เสวนา เอาไง!ค่ารถไฟฟ้าแพง หนุนรัฐทำราคามาตรฐานเดียว ไม่ต่อสัปทานเอกชน



กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – เวทีสัมมนา คลับเฮ้าส์ “เอาไงดี ! ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ทางออกที่ดีของผู้ใช้บริการ” ทั้งภาคประชาชน วิชาการ การเมือง กรมรางฯ เห็นฟ้องต้องทำราคามาตรฐาน ราคาถูก ลดความเหลี่ยมล้ำให้ประชาชนเข้าถึงรถไฟฟ้ามากขึ้น ย้ำรัฐไม่ควรต่อสัมปทานที่กำลังหมดแก่เอกชน เพื่อนำโครงข่ายมาทำราคาได้ และรอผู้ว่า กทม.หลังเลือกตั้งมาแก้ปัญหารถไฟฟ้าในเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเสวนาทางคลับเฮ้าส์ หัวข้อเรื่อง “เอาไงดี ! ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ทางออกที่ดีของผู้ใช้บริการ” ซึ่งมีหลายภาคส่วนเข้าร่วม ประกอบด้วย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง จากสภาองค์กรของผู้บริโภค นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม


โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ระบุว่า สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้แสดจุดยืนในการคัดค้า การต่อสัญญาสัมปทานล่วงหน้ารถไฟฟ้าสีเขียว ที่มีการเชื่อมโยงกับราคาค่าโดยสาร รถไฟฟ้า ไปแล้ว ซึ่งตามข้อมูลที่ระบุว่า เมื่อขยายสัญญาสัมปทานออกไปอีก 30 ปี จากปี 2572 ถึงปี 2602 เอกชนจะมีการจัดเก็บค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท โดยสภาองค์กรผู้บริโภค ได้ทำหนังสือคัดค้าน ไปถึง คณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร โดยเห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทำให้ราคารถไฟฟ้า เป็นราคาเดียวที่ถูก เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม สามารถเข้าใช้บริการได้ ไม่เกิดปัญหาเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะเป็นแนวทางที่รัฐบาล ใช้ประโยชน์จาการลงทุนโครงข่ายรถไฟฟ้า เพื่อเป็นบริการสาธารณะอย่างคุ้มค่า

นางสารี ยังระบุว่า ราคาที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 25 บาท โดยไม่มีการติดค่าแรกเข้าเป็นราคาที่ทำได้จริง 25 บาททำได้จริง โดยเมื่อพิจารณา ข้อมูลของกรุงเทพมหานคร ที่ระบุว่า หากกำหนดราคาโดยสาร 65 บาท กทม.จะได้ผลตอบแทน 240,000 ล้านบาท ตลอดสัมปทาน 30 ปี ส่วนข้อมูล ของกระทรวงคมนาคม หากใช้ราคา 49.83 บาท จะทำให้กทม.มีรายได้ 380,200ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี หากนำเงินจำนวนนี้ใช้หนี้เดิมในช่วง 2560-2572 ประมาณ100,000 ล้านบาท กทม.ยังมีกำไรสูงถึง 280,200 ล้านบาท ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค อยากถามว่า กทม.ซึ่งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่น จะทำกำไรร่ำรวยไปทำไมเป็นแสนล้าน ควรกำหนดค่าโดยสารให้ประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ องค์กรฯจะติดตามคัดค้านไม่ให้รัฐบาล เอาเรื่องขยายสัมปทานฯ กำหนดราคา 65 บาท เข้า ครม.เด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นข้อผูกมัดรัฐบาลและผู้ใช้บริการ ต้องจ่ายค่าโดยสารแพง

นายสุเมธ องกิตติกุล จากทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ปัญหาการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า ที่มีปัญหาราคาแพงนั้น ที่ผ่านมา เกิดจากการที่รัฐจำเป็นต้องนำเอกชนมาร่วมลงทุน และมีสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า หลายสัญญาตามเส้นทาง และมีความแตกต่างกันเงื่อนไขของสัมปทาน ซึ่งเรื่องนี้ ทีดีอาร์ไอเห็นว่า ในอนาคต จะต้องมีการกำหนดโมเดล ราคาค่าโดยสารมาตรฐานเดียว เป็นโมเดลในทุกระบบร่วมกัน โดยสามารถทำได้ โดยการที่นำรถไฟฟ้าที่รัฐกำลังประมูลก่อสร้าง มากำหนดเงื่อนไขราคา และในอนาคตรัฐสามารถนำเอารถไฟฟ้าที่หมดสัมปทานจากเอกชนมารวมในโมเดล ส่วนรถไฟฟ้าที่เซ็นสัญญากับเอกชนไปแล้ว และสัมปทานไม่หมด ก็เจรจาให้เอกชน เข้ามาอยู่ในโมเดลค่าโดยสารนี้


“เรื่องสัญญาสัมปทานรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องไปเร่งพิจารณาต่อ แต่ควรเร่งจัดทำโมเดลราคาค่าโดยสารมาตรฐาน ให้ได้ข้อสรุป เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา สำหรับรถไฟฟ้าที่จะเปิด หรือประมูลใหม่ ซึ่งเมื่อเกิดโครงข่ายมากขึ้น จะมีปัญหาเรื่องการเจรจาตามมา ทั้งปัญหาค่าแรกเข้า และการแบ่งปันรายได้ในแนวเส้นทาง หากผู้โดยสารเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายระบบ”นายสุเมธกล่าว

ด้านรองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม มีการตั้งคณะทำงานฯ เพื่อศึกษาโครงสร้างราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชน และสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสามารถเข้ามาใช้บริการ ได้มากขึ้น

ส่วนเรื่องการขยายสัมปทานฯ ที่กระทบกับราคาค่าโดยสารนั้นย้ำว่า ในส่วนตัวและในฐานะคนกทม. เห็นว่า ในอนาคต จะมีการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งแน่นอน จะมีผู้สมัครหลายราย เสนอรูปแบบในการจัดการสัมปทานรถไฟฟ้าในเมือง และราคาค่าโดยสารที่เหมาะสม และหากผู้สมัครรายนั้น ชนะเลือกตั้ง ก็จะนำนโยบายที่หาเสียงไปสู่การปฏิบัติได้

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ระบุว่าที่ผ่านมา ได้มีการหยิบยกปัญหาความไม่ชอบมาพากล ในการเตรียมขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียวล่วงหน้าถึง 8 ปี รวมอายุสัมปทานใหม่ ก็จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า มีราคาแพงไปอีกเกือบ 40 ปี ซึ่งเรื่องนี้ ได้มีการอภิปรายในสภาฯ ไปแล้ว และล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อไทย 75 คนได้เข้าชื่อ เสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเรื่องการต่อสัมปทานโดยไม่ดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ แต่กลับไปใช้คำสั่ง คสช. ในการพิจารณาต่อสัมปทานให้เอกชน ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่า หากมีการขยายสัมปทานไป ประชาชนจะเสียประโยชน์ใช้รถไฟฟ้าแพงไปอีกหลายสิบปี และไม่มีทางที่นโยบายค่าโดยสารราคาเดียวจะเกิดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนาฯ มีผู้สนใจเข้าฟัง และได้แสดงความเห็น ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าจริงในปัจจุบัน บางราย ระบุว่า ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้า นี้สะท้อนความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน โดยผู้มีรายได้น้อย นอกจากไม่มีรายได้พอ จะซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองแล้ว ต้องไปซื้อบ้านอยู่ชานเมือง ปริมณฑล เมื่อจะใช้บริการรถไฟฟ้า เดินทางเข้าเมือง ก็ซ้ำร้าย ค่าโดยสารก็แพง ไม่สามารถใช้บริการได้อีก . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]