข้าร่วม ประกอบด้วย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง จากสภาองค์กรของผู้บริโภค นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม


โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ระบุว่า สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้แสดจุดยืนในการคัดค้า การต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้ารถไฟฟ้าสีเขียว ที่มีการเชื่อมโยงกับราคาค่าโดยสาร รถไฟฟ้า ไปแล้ว ซึ่งตามข้อมูลที่ระบุว่า เมื่อขยายสัญญาสัมปทานออกไปอีก 30 ปี จากปี 2572 ถึงปี 2602 เอกชนจะมีการจัดเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท โดยสภาองค์กรผู้บริโภค ได้ทำหนังสือคัดค้าน ไปถึง คณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร โดยเห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทำให้ราคารถไฟฟ้า เป็นราคาเดียวที่ถูก เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม สามารถเข้าใช้บริการได้ ไม่เกิดปัญหาเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะเป็นแนวทางที่รัฐบาล ใช้ประโยชน์จาการลงทุนโครงข่ายรถไฟฟ้า เพื่อเป็นบริการสาธารณะอย่างคุ้มค่า

นางสารี ยังระบุว่า ราคาที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 25 บาท โดยไม่มีการติดค่าแรกเข้าเป็นราคาที่ทำได้จริง 25 บาททำได้จริง โดยเมื่อพิจารณา ข้อมูลของกรุงเทพมหานคร ที่ระบุว่า หากกำหนดราคาโดยสาร 65 บาท กทม.จะได้ผลตอบแทน 240,000 ล้านบาท ตลอดสัมปทาน 30 ปี ส่วนข้อมูล ของกระทรวงคมนาคม หากใช้ราคา 49.83 บาท จะทำให้กทม.มีรายได้ 380,200ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี หากนำเงินจำนวนนี้ใช้หนี้เดิมในช่วง 2560-2572 ประมาณ100,000 ล้านบาท กทม.ยังมีกำไรสูงถึง 280,200 ล้านบาท ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค อยากถามว่า กทม.ซึ่งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่น จะทำกำไรร่ำรวยไปทำไมเป็นแสนล้าน ควรกำหนดค่าโดยสารให้ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ องค์กรฯจะติดตามคัดค้านไม่ให้รัฐบาล เอาเรื่องขยายสัมปทานฯ กำหนดราคา 65 บาท เข้า ครม.เด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นข้อผูกมัดรัฐบาลและผู้ใช้บริการ ต้องจ่ายค่าโดยสารแพง

นายสุเมธ องกิตติกุล จากทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ปัญหาการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า ที่มีปัญหาราคาแพงนั้น ที่ผ่านมา เกิดจากการที่รัฐจำเป็นต้องนำเอกชนมาร่วมลงทุน และมีสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า หลายสัญญาตามเส้นทาง และมีความแตกต่างกันเงื่อนไขของสัมปทาน ซึ่งเรื่องนี้ ทีดีอาร์ไอเห็นว่า ในอนาคต จะต้องมีการกำหนดโมเดล ราคาค่าโดยสารมาตรฐานเดียว เป็นโมเดลในทุกระบบร่วมกัน โดยสามารถทำได้ โดยการที่นำรถไฟฟ้าที่รัฐกำลังประมูลก่อสร้าง มากำหนดเงื่อนไขราคา และในอนาคตรัฐสามารถนำเอารถไฟฟ้าที่หมดสัมปทานจากเอกชนมารวมในโมเดล ส่วนรถไฟฟ้าที่เซ็นสัญญากับเอกชนไปแล้ว และสัมปทานไม่หมด ก็เจรจาให้เอกชน เข้ามาอยู่ในโมเดลค่าโดยสารนี้


“เรื่องสัญญาสัมปทานรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องไปเร่งพิจารณาต่อ แต่ควรเร่งจัดทำโมเดลราคาค่าโดยสารมาตรฐาน ให้ได้ข้อสรุป เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา สำหรับรถไฟฟ้าที่จะเปิด หรือประมูลใหม่ ซึ่งเมื่อเกิดโครงข่ายมากขึ้น จะมีปัญหาเรื่องการเจรจาตามมา ทั้งปัญหาค่าแรกเข้า และการแบ่งปันรายได้ในแนวเส้นทาง หากผู้โดยสารเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายระบบ”นายสุเมธกล่าว

ด้านรองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม มีการตั้งคณะทำงานฯ เพื่อศึกษาโครงสร้างราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชน และสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสามารถเข้ามาใช้บริการ ได้มากขึ้น

ส่วนเรื่องการขยายสัมปทานฯ ที่กระทบกับราคาค่าโดยสารนั้นย้ำว่า ในส่วนตัวและในฐานะคนกทม. เห็นว่า ในอนาคต จะมีการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งแน่นอน จะมีผู้สมัครหลายราย เสนอรูปแบบในการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้าในเมือง และราคาค่าโดยสารที่เหมาะสม และหากผู้สมัครรายนั้น ชนะเลือกตั้ง ก็จะนำนโยบายที่หาเสียงไปสู่การปฏิบัติได้

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ระบุว่าที่ผ่านมา ได้มีการหยิบยกปัญหาความไม่ชอบมาพากล ในการเตรียมขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวล่วงหน้าถึง 8 ปี รวมอายุสัมปทานใหม่ ก็จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า มีราคาแพงไปอีกเกือบ 40 ปี ซึ่งเรื่องนี้ ได้มีการอภิปรายในสภาฯ ไปแล้ว และล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อไทย 75 คนได้เข้าชื่อ เสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเรื่องการต่อสัมปทานโดยไม่ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ แต่กลับไปใช้คำสั่ง คสช. ในการพิจารณาต่อสัมปทานให้เอกชน ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่า หากมีการขยายสัมปทานไป ประชาชนจะเสียประโยชน์ใช้รถไฟฟ้าแพงไปอีกหลายสิบปี และไม่มีทางที่นโยบายค่าโดยสารราคาเดียวจะเกิดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนาฯ มีผู้สนใจเข้าฟัง และได้แสดงความเห็น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าจริงในปัจจุบัน บางราย ระบุว่า ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้า นี้สะท้อนความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน โดยผู้มีรายได้น้อย นอกจากไม่มีรายได้พอ จะซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองแล้ว ต้องไปซื้อบ้านอยู่ชานเมือง ปริมณฑล เมื่อจะใช้บริการรถไฟฟ้า เดินทางเข้าเมือง ก็ซ้ำร้าย ค่าโดยสารก็แพง ไม่สามารถใช้บริการได้อีก . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย